xs
xsm
sm
md
lg

เปิดหัวอกพ่อแม่รับไม่ได้! แฉ “น้องเปรม” เหยื่อรับน้องโหด ถูกกลุ่มรุ่นพี่ชกหน้าอกจนล้มฟุบดับ ลั่นดำเนินคดีถึงที่สุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - พ่อแม่ติดต่อรับศพ “น้องเปรม” เหยื่อรุ่นพี่ มทร.อีสานรับน้อง จาก รพ.ค่ายสุรนารี ส่งชันสูตร รพ.ตำรวจ เผยหัวอกพ่อแม่ทำใจและรับไม่ได้ ส่งเสียลูกเรียนตั้งความหวังไว้กับลูกแต่ต้องมามีจุดจบแบบนี้ ยันดำเนินคดีถึงที่สุด ชี้ทำร้ายรุนแรงเกินเหตุ เพื่อนแฉกลุ่มรุ่นพี่ 6-7 คนชกต่อยหน้าอก ท้องจนล้มฟุบและเสียชีวิต ด้านอธิการฯ ยันช่วยเหลือครอบครัวเหยื่อเต็มที่ ลั่นเชือดรุ่นพี่ฝ่าฝืนรับน้องทุกคนทั้งทางวินัยขั้นสูงสุดไล่ออก และดำเนินคดีเด็ดขาด

ความคืบหน้ากรณี นายพัสยศ ชลภักดี หรือ “น้องเปรม” อายุ 19 ปี นักศึกษา ปวส. ชั้นปีที่ 1 แผนกช่างกลโรงงาน สาขาวิทยาลัยนวัตกรรมอาชีพ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.อีสาน) จ.นครราชสีมา เสียชีวิตจากการรับน้องใหม่จากกลุ่มรุ่นพี่ เมื่อคืนวันที่ 13 มี.ค. ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น


ล่าสุดวันนี้ (15 มี.ค.) เวลา 09.30 น. นายเอกชัย ชลภักดี อายุ 55 ปี และ นางนิตยา ชลภักดี อายุ 42 ปี พ่อ และแม่ของน้องเปรม พร้อมด้วย ผศ.สุรพจน์ วัชโรภากุล รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา และศิษย์เก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ได้เดินทางไปติดต่อขอรับศพของน้องเปรมที่โรงพยาบาลค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยครอบครัวเตรียมนำศพของ “น้องเปรม” ส่งไปตรวจพิสูจน์หรือชันสูตรหาสาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลตำรวจ กรุงเทพฯ

นายเอกชัย ชลภักดี พ่อของ “น้องเปรม” เปิดเผยว่า หลังจากทราบข่าว พ่อและแม่ก็ได้เดินทางมาจากจังหวัดนครศรีธรรมราชเพื่อมาดูศพลูกชาย หลังจากเดินทางมาถึงก็ได้พบกับกลุ่มรุ่นพี่ที่ลงมือก่อเหตุทำร้ายร่างกายน้องเปรมแล้ว มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 6-7 คน โดยรุ่นพี่ทุกคนยอมรับผิด และได้มากราบเท้าพ่อ โดยยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเกิดจากการกระทำรับน้องที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ ซึ่งตนได้ว่ากล่าวตักเตือนกลุ่มรุ่นพี่ไป ทั้งนี้เหตุการณ์รับน้องรุนแรงเคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งตนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับใครอีก


ตนเคยดูข่าวและเคยเสียใจกับเหตุการณ์แบบนี้ พอมาเจอกับตัวเองรู้สึกปวดใจ เพราะพ่อแม่ทุกคนตั้งความหวังไว้กับลูก ซึ่งตนยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด โดยเมื่อตนทราบข่าวน้องเปรมเสียชีวิตตนรู้สึกเสียใจเหมือนจะเป็นลม ไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับลูกชาย พ่อแม่ส่งให้ลูกไปเรียน ตั้งความหวังไว้กับลูก แต่ต้องมามีจุดจบแบบนี้ ซึ่งขณะนี้ตนยังทำใจไม่ได้

นางนิตยา ชลภักดี อายุ 42 ปี แม่ของ “น้องเปรม” เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อนของน้องเปรมเล่าให้ฟังว่า ขณะเกิดเหตุมีทั้งกลุ่มรุ่นพี่ และกลุ่มของรุ่นน้องไปด้วยกันหลายคน ซึ่งพวกเพื่อนของน้องเปรมก็ยอมรับว่า รุ่นน้องทุกคนถูกต่อยที่บริเวณหน้าอก และท้อง แต่ตนไม่รู้ว่าถูกต่อยมากน้อยแค่ไหน น้องเปรมถึงได้ล้มฟุบไป ตนทราบแต่เพียงว่ามีการต่อยหน้าอกของน้อง

นายพัสยศ ชลภักดี หรือ “น้องเปรม” นักศึกษาปี 1 มทร.อีสาน ผู้เสียชีวิต
ทั้งนี้ตนมองว่าเหตุการณ์ครั้งนี้รุนแรงเกินไป เพราะหากไม่ทำรุนแรงน้องเปรมคงไม่เสียชีวิต เพราะน้องเปรมเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง หากไม่ถูกกระทำรุนแรงหรือโดนต่อยเพียงครั้งเดียว น้องเปรมก็ไม่น่าถึงกับเสียชีวิต ซึ่งคุณแม่มองว่าน้องน่าจะถูกกระทำรุนแรงหลายครั้ง เพราะหากไม่โดนกระทำรุนแรงน้องเปรมก็คงไม่ตาย ทั้งนี้ตนอยากฝากบอกพวกรุ่นพี่ทั้งหลายว่าอย่าไปทำแบบนี้กับใครอีก อยากให้กรณีของน้องเปรมเป็นกรณีสุดท้าย และไม่เกิดเรื่องแบบนี้กับรุ่นน้องขึ้นอีก

ผศ.สุรพจน์ วัชโรภากุล รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา และศิษย์เก่าสัมพันธ์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ซึ่งได้เดินทางมาช่วยอำนวยความสะดวกในการติดต่อขอรับศพให้กับครอบครัวของน้องเปรม เปิดเผยว่า หลังทราบเรื่องทางมหาวิทยาลัยฯ ก็ได้เดินทางไปที่เกิดเหตุ และให้ความช่วยเหลือครอบครัวของน้องเปรมทันที โดยทางมหาวิทยาลัยกำลังเร่งดำเนินการตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด และยืนยันว่าจะลงโทษนักศึกษารุ่นพี่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน โดยจะมีบทลงโทษตามระดับความผิดของแต่ละคน ตั้งแต่ตัดคะแนนความประพฤติ พักการเรียน ให้ออก และโทษสูงสุดคือ ไล่ออก โดยจะพิจารณาสอบสวน และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างใกล้ชิด

นายเอกชัย ชลภักดี พ่อของ “น้องเปรม”
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางมหาวิทยาลัยฯ ไม่ได้ทราบเรื่อง และทางมหาวิทยาลัยฯ ยังสงสัยอยู่ว่าทำไมกลุ่มรุ่นพี่ถึงจัดกิจกรรมรับน้องในช่วงนี้ เพราะช่วงนี้เป็นช่วงปลายภาคเรียน อีกทั้งทางมหาวิทยาลัยฯ มีนโยบายในการห้ามจัดกิจกรรมรับน้องทั้งในสถานที่ และนอกสถานที่อย่างเด็ดขาดอยู่แล้ว

ทางด้าน รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยฯขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของน้องเปรม ที่ต้องสูญเสียบุตรผู้เป็นที่รัก และอนาคตของชาติ อันเป็นผลจากการกระทำของกลุ่มนักศึกษาที่กระทำลงไปโดยขัดกับประกาศและกฎระเบียบของมหาวิทยาลัยอย่างร้ายแรง ซึ่งทางมหาวิทยาลัยฯ ได้ดำเนินการประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างใกล้ชิดเพื่อเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และควบคุมตัวผู้กระทำผิด เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง และดำเนินคดีถึงที่สุด

นางนิตยา ชลภักดี อายุ 42 ปี แม่ของ “น้องเปรม”
เบื้องต้นทราบว่าดหตุเกิดขึ้นในช่วงปิดภาคการศึกษา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2565 เวลาประมาณ 23.00 น. โดยมีผู้ร่วมกิจกรรมเป็นนักศึกษา ระดับ ปวส. ชั้นปีที่ 1 และ ปวส. ปีที่ 2 เข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 60-70 คน (รุ่นน้อง 38 คน, รุ่นพี่ 32 คน) สถานที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ทุ่งนาและป่าไร่อ้อย บ้านหนองระเวียง ต.หนองระเวียง อ.เมือง จ.นครราชสีมา อยู่ภายนอกมหาวิทยาลัยฯ ห่างจากมหาวิทยาลัยฯ ประมาณ 10 กิโลเมตร โดยมีกลุ่มรุ่นพี่ผู้ก่อเหตุที่เป็นผู้รับผิดชอบกิจกรรมนี้จำนวน 6-7 ราย โดยทางมหาวิทยาลัยฯ ได้อำนวยความสะดวก และให้ความดูแลช่วยเหลือผู้ปกครองของน้องเปรมอย่างใกล้ชิด และดีที่สุด

ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยขอประณามการกระทำของนักศึกษาที่ฝ่าฝืนกฎระเบียบมหาวิทยาลัย และขอให้นักศึกษาทุกคนพึงสังวรถึงผลอันร้ายแรงที่อาจจะเกิดขึ้นกับการกระทำที่ละเมิดกฎระเบียบ และขอย้ำไม่ให้กระทำกิจกรรมที่ละเมิดฝ่าฝืนกฎระเบียบในเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด และขอให้ทราบว่ามหาวิทยาลัยฯ พร้อมจะดำเนินการทางวินัยขั้นสูงสุดต่อนักศึกษาที่ฝ่าฝืนกฎระเบียบในเรื่องนี้อย่างแน่นอน



ผศ.สุรพจน์ วัชโรภากุล รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา มทร.อีสาน










กำลังโหลดความคิดเห็น