ศูนย์ข่าวขอนแก่น-หลานชายวัย18ปี เสพยาบ้าหนักจนเกิดอาการคลุ้มคลั่ง ใช้มีดอีโต้ฟันยายอายุ 64 ปีเสียชีวิตอนาถคาบ้าน ตาเผยเคยแจ้งตำรวจนำตัวไปบำบัดยาเสพติดมาแล้วครั้งหนึ่งแต่ออกมาก็กลับไปเสพยานรกอีก
วันนี้( 25 ก.พ.) พ.ต.อ.รุ่งศักดิ์ จงกลรัตน์ ผกก.สภ.เวฬุวัน พร้อมด้วยตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 4 มูลนิธิสว่างขอนแก่นสามัคคีอุทิศ เข้าตรวจสอบเหตุฆ่ากันตายภายในบ้านเลขที่ 174 ม.1 บ.โนนท่อน ต.โนนท่อน อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยบริเวณห้องนอนชั้นล่างพบศพนางมยุรี โสภาวงษ์ หรือยายจ่อย อายุ 63 ปี นอนเสียชีวิตคว่ำหน้าบนที่นอนมีเลือดไหลนองไปทั่ว สภาพศพบริเวณเบ้าตาข้างขวา ถูกฟันด้วยของมีคมหลายแผลจนตาหลุดออกจากเบ้า ข้อมือขวาถูกฟันจนเกือบขาด ส่วนนิ้วมือถูกตัดออกจากมือทั้ง 5 นิ้ว และนิ้วมือข้างซ้ายทั้ง 5 นิ้ว ถูกของมีคมตัดจนเกือบขาดออกจากกัน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาคือภูริพัฒน์ ทะสา หรือโชกุน อายุ 18 ปี ได้อยู่บริเวณหลังบ้าน นั่งซักผ้าอยู่ โดยนายภูริพัฒน์สารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่ายายจริง
นายสุวรรณ แสนกุล อายุ 64 ปี เล่าว่า บ้านตนเองอยู่ตรงข้ามกับบ้านที่เกิดเหตุ โดยนายโชกุน ได้เดินมาบอกว่าให้ไปดู “ยายจ่อย”หน่อย ตนเลยถามว่าได้ไปทำร้ายยายจ่อยหรือป่าว ถามถึง 2 ครั้ง ถึงบอกว่าได้ลงมือทำร้ายยายจ่อย จนกระทั่งมาดูที่บ้านจึงพบว่า ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต จึงรีบแจ้งตำรวจมาจับกุมตัว ซึ่งนายโชกุนเคยทำร้ายยายจ่อยมาแล้วครั้งหนึ่ง จนต้องนอนโรงพยาบาลรักษาตัวถึง 2 คืน กระทั่งมาก่อเหตุสลดในครั้งนี้
ด้านนายไหว โสภาวงษ์ อายุ 67 ปี สามีของยายจ่อยผู้เสียชีวิต เล่าว่า นายโชกุนหลานชายของตน ทางพ่อแม่เด็กได้นำมาฝากเลี้ยงไว้เพราะแยกทางกัน กระทั่งนายโชกุนได้ไปติดยาบ้าอย่างหนัก โดยจะขอเงินครั้งละ 300-400 บาท หากไม่ให้ก็จะทำร้ายยาย ก่อนหน้านี้ ต้องแจ้งตำรวจมาควบคุมตัวไปบำบัด
แต่สุดท้ายเมื่อออกจากโรงพยาบาลมาก็ไม่ยอมรับประทานยา เมื่อวานตอนเย็นคาดว่าหลานชายไปเสพยาบ้ามาเสพ
จนกระทั่งวันนี้ที่ตนเองออกมานอกบ้าน โดยปล่อยให้หลานอยู่กับยายสองคน จากนั้นหลานน่าจะเกิดอาการคลุ้มคลั่งหรือขอเงินยายไม่ได้ จึงลงมือก่อเหตุสลดดังกล่าว
ต่อมาตำรวจได้นำตัวนายภูริพัฒน์มาสอบปากคำ เจ้าตัวยังให้การวกวน แต่ได้ชี้จุดที่ได้นำมีดอีโต้มาเก็บหลังก่อเหตุ โดยตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 4 ได้เก็บตัวอย่าง DNA ที่มีด รวมทั้งตัวนายภูริพัฒน์ และบริเวณห้องเกิดเหตุ พร้อมกับเสื้อผ้าที่นายภูริพัฒน์กำลังซักในเครื่องซักผ้า เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะนำตัวนายภูริพัฒน์ไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.เวฬุวัน อีกครั้ง และจะแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป ซึ่งระหว่างที่ตำรวจควบคุมตัวขึ้นรถ นายภูริพัฒน์บอกว่าตนเองมีปมด้อย.
