xs
xsm
sm
md
lg

จนท.ป่าไม้แค้นเห็นอดีตเมียอยู่กับแฟนใหม่ควงปืนบุกกระหน่ำยิงหวังฆ่ายกครัว ลูกเลี้ยงถูกกระสุนเจาะคอดับที่เหลือหนีทัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บุรีรัมย์ - จนท.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ จ.บุรีรัมย์ แค้นเห็นอดีตเมียที่เพิ่งขอเลิกได้เดือนเดียวอยู่กับแฟนใหม่
ควงปืนลูกซองยาวบุกบ้านกลางดึกหวังฆ่าทิ้งยกครัว อดีตเมีย แฟนใหม่ ลูกชายคนเล็กวัย 12 ปี วิ่งหนีตายคนละทาง ลูกเลี้ยงคนโตหนีไม่ทันถูกกระสุนเจาะคอดับคาบ้าน สุดเลือดเย็นใช้ปืนจ่ออดีตแม่ยายที่นอนป่วยติดเตียงก่อนเปลี่ยนใจ อดีตเมียรับไม่ได้วอน ตร.จับตาย เพราะเคยขู่ฆ่าทั้งบ้าน



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 00.30 น. (13 มี.ค. 65) พ.ต.ท.อภิศักดิ์ แสงดาว สารวัตร (สอบสวน) สภ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันเสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 178 ม.8 ต.หูทำนบ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนจะประสานแพทย์เวรฯ รพ.ปะคำ และหน่วยกู้ภัยฯ ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบร่างนายณัฐพงษ์ อานไธสง อายุ 20 ปี ลูกชายเจ้าของบ้านนอนหงายเสียชีวิตอยู่ภายในห้อง ในสภาพสวมเสื้อยืดสีแดง กางเกงขาสั้นสีดำ ตรวจสอบเบื้องต้นพบบริเวณลำคอ และใต้ใบหูข้างซ้าย มีรอยถูกกระสุนปืนยิงเป็นแผลฉกรรจ์ เลือดไหลนองเต็มพื้น ข้าวของกระจัดกระจาย ทั้งนี้ยังพบรอยกระสุนปืนตามผนังบ้านหลายจุด และปลอกกระสุนตกกระจายเกลื่อนทั้งในและนอกบ้านมากกว่า 20 ปลอก นอกจากนั้นยังพบรถยนต์ 2 คัน คือ รถปิกอัพยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สี่ประตู สีดำ หมายเลขทะเบียน งข 4198 นครราชสีมา และรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า ยารีส กน 685 บุรีรัมย์ มีรอยถูกกระสุนยิงถล่มคล้ายกับระบายความแค้นจนเป็นรูพรุนมากกว่า 10 รู

ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายพิทพิรุณ พิรภพ หรือแกลบ อายุ 45 ปี ปัจจุบันเป็นเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าปมการก่อเหตุ เพราะความหึงหวงเนื่องจากนายพิทพิรุณ ผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นอดีตสามี แค้นที่เห็นอดีตภรรยาอยู่กับแฟนใหม่ในบ้าน จึงได้ใช้อาวุธปืนลูกซองประจำกายที่ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนป้องกันรักษาป่า ในการก่อเหตุกระหน่ำยิงบ้าน รถยนต์ และหวังจะยิงอดีตภรรยา แฟนใหม่ อดีตแม่ยาย และลูกติดอดีตภรรยาอีก 2 คน เพื่อระบายความแค้น

แต่อดีตภรรยา แฟนใหม่ และลูกคนเล็กกระโดดหนีออกหน้าต่างไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านได้ทันจึงรอดตาย แต่ลูกติดภรรยาคนโตหนีไม่ทันจึงถูกยิงเสียชีวิตคาบ้าน ทั้งนี้ นายพิทพิรุณยังได้ใช้ปืนกระบอกดังกล่าวจ่ออดีตแม่ยายเพื่อหวังปลิดชีพระบายแค้นด้วย แต่จู่ๆ ก็เปลี่ยนใจทำให้แม่ยายรอดตาย


จากการสอบถาม น.ส.กัลยา อานไธสง อายุ 37 ปี แม่ผู้เสียชีวิต และเป็นอดีตภรรยาของผู้ก่อเหตุ เล่าให้ฟังว่า ตนได้แยกทางกับสามีคนแรกตั้งแต่ลูกคนโตอายุ 3 ขวบ ก็เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมาตลอด กระทั่งเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาได้ไปรับประทานข้าวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ อ.โนนดินแดง แล้วนายพิทพิรุณก็มาจีบ หลังจากนั้นก็คบหาอยู่กินกันแบบสามีภรรยา แต่ช่วงที่อยู่กินด้วยกัน 2 ปี นายพิทพิรุณก็มีนิสัยใจร้อน โมโหร้าย โดยเฉพาะเวลาเมา และหึงหวงมาก เห็นคุยกับใครก็ไม่ได้ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนผู้หญิงหรือผู้ชาย ที่ผ่านมาเคยทำร้ายและถือปืนมาขู่ฆ่าตนเอง

จึงได้แจ้งความต่อตำรวจก็ถูกจับเข้าห้องขังแค่คืนเดียวก็ปล่อยออกมาก็มาขอโทษตนก็ให้โอกาส แต่ยังมีนิสัยเหมือนเดิม ตนก็เลยขอเลิกเพราะทนพฤติกรรมไม่ไหว ก็ไม่ได้ติดต่อกันมาประมาณเดือนกว่าแล้ว ประกอบกับตนเองก็มีแฟนใหม่ที่เพิ่งคบหาดูใจกันได้ประมาณ 1 เดือน


กระทั่งล่าสุดเมื่อประมาณ 5 ทุ่ม นายพิทพิรุณได้โทรศัพท์มาหา แต่ตนไม่รับสายเพราะไม่อยากคุยด้วย ไม่นานก็เห็นนายพิทพิรุณขี่รถจักรยานยนต์มาที่บ้านมาตะโกนเรียกตนเองที่หน้าต่าง แต่ตนก็ไม่ออกไป นายพิทพิรุณจึงขี่ จยย.กลับ ไม่นานก็ขับรถยนต์มีตราข้างรถคล้ายกับรถ จนท.มาที่บ้านอีกรอบ พร้อมถือปืนลูกซองยาวมาด้วย แล้วตะโกนให้ตนออกไปหา ตนเห็นท่าไม่ดีก็เลยบอกให้แฟนใหม่หลบออกไปหลังบ้านก่อน แล้วตนก็พยายามบอกให้นายพิทพิรุณใจเย็น มีอะไรก็ค่อยพูดกัน แต่นายพิทพิรุณก็ไม่ฟัง ได้ใช้ปืนกระหน่ำยิงบ้าน ยิงรถยนต์ ตนจึงรีบวิ่งเข้าไปหลบในห้องน้ำ แต่ด้วยความเป็นห่วงลูกชายของตน 2 คนที่ยังอยู่ในบ้าน จึงออกจากห้องน้ำไปดูลูก

แต่นายพิทพิรุณก็บุกเข้ามาในบ้าน ตนจึงบอกให้ลูกซ่อนตัว แล้วตนก็กระโดดออกไปทางหน้าต่างไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วยเพราะกลัว กระทั่งเสียงปืนเงียบลงตนจึงรีบกลับมาดูลูกที่บ้านก็พบว่าลูกชายคนโตถูกยิงเสียชีวิตแล้ว ตกใจมากทำอะไรไม่ถูก จากนั้นเพื่อนบ้านจึงโทร.แจ้ง 191 ให้มาตรวจสอบและติดตามตัวผู้ก่อเหตุ รับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากให้ตำรวจจับตายไม่ต้องจับติดคุก หากออกมาอาจมีศพที่สองเพราะเคยขู่ฆ่าทั้งบ้าน


ด้าน นายสุระ ไกรษร อายุ 44 ปี แฟนใหม่ บอกว่า ตนเพิ่งคบหาดูใจกับฝ่ายหญิงได้ประมาณ 1 เดือนเศษ เพราะคิดว่าทั้งสองเลิกรากันแล้ว โดยช่วงที่คบหากันตนก็จะไปๆ มาๆ บางครั้งก็ช่วยรับแม่ของฝ่ายหญิงที่นอนป่วยติดเตียงไปส่ง รพ.ตามหมอนัด แต่เป็นคืนแรกที่ตนมานอนบ้านฝ่ายหญิง ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุสลดดังกล่าวขึ้น ส่วนตัวไม่ได้คิดจะมาแย่งเพราะเข้าใจว่าเขาแยกทางกันแล้ว แต่หากฝ่ายชายยังต้องการจะคืนดีหรืออยู่กินกับอดีตภรรยาก็น่าจะมาพูดคุยกันดีๆ เปิดอกพูดกันแบบลูกผู้ชายไม่น่าจะก่อเหตุรุนแรงแบบนี้ ก็อยากให้ตำรวจเร่งจับกุมตัวให้ได้ เพราะกลัวจะหวนกลับมาก่อเหตุฆ่าคนอื่นอีก ตอนนี้ก็คงไม่มีใครกล้าอยู่บ้านเพราะกลัว

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปะคำก็ได้เร่งออกติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ ซึ่งคาดว่าน่าจะหลบซ่อนในป่า เพราะเคยลาดตระเวนในป่า คาดว่าน่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้


กำลังโหลดความคิดเห็น