บุรีรัมย์ - สุดสะเทือนใจ หนุ่มใหญ่วัย 46 ชาวบุรีรัมย์ สั่งเสียพี่ชายก่อนสิ้นใจอยากได้โลงทองบรรจุร่าง และจัดงานศพอย่างดี แต่ครอบครัวยากจนขุดปูขายและรับจ้างกินวันๆ หน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงบุรีรัมย์รุดมอบโลงทอง พร้อมนำเงินบริจาคช่วยจัดงานศพ 2 หมื่น ด้านเจ้าอาวาสวัดดังบริจาคข้าวสารสิ่งของช่วยงานศพด้วย พี่ชายซึ้งน้ำใจน้องคงตายตาหลับ
วันนี้ (1 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีชายคนหนึ่งกำลังจะสิ้นใจ แต่ได้สั่งเสียพี่ชายไว้ว่าอยากได้โลงทองบรรจุร่าง และอยากให้จัดงานศพอย่างดี แต่ฐานะครอบครัวยากจนไม่มีเงินซื้อโลงทองและจัดงานศพอย่างดีตามที่น้องสั่งเสียไว้ ซึ่งสร้างความสะเทือนใจแก่คนที่ได้ทราบข่าว
จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง ซึ่งเป็นบ้านหลังหนึ่งลักษณะเป็นเพิงมีสังกะสีล้อมรอบไม่มีเลขที่ ตั้งอยู่ในหมู่บ้านทุ่งโพธิ์ ต.อีสานเขต อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ พบนายสมพร จันทร์ราช อายุ 46 ปี ซึ่งนอนหายใจรวยรินอยู่บนเตียงเนื่องจากอาการป่วยทั้งโรคตับและปอดบวม โดยมีแม่ พี่ชาย และญาติมาคอยดูใจเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งหลังจากทางหน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงบุรีรัมย์ทราบข่าวจึงได้แจ้งมาทางญาติว่าจะนำโลงทองมามอบแก่ญาติเพื่อบรรจุร่างตามที่ผู้ตายต้องการ พร้อมทั้งยังเป็นสะพานบุญขอรับบริจาคเงินจากผู้มีจิตศรัทธาได้จำนวน 20,000 บาท เพื่อช่วยในการจัดงานศพให้ด้วย
เมื่อ นายธนวัฒน์ จันทร์ราช อายุ 56 ปี ผู้เป็นพี่ชายทราบว่ามีคนจะช่วย ได้กระซิบบอกกับน้องชายที่ใกล้จะสิ้นใจว่ามีคนบริจาคโลงทอง และเงินช่วยจัดงานศพให้น้องแล้ว ขอให้น้องหลับให้สบาย จากนั้นไม่นานนายสมพร ผู้เป็นน้องชายที่กำลังหายใจรวยรินก็สิ้นใจอย่างสงบ จึงได้นิมนต์พระมาสวดทำพิธีก่อนจะเคลื่อนย้ายร่างนายสมพรไปตั้งที่วัดโคกตะแบก ซึ่งพอไปถึงทางหน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงก็ได้นำโลงทองลายเทพพนมมามอบให้เพื่อบรรจุร่างผู้ตาย พร้อมทั้งมอบเงินให้แก่ญาติ 20,000 บาทสำหรับจัดงานศพด้วย นอกจากนั้นหน่วยกู้ภัยบ้านสองเมืองประโคนชัยยังได้มาช่วยจัดดอกไม้โลงศพและภายในงานให้ผู้เสียชีวิตฟรีด้วย
นายธนวัฒน์ จันทร์ราช พี่ชายผู้ตาย เล่าว่า ก่อนหน้านี้น้องทำงานเป็นพนักงานเก็บเงินของอู่แท็กซี่ประมาณเกือบ 10 ปี นานๆ จะกลับมาบ้าน กระทั่งป่วยหนักทำงานไม่ได้ นายจ้างจึงพามาส่งที่บ้านเพื่อรักษาตัว ก็รักษาได้ประมาณ 1 เดือนอาการก็ทรุดลงเรื่อยๆ กระทั่งเมื่อวาน น้องพูดกับตนในลักษณะสั่งเสียว่า “ถ้ากูตายขอให้หาโลงทองมาบรรจุร่างและจัดงานศพให้กูดีๆ หน่อย” แต่เนื่องจากครอบครัวยากจน มีอาชีพรับจ้างทั่วไป และขุดปูขายหากินไปวันๆ ไม่มีเงินพอที่จะไปซื้อโลงทองซึ่งมีราคาประมาณ 4,000 กว่าบาท และไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนมาจัดงานศพดีๆ ตามที่น้องขอ
กระทั่งทางหน่วยกู้ภัยแจ้งมาว่าจะมอบโลงทองลายเทพพนมให้ ทั้งยังนำเงินบริจาคอีก 2 หมื่นบาทมาช่วยเป็นค่าจัดงานศพด้วย นอกจากนี้ พระอาจารย์เลอศักดิ์ วัดป่าอัมพวันคุณานุสรณ์ ยังได้นำข้าวสาร อาหารแห้ง พร้อมน้ำดื่มมาบริจาคเพื่อใช้ประกอบอาหารในงานศพด้วย ซึ่งตนซาบซึ้งในน้ำใจและขอบคุณทุกคนทุกองค์กรที่ช่วยเหลือ เชื่อว่าน้องชายคงนอนตายตาหลับ