ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผู้ปกครอง 7 รุ่นพี่รับน้องโหดทำร้าย “น้องเปรม” เสียชีวิต ร่วมเจรจาพ่อเหยื่อเพื่อไกล่เกลี่ยเยียวยา พร้อมไหว้ขอโทษแทนบุตรหลาน ด้านพ่อเหยื่อวอนทุกมหาวิทยาลัยยกเลิกรับน้องหยุดสูญเสียซ้ำซาก ส่วนความคืบหน้าคดี ตร.สอบปากคำ นศ.รุ่นพี่แล้ว 25 คน รุ่นน้อง 33 คน และรอผลชันสูตรพลิกศพก่อนสรุปสำนวนคดี
วันนี้ (18 มี.ค.) ความคืบหน้าคดีรุ่นพี่รับน้องโหด ทำร้ายร่างกาย นายพัสยศ ชลภักดี หรือ “น้องเปรม” อายุ 19 ปี นักศึกษา ปวส. ชั้นปีที่ 1 สาขาช่างกลโรงงาน วิทยาลัยนวัตกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.อีสาน) นครราชสีมา เสียชีวิตและมีรุ่นน้องบาดเจ็บอีก 2 คน เมื่อคืนวันที่ 13 มี.ค. โดยมีรุ่นพี่ 7 คนถูกแจ้งดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ และมีความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ กรณีมั่วสุมดื่มสุรา นั้น
ล่าสุดวันนี้ (18 มี.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรมะเริง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ผศ.สุรพจน์ วัชโรภากุล รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ มทร.อีสาน นครราชสีมา ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เพื่อให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคดี โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการให้ปากคำและตอบข้อซักถาม
จากนั้น นายเอกชัย ชลภักดี อายุ 55 ปี พ่อของน้องเปรม ผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาที่ สภ.มะเริง ตามที่นัดหมายกับผู้บริหารและอาจารย์ มทร.อีสาน โดยเป็นการเจรจากับกลุ่มผู้ปกครองของนักศึกษารุ่นพี่ 7 คนที่เป็นผู้ถูกกล่าวหา ทันทีที่นายเอกชัยเดินเข้ามาตัวอาคารสถานีตำรวจ กลุ่มผู้ปกครองได้พากันยกมือไหว้และกล่าวขอโทษแทนบุตรหลาน ต่อมาทั้งหมดได้เข้าไปร่วมเจรจาไกล่เกลี่ยทางคดี โดยห้ามผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปด้านใน
พ.ต.อ.คณัสนันท์ สุวรรณทรัพย์ ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.มะเริง เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีว่า ขณะนี้ได้สอบปากคำนักศึกษารุ่นพี่จำนวน 25 คน และนักศึกษารุ่นน้อง 33 คน จากทั้งหมด 38 คน คงเหลือ 5 คนที่จะมาในเร็วๆ นี้ ส่วนวันนี้ได้เชิญอาจารย์มาให้ปากคำ ส่วนใหญ่เป็นการชี้แจงมาตรการซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติและข้อห้าม โดย มทร.อีสานได้ออกประกาศทั้งปิดป้ายประชาสัมพันธ์ในสถาบัน และเผยแพร่ในโลกออนไลน์ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564 ต่อไปจะเชิญเจ้าของสถานที่มาให้ข้อมูล เพื่อให้ครบถ้วนสมบูรณ์ทั้งพยานที่เกี่ยวข้องและพยานแวดล้อม
จากนั้นรอผลชันสูตรพลิกศพจากสถาบันนิติเวชมาประกอบสำนวนการดำเนินคดี เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุให้เสียชีวิต ส่วนข้อหาอื่นๆ อยู่ระหว่างรวบรวมซึ่งต้องดำเนินการให้เร็วที่สุดและให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย สำหรับการบังคับให้นักศึกษารุ่นน้องแก้ผ้าเป็นความผิด มาตรา 388 ผู้ใดกระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัลโดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกายหรือกระทำการลามกอย่างอื่น สำหรับความผิดเกี่ยวกับพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โรคติดต่อ 2558 ต้องมาเทียบเคียงกับคำประกาศของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา ว่าจะสามารถแจ้งข้อกล่าวหาอะไรได้อีกบ้าง
นายเอกชัย ชลภักดี อายุ 55 ปี พ่อของน้องเปรม ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ทุกฝ่ายไม่ต้องการให้เกิดขึ้น ขอให้ มหาวิทยาลัยทุกแห่งทั่วประเทศออกกฎข้อบังคับเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ความสูญเสียนี้เกิดขึ้นอีกโดยเฉพาะการรับน้องทางที่ดีที่สุดคือขอให้ยกเลิกไปเลย ไม่ให้มีการจัดกิจกรรมที่สร้างวัฒนธรรมผิดๆ แก่เยาวชนคนรุ่นใหม่ จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยสร้างความเสียใจแก่บรรดาผู้ปกครองและครูบาอาจารย์ในอนาคตอีก