จันทบุรี - อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ชี้มาตรการปิดเมืองของจีนจากปัญหาโควิด-19 อาจกระทบส่งออกทุเรียนตะวันออกปี 65 สวนทางผลผลิตที่มีมากกว่าเดิมถึง 100,000 ตัน จนหวั่นว่าจะเกิดภาวะล้นตลาด เร่งจับมือเครือข่ายกระจายผลผลิตขายคนไทยในราคาเป็นธรรม
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เผยถึงสถานการณ์การส่งออกทุเรียนจากภาคตะวันออกไปยังประเทศจีน ว่า ในปีนี้อาจไม่ดีเหมือนปีก่อนๆ ส่วนหนึ่งเกิดจากปัจจัยเรื่องผลผลิตทุเรียน โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นแหล่งปลูกรายใหญ่ที่ในปี 2565 นี้มีผลผลิตมากถึง 740,000 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีจำนวน 600,000 ตัน ซึ่งปริมาณผลผลิตที่มีมากอาจก่อให้เกิดปัญหาล้นตลาด
ส่วนอีกปัจจัยคือปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทำให้ประเทศจีนประกาศมาตรการปิดเมืองทั้งในเขตเฉิงตู ปักกิ่ง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกทุเรียนของไทยไปจีนที่มากถึงร้อยละ 80 ที่อาจตกค้างเป็นจำนวนมาก
“ตั้งแต่ปีที่ผ่านมามีความพยายามทดสอบส่งทุเรียนแช่แข็งไปทางเรือแต่พบว่ามีสินค้าตกค้างอยู่มากกว่า 1,000 ตู้เช่นกัน ดังนั้นในวันนี้ทางกรมฯ จึงต้องหาแนวทางรับมือปัญหาทุเรียนล้นตลาด ด้วยการจับมือกับภาคีเครือข่ายต่างๆ เพื่อส่งเสริมให้มีการจัดตลาดนัดเกษตรเพื่อสนับสนุนให้คนไทยหันมาบริโภคทุเรียนมากขึ้นภายใต้ราคาที่เป็นธรรม เพื่อช่วยระบายผลผลิตของเกษตรกร”
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ยังระบุอีกว่าปัญหาการลักลอบตัดทุเรียนอ่อนออกขาย ยังส่งผลเสียต่อการจำหน่ายทุเรียนไทยได้ไม่เท่ากับปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งนี้เพราะมาตรฐานผลผลิตของเกษตรกรในปีนี้อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ และผู้ประกอบการล้งให้ความร่วมมือขึ้นป้ายประกาศไม่รับซื้อทุเรียนอ่อน หรือทุเรียนตกเกรด
นอกจากนั้น อีกหนึ่งปัญหาที่น่าเป็นห่วงคือ ผลผลิตทุเรียนจากประเทศกัมพูชา ที่เริ่มเข้ามาตีตลาด เนื่องจากกัมพูชามีผลผลิตไม่น้อยกว่าประเทศไทยจึงทำให้เกิดปัญหาทุเรียนกัมพูชาทะลักข้ามแดนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
อีกทั้งในปีนี้ประเทศจีนอนุมัติให้มีการนำเข้าผลทุเรียนสดเฉพาะทุเรียนที่ไปจากประเทศไทยเท่านั้น จึงหวั่นว่าปัญหาทุเรียนกัมพูชาที่มีจำนวนมากอาจถูกนำมาสวมสิทธิการส่งออกไปยังประเทศจีนได้
