เชียงใหม่ - สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่จับมือจิตอาสาจากสมาคมกีฬามอเตอร์ไซค์ไต่เขาแห่งประเทศไทย นำรถมอเตอร์ไซค์ไต่เขาแบบใช้ไฟฟ้าคันแรกของประเทศไทยเข้าร่วมสนับสนุนภารกิจลาดตระเวนและดับไฟป่า รวมทั้งส่งเวชภัณฑ์ให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ที่ยากต่อการเข้าถึง จนกว่าจะสิ้นสุดฤดูไฟป่าหมอกควันปีนี้
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ที่สถานีควบคุมไฟป่าภูพิงค์ ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายอิศเรศ สิทธิโรจนกุล ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ที่ 16 เชียงใหม่ และนายอิสระ ศิริไสยาสน์ ผู้อำนวยการ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันชมการสาธิตการใช้รถจักรยานยนต์หรือมอเตอร์ไซค์วิบากไต่เขาแบบไฟฟ้า นำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย ราคาประมาณ 185,000 บาท เป็นคันแรกของประเทศไทย ที่ทางสมาคมกีฬามอเตอร์ไซค์ไต่เขาแห่งประเทศไทย ในฐานะจิตอาสา นำมาร่วมสนับสนุนภารกิจดับไฟป่า กับเจ้าหน้าที่หน่วยเหยี่ยวไฟ และหน่วยดับไฟป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมกับมอเตอร์ไซค์ไต่เขาแบบปกติ ของสมาชิกกีฬามอเตอร์ไซค์ไต่เขาแห่งประเทศไทย กว่า 20 คัน ในห้วงของการเกิดไฟป่าในฤดูแล้งไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2565
โดยข้อดีของมอเตอร์ไซค์ไต่เขานั้น ทำให้สามารถเข้าถึงพื้นที่ป่าเขาสูงชันและสภาพแวดล้อมที่ไม่สะดวกด้วยการเดินเท้าได้ง่ายขึ้น เพื่อร่วมสนับสนุนภารกิจปฏิบัติการดับไฟป่า การลาดตระเวนตรวจสอบจับกุมผู้ลักลอบเผาป่า หรือสามารถย่นเวลาในการเดินทางเข้าไปช่วยเหลือด้านการปฐมพยาบาลให้แก่เจ้าหน้าที่เมื่อได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติงาน ซึ่งผู้ขับขี่สามารถบรรทุกเครื่องมือหรือชุดปฐมพยาบาลสะพายด้านหลังไปได้อย่างสะดวก โดยเฉพาะการลาดตระเวนเฝ้าผู้ลักลอบเผาป่า มอเตอร์ไซค์ไต่เขาแบบไฟฟ้าจะเงียบ ไม่มีเสียง เหมือนมอเตอร์ไซค์แบบปกติ ซึ่งผู้ลักลอบเผาป่าจะไม่ทันตั้งตัวหลบหนี
ทั้งนี้ นายอิสระ ศิริไสยาสน์ ผู้อำนวยการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ บอกว่า สภาพพื้นที่ของป่าเขาในจังหวัดเชียงใหม่มีความสูงชัน การเดินทางเข้าถึงยากลำบาก ซึ่งการนำมอเตอร์ไซค์ไต่เขามาใช้สนับสนุนการทำงานจะช่วยในการลาดตระเวน เฝ้าระวัง ตรวจสอบ จับกุมผู้ลักลอบเผาป่า ให้เข้าถึงพื้นที่ป่าเขาสูงชันที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าถึงด้วยการเดินเท้าได้อย่างรวดเร็ว เพราะที่ผ่านมาการเกิดไฟป่ามาจากฝีมือของมนุษย์ทั้งสิ้น ซึ่งรถมอเตอร์ไซค์ไต่เขาแบบไฟฟ้าจะเงียบ ไม่เสียงดังเหมือนมอเตอร์ไซค์ทั่วไป ทำให้ผู้ลักลอบเผาป่าจะไม่ทันตั้งตัวหลบหนี โดยจังหวัดเชียงใหม่เน้นป้องปรามใน 3 พื้นที่เป็นพิเศษ ได้แก่ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์, อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว ที่เป็นพื้นที่เสี่ยงเกิดไฟป่าซ้ำซากและรุนแรงเป็นประจำทุกปี
ขณะที่นายณัฐวุฒิ เชื้อบุญมี จิตอาสาพระราชทานและสมาชิกสมาคมกีฬามอเตอร์ไซค์ไต่เขาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การใช้มอเตอร์ไซค์ไต่เขาไฟฟ้า เป็นพลังงานสะอาด ลดมลพิษจากไอเสีย และมลพิษทางเสียงจากเครื่องยนต์ รถคันนี้มีน้ำหนักเบา เหมาะสำหรับตระเวนในป่า เข้าตรวจพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว โดยจากการชาร์จ 1 ครั้ง ประมาณ 1 ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ 1-2 ชั่วโมงบนทางวิบาก ส่วนบนพื้นถนนธรรมดาจะไม่สิ้นเปลืองมาก ซึ่งสามารถช่วยย่นระยะเวลาในการเดินทางเข้าไปถึงพื้นที่เป้าหมาย โดยเฉพาะเมื่อมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติงาน ผู้ขับขี่ก็สามารถสะพายชุดปฐมพยาบาลไปได้อย่างสะดวก
ส่วนในอนาคตอุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้ในภารกิจดับไฟป่า จะมีการนำระบบไฟฟ้าเข้ามาทดแทนแบบใช้น้ำมันมากขึ้น เพราะขณะนี้น้ำมันมีราคาแพงขึ้น ซึ่งนอกจากจะมีความปลอดภัยแล้วยังมีน้ำหนักเบากว่า รวมทั้งจะมีการนำโดรนของกลุ่มประชาชนจิตอาสา หรืออากาศยานไร้คนขับ หรือ UAV ของกองทัพอากาศ มาใช้ลาดตระเวน ตรวจสอบ ชี้เป้าจุดเกิดไฟป่าต่างๆ เพื่อสนับสนุนทีมเจ้าหน้าที่ภาคพื้นที่จะเข้าดับไฟป่าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
