สระบุรี - ชาวสระบุรีร่วมสืบสานประเพณี 100 ปี แห่พระเขี้ยวแก้ว และสรงน้ำ พระพุทธบาทสระบุรี ที่วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร อ.พระพุทธบาท จ. สระบุรี โดยจัดขึ้นทุกปีในวันขึ้น 7 ค่ำ เดือน 4
วันที่ (9 มี.ค.) นายเอกพร จุ้ยสำราญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธาน พร้อมด้วยข้าราชการ พ่อค้า นักเรียน นักศึกษา ประชาชน ร่วมสืบสานประเพณี แห่พระเขี้ยวแก้ว และสรงน้ำ ที่วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร อ.พระพุทธบาท จ. สระบุรี โดยจัดขึ้นทุกปีในวันขึ้น 7 ค่ำ เดือน 4
ประเพณีแห่พระเขี้ยวแก้วและสรงน้ำของชาวอำเภอพระพุทธบาท มีตำนานตามพงศาวดาร กล่าวไว้ว่า พระเขี้ยวแก้ว คือ ฟันของพระพุทธเจ้าที่เหลือไว้ให้เป็นปูชนียวัตถุ มี 4 องค์ ด้วยกัน คือ 1.ประดิษฐานอยู่ที่จุฬามณีดาวดึงส์เทวโลก 2.ประดิษฐานอยู่ ณ เมืองกลิงคราษฎร์ ประเทศอินเดีย 3.ประดิษฐานอยู่ที่ใต้บาดาลอันมีนามว่า นาคพิภพ 4.ประดิษฐานอยู่ประเทศศรีลังกา หรือลังกาทวีป ปัจจุบันได้อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา มาประดิษฐานอยู่ที่วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร จ.สระบุรี ตั้งแต่สมัยพระเจ้าทรงธรรม ครองกรุงศรีอยุธยา
กระทั้งปี พ.ศ.2457 ที่เมืองพระพุทธบาท เกิดโรคระบาดประชาชนเกิดเจ็บป่วย ล้มตาย พร้อมทั้งเกิดทุพภิกขภัย ฝนแล้ง แห้งน้ำ ผู้ปกครองในสมัยนั้นจึงอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วออกแห่ แล้วประชาชนร่วมขบวนพร้อมถวายน้ำสรงพระเขี้ยวแก้ว และในวันนั้นเองได้มีฝนตกกระหน่ำอย่างหนัก ทำให้ประชาชนและพฤกษาชาตินานาพันธุ์ได้รับความชุ่มเย็น จึงได้ถือปฏิบัติเป็นประเพณีเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน