ปราจีนบุรี - เกิดเหตุช้างป่าเขาอ่างฤาไนย กระทืบชาวบ้านหาของป่าในทุ่งกระดิกนิ้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี จนเสียชีวิต ขณะเพื่อนที่ไปด้วยกันรอดราวปาฏิหาริย์ เชื่อเป็นเพราะยกมือไหว้ขอชีวิต ด้าน ผอ.ส่วนอนุรักษ์สัตว์ปราจีนบุรี เตรียมจัดทำสิ่งกีดขวางช้างเข้าชุมชม
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (24 ก.พ.) ร.ต.อ.ชัยยงค์ อำพันแสน รอง สว.(สอบสวน) สภ.กบินทร์บุรี รับแจ้งเหตุมีช้างป่าเขาอ่างฤาไนย ทำร้ายชาวบ้านที่ออกหาของป่าจนเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณป่าทุ่งกระดิกนิ้ว ม.9 ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี จึงประสานตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานปราจีนบุรี แพทย์เวรโรงพยาบาลกบินทร์บุรี และเจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้าตรวจสอบ
พบที่เกิดเหตุเป็นป่าอ้อยและป่ายูคาลิปตัสของชาวบ้านที่อยู่ห่างจากหมู่บ้านเขาไม้แก้วประมาณ 2 กิโลเมตร และบริเวณจุดเกิดเหตุยังพบช้างหลบซ่อนตัวในป่ารกทึบ และยังพบมูลช้าง รวมถึงร่องรอยการนอนและรอยเท้าช้าง เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 50 เซนติเมตร
ส่วนบริเวณชายป่าพบร่างผู้เสียชีวิต 1 รายทราบชื่อคือ นางสุทธา สีลาลัย อายุ 73 ปี สภาพนอนหงาย มีเลือดไหลออกจากจมูกและปาก และยังพบร่องรอยการถูกช้างเหยียบที่กลางลำตัวจนกระดูกซี่โครงหักทั้ง 2 ข้าง
จากการสอบถาม นางประสงค์ พรหมชาติ อายุ 67 ปี ชาวบ้านเขาไม้แก้ว ผู้รอดชีวิตราวปาฏิหาริย์ บอกว่า ตนเองพร้อมสามี และผู้เสียชีวิตได้พากันเข้ามาหาของป่าภายในทุ่งดังกล่าว แต่ขณะเกิดเหตุผู้เสียชีวิตได้แยกเดินไปอีกทางโดยไม่รู้ว่ามีช้างป่า กระทั่งผู้เสียชีวิตวิ่งมาบอกว่าถูกช้างป่าวิ่งไล่ก่อนจะถูกกระทืบจนเสียชีวิต
และยังบอกอีกว่าขณะที่ช้างกำลังทำร้ายผู้เสียชีวิตตนเองตกใจ และไม่รู้จะหนีไปทางไหน จึงยกมือขึ้นไหว้ช้างเพื่อร้องขอชีวิตโดยบอกว่า “คุณพ่ออย่าทำร้ายลูกเลยลูกมาหากิน” ทำให้ช้างป่าเดินหายเข้าไปในป่ายูคาลิปตัส จึงทำให้รอดตายมาได้
ด้าน นายอำนาจ ม่วงปราง ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ปราจีนบุรี กล่าวว่า ช้างที่ก่อเหตุเป็นช้างจากเขาอ่างฤาไนย ที่แยกตัวออกจากกลุ่มช้างตัวผู้ โดยคาดว่าเป็นช้างขนาดใหญ่ที่ออกหากินบริเวณหมู่บ้านเขาไม้แก้ว เพียงตัวเดียว
ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่เรียกว่า “เจ้าโหนก” ซึ่งหลังจากนี้จะได้เสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำสิ่งกีดขวางเพื่อป้องกันไม่ให้ช้างป่าเข้าสู่พื้นที่ชาวบ้านต่อไป ขณะที่ศพผู้เสียชีวิต ญาติได้นำไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาที่วัดเขาไม้แก้ว