พระนครศรีอยุธยา - เปิดภาพวงจรปิดจับภาพวินาทีลั่นไก อดีตสามีวัย 62 บุกยิงภรรยาวัย 47 กลางโรงแรมที่ทำงานอยู่ ก่อนกราดยิงแม่บ้านเพื่อนที่ทำงานเดียวกับภรรยาเสียชีวิต 1 ราย ภรรยาเจ็บ
จากกรณีเกิดเหตุยิวภายในลานจอดรถของโรงแรมแห่งหนึ่ง เลขที่ 77/88 เขตเทศบาลท่าเรือ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ส่งผลให้มีหญิง 2 ราย ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ แต่เสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาลท่าเรือ 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นางสุขสม มีเดช อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 159/6 ต.จำปา อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรียุธยา แม่บ้านโรงแรมเสียชีวิต โดยถูกยิงบริเวณหน้าอก และแขน จำนวน 5 นัด อีกรายทราบชื่อคือผู้บาดเจ็บคือ นางสุรีรัตน์ นิ่มแสวงกุล อายุ 47 ปี ถูกยิงเข้าที่นิ้วชี้ข้างขวา นิ้วก้อยข้างซ้าย บาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายรักษา หรืออั๋น โอสถเสน อายุ 62 ปี อดีดสามีนางสุรีรัตน์
ล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (28 ก.พ.) ที่สถานีตำรวจภูธรท่าเรือ มีบรรดาเพื่อนและญาติพี่น้องของนายรักษา ผู้ก่อเหตุเดินทางมาเยี่ยมและให้กำลังใจ จากนั้น พ.ต.อ.ธีรวุฒิ แสงมณี ผกก.สภ.ท่าเรือ ได้นำตัวผู้ก่อเหตุออกมาสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงมูลเหตุ และมีอะไรจะพูดหรือขอโทษครอบครัวผู้ตายหรือไม่ แต่ผู้ต้องหากลับนิ่งเฉยและไม่ขอพูด
ด้าน พ.ต.อ.ธีรวุฒิ แสงมณี ผกก.สภ.ท่าเรือ เผยว่า ตั้งแต่มีการรับตัวผู้ต้องหามาคุมขัง ผู้ต้องหามีอาการเครียด จึงได้สั่งกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะกลัวว่าจะเกิดการคิดสั้น แต่เมื่อเช้าได้พูดคุยรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น และสำนึกผิดในสิ่งที่ทำลงไป พร้อมยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา
ทั้งนี้ กล้องวงจร วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2565 สามารถจับภาพขณะที่ นายรักษา ผู้ต้องหาเดินมายังลานจอดรถหน้าโรงแรม เวลาประมาณ 18.21 น. จากนั้นกล้องอีกตัวสามารถจับภาพได้ขณะที่ นางสุรีรัตน์ ใส่เสื้อสีเหลืองกำลังยืนเต้นออกกำลังกายอยู่ ส่วนนางสุขสม นั่งอยู่ที่เก้าอี้ใกล้กัน จากนั้นจับภาพได้ขณะที่นายรักษา ผู้ต้องหาเดินเข้ามายืนประกบนางสุรีรัตน์ เพื่อพูดคุย แต่นางสุรีรัตน์ ไม่ยอมคุยด้วยแล้วเดินหนี ผู้ต้องหาจึงเกิดความโมโห ใช้อาวุธปีนที่พกมายิงใส่อดีตภรรยา จากนั้นอดีตภรรยาพยายามวิ่งหนีไปอยู่ด้านหลังของ ป้าติ๋ม ผู้ตายที่นั่งอยู่ นายรักษา ผู้ก่อเหตุซึ่งมีความคับแค้นใจอยู่กับผู้ตายด้วย จึงใช้อาวุธปืนกราดใส่ป้าติ๋ม จากนั้นผู้ตายพยามวิ่งหนี แต่ผู้ต้องหาเดินตามไปยิงซ้ำ จนผู้ตายวิ่งไปล้มลงทางเดินของโรงแรม
ล่าสุด เวลา 12.00 น. ที่สถานีตำรวจภูธรท่าเรือ อำเภอท่าเรือ พ.ต.อ.ธีรวุฒิ แสงมณี ผกก.สภ.ท่าเรือ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน คุมตัว นายรักษา ทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณหน้าสถานีตำรวจ แทนสถานที่เกิดเหตุจริงเนื่องจากหวั่นว่าจะเกิดอันตรายกับผู้ต้องหา เนื่องจากญาติของผู้เสียชีวิตมีความคับแค้นใจ อาจเป็นอันตรายได้
โดยช่วงทำแผนผู้ต้องหาอ้างว่าขับจักรยานยนต์ผ่านมาเห็นอดีตภรรยาจึงแวะพูดคุยด้วย แต่ภรรยาไม่คุยกลับเดินหนี จึงโมโห หยิบอาวุธปืนที่พกติดตัวมายิงใส่ภรรยาก่อน แต่ภรรยาวิ่งหลบไปด้านหลังป้าติ๋ม ผู้เสียชีวิต จึงยิงใส่ทั้งหมด พอป้าติ๋ม ลุกวิ่งหนีเดินตามไปยิงซ้ำ ก่อนเดินขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ขับหลบหนีไปที่บ้านหลานสาวก่อนถูกจับกุมได้ในที่สุด ซึ่งขณะทำแผน ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าจะพูดอะไรไหม ผู้ต้องหาบอกว่าไม่พร้อม ไม่ขอพูดอะไรทั้งสิ้น
ด้าน พ.ต.อ.ธีรวุฒิ แสงมณี ผกก.สภ.ท่าเรือ เผยว่า จากการสอบสวน ประกอบกับภาพกล้องวงจรปิด ผู้ต้องหามีความไม่พอใจในตัวของป้าติ๋ม ผู้เสียชีวิตอยู่แล้ว เนื่องจากเชื่อว่าป้าติ๋ม คอยกีดกัน และค่อยยุไม่ให้อดีตภรรยามาพูดคุย จนทำให้วันเกิดเหตุ ซึ่งพบว่าอยู่ด้วยกันหมดจึงเกิดความโมโห กราดยิงใส่จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว
เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้แจ้ง 3 ข้อกล่าวหาคือ ฆ่าคนตายโดยเจตนา พยายามฆ่า และพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต
