อุบลราชธานี - รู้ตัวกลุ่มคนร้ายใช้เก๋งไล่ชนและตามยิงซ้ำเหยื่อในร้านส้มตำ เป็นการตามทวงเงินค่าสินค้าไม้เนื้อแข็งส่งไปประเทศกัมพูชาเพื่อส่งต่อประเทศที่สามที่คนเจ็บไม่นำส่งถึงปลายทาง ขณะชุดสืบสวนตามเจอรถที่ใช้ก่อเหตุ ส่วนคนร้ายคาดหนีออกจากจังหวัดไปแล้ว
จากกรณี 2 คนร้ายขับรถเก๋งมาสด้าไล่ชนนายสัญชัย บุญศิริ ที่เข้าไปหลบในร้านขายส้มตำ ก่อนใช้ปืน .22 ยิงเข้าแผ่นหลัง 2 นัด และใช้มีดสับไก่ของร้านฟันซ้ำที่แขนซ้าย เพื่อลากตัวออกมานอกร้าน ก่อนจะทิ้งคนเจ็บและพากันขึ้นรถหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 28 ก.พ.ในซอยชยางกูร 42 (ซอยมอเตอร์ไบท์) ต.ขามใหญ่ ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าเย็นวันที่ 1 มีนาคม เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี ได้รับแจ้งจาก รปภ.ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 5 กม. พบรถเก๋งมาสด้า 2 สีฟ้า ทะเบียน 9 กง 4621 กรุงเทพฯ จอดติดเครื่องอยู่ลานจอดรถซี 4 คาดจะเป็นรถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ
จึงพร้อม พ.ต.อ.มารุต เรืองจินตนา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี รักษาราชการแทนผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองอุบลราชธานี พร้อม พ.ต.ท.อภินันท์ ปลื้มมะลัง รองผู้กำกับการสอบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดเข้าตรวจสอบ พบบริเวณดวงไฟหน้ารถด้านขวา ตัวถังด้านซ้ายมีรอยเฉี่ยวชน มีคราบเลือด รอยนิ้วมือจากกลางรถไปถึงท้ายรถ
นอกจากนี้ บริเวณที่นั่งเบาะหลังเจ้าหน้าที่ยังพบเชือกไนลอน พร้อมผ้าปิดตาแบบใช้ตอนนอนสภาพใหม่ทิ้งไว้ จึงทำการเก็บหลักฐานลายนิ้วมือบนตัวถังรถ พร้อมเชือกไว้เป็นหลักฐาน เนื่องจากสงสัยว่าคนร้ายน่าจะเตรียมมาใช้มัดและปิดตานายสัญชัย บุญศิริ คนเจ็บ เพื่ออุ้มพาตัวไป แต่เนื่องจากนายสัญชัยขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีมาขอความช่วยเหลือจากร้านส้มตำ เมื่อคนร้ายพยายามลากตัวนายสัญชัยออกจากร้านมาที่รถก็มีคนมามุงดูเหตุการณ์ และหนึ่งในสองคนร้ายหมวกไอ้โม่งที่สวมอยู่เกิดหลุด อาจเกรงคนจำหน้าได้ จึงรีบพากันขึ้นรถขับหลบหนีออกไปจากที่เกิดเหตุ
สำหรับรถเก๋งคันดังกล่าว จากการสอบถามนายสุพรรณ มีโชค คนสวนของห้างสรรพสินค้าที่พบรถทราบว่า เห็นรถคันนี้แล่นเข้ามาที่ลานจอดรถเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น.ของคืนเกิดเหตุ วันนี้มาทำงานก็ยังเห็นรถจอดอยู่ที่เดิม จนบ่าย 3 โมงก็ยังเห็นจอดอยู่ที่เดิม จึงเริ่มสงสัยขี่รถเข้ามาดูใกล้ๆ พบว่ามีการติดเครื่องยนต์และมีคราบเลือดบริเวณตัวถังรถ จึงแจ้งให้หัวหน้างานทราบและแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ
เมื่อตรวจสอบชื่อผู้ครอบครองรถพบว่าเป็นผู้หญิง มีอาชีพชิปปิ้ง มีภูมิลำเนาอยู่อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี ขณะนี้ยังติดต่อมาให้ปากคำไม่ได้
ขณะเดียวกัน ชุดสืบสวนได้เข้าพูดคุยกับนายสัญชัย คนเจ็บที่ยังรักษาตัวที่โรงพยาบาลและพอให้การได้ทราบว่ามีอาชีพเป็นชิปปิ้งนำเข้าและส่งออกสินค้าของประเทศกัมพูชา และได้รับส่งสินค้าให้กับกลุ่มผู้ก่อเหตุที่รู้จักกัน แต่ปรากฏว่าลูกน้องของนายสัญชัยตรวจเช็กสินค้าก่อนส่งไปยังประเทศกัมพูชา พบอาจเป็นของผิดกฎหมาย
นายสัญชัยจึงสั่งไม่ให้นำส่ง ทำให้ปลายทางไม่ได้รับสินค้า กลุ่มผู้ก่อเหตุได้ตามมาทวงถามขอสินค้าคืน หรือให้นำเงินมาชดใช้ตามราคาของสินค้าหลายครั้ง กระทั่งเมื่อวานกลุ่มผู้ก่อเหตุก็มาหาอีก นายสัญชัยจึงขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี แต่คนร้ายก็ขับรถเก๋งไล่ตามไล่ชน จนต้องหลบเข้าไปขอความช่วยเหลือจากร้านส้มตำ
ส่วนสินค้าเป็นอะไรนายสัญชัยอ้างว่าจำไม่ได้เพราะยังมีอาการเบลอจากการบาดเจ็บที่ถูกยิงและถูกฟัน แต่จากการตรวจสอบประวัตินายสัญชัย เคยมีส่วนเกี่ยวพันกับคดีค้าไม้ประดู่ข้ามชาติเมื่อหลายปีก่อน ส่วนคนร้ายขณะนี้หลบหนีออกจากจังหวัดไปที่อื่นแล้ว
ด้าน พล.ต.ต.สถาพร เอมโอษฐ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า ตอนนี้ทราบตัวกลุ่มคนร้ายแล้วว่าเป็นใคร ส่วนสาเหตุเป็นเรื่องของหนี้สิน แต่เป็นหนี้สินอย่างไร ผู้เสียหายยังไม่ความร่วมมือ ยังมีการปิดบังข้อมูลบางส่วนอยู่ แต่การสืบสวนจากพยานหลักฐานที่พบสามารถมัดตัวผู้ก่อเหตุได้ คาดอีก 2-3 วันน่าจะออกหมายจับตัวมาดำเนินคดีข้อหาพยายามฆ่าได้แน่นอน