กาฬสินธุ์ - สาวสองสวมวิกแต่งหญิงทำทีขอดูทองในร้านทองห้างดังเมืองกาฬสินธุ์ อาศัยทีเผลอวิ่งหนีหน้าตาเฉย สุดท้ายไม่รอดถูกรวบทันควัน พร้อมของกลางสร้อยข้อมือทองคำหนัก 13 บาท มูลค่า 387,400 บาท สารภาพเพิ่งพ้นโทษออกจากเรือนจำหางานทำไม่ได้ ก่อนวางแผนนั่งรถจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้ามาก่อเหตุที่บ้านเกิดพ่อแม่ และต้องเข้าไปอยู่ในคุกเพราะมีปัญหาชีวิต
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (24 ก.พ.) พ.ต.อ.โกวิท เจริญวัฒนศักดิ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ดร.พัทฐกร ศาสนะสุพินธ์ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สายตรวจและชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัวนายภัทรดา หรือโตมี่ กายาผาด อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69/1 ซอยคู้บอน 27 แยก 37 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นสาวประเภทสอง ได้ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ร้านทองเยาวราช 99 ภายในห้างสรรพสินค้ากาฬสินธุ์พลาซ่าในตัวเมืองกาฬสินธุ์ เมื่อช่วงเวลา 19.00 น. วันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
โดยจับกุมได้พร้อมของกลางสร้อยข้อมือทองคำ 3 เส้น น้ำหนักรวม 13 บาท มูลค่า 387,400 บาท โดยกล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้ได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้มีนายสันติ อินพรมมา ผู้จัดการร้านทอง มาชี้ตัวและขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
พ.ต.อ.โกวิท เจริญวัฒนศักดิ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับคดีดังกล่าวสืบเนื่องจากตำรวจชุดสืบสวนและสายตรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ไๅๅด้รับแจ้งว่ามีเหตุคนร้ายวิ่งราวสร้อยคอทองคำที่ร้านทองเยาวราช 99 ภายในห้างสรรพสินค้ากาฬสินธุ์พลาซ่า อ.เมืองกาฬสินธุ์ จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ พบพนักงานร้านทองกำลังตะโกนร้องขอความช่วยเหลือว่า “ช่วยด้วยๆโจรขโมยทอง” เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวิ่งไล่ติดตามและสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่บริเวณลานจอดรถของห้างฯ พร้อมของกลาง ก่อนนำตัวมาสอบสวนดำเนินคดี
นายภัทรดา ผู้ต้องหาให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้นั่งรถประจำทางเดินทางมาจากกรุงเทพฯ โดยแต่งตัวเป็นหญิง ใส่วิกผมยาว สวมเสื้อผ้าคล้ายผู้หญิง มาลงรถที่ จ.ขอนแก่น ก่อนนั่งรถแท็กซี่มุ่งหน้ามาที่ห้างสรรพสินค้ากาฬสินธุ์พลาซ่า จากนั้นได้เข้าไปที่ร้านทองดังกล่าว 2 ครั้ง เพื่อทำทีขอดูสร้อยข้อมือทองคำ 3 เส้น แต่ยังไม่ลงมือ กระทั่งครั้งที่ 3 ได้เข้าไปขอดูอีกครั้งและลงมือก่อเหตุวิ่งราวดังกล่าว
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาให้การเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้เคยต้องโทษคดีลักทรัพย์นายจ้างที่ สน.คันนายาว กรุงเทพฯ เมื่อปี 2564 ได้รับโทษจำคุก 5 เดือน และเพิ่งพ้นโทษเมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา และเมื่อออกมาแล้วไม่มีงานทำ จึงไปอาศัยอยู่กับเพื่อนที่ซอยคู้บอน กรุงเทพฯ ก่อนตัดสินใจนั่งรถโดยสารมาก่อเหตุที่ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของบิดา มารดา เพื่อต้องการที่จะเข้าไปอยู่ในคุกเพราะมีปัญหาชีวิต
ด้าน พ.ต.อ.ดร.พัทฐกร ศาสนะสุพินธ์ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ กล่าวอีกว่า คดีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์เข้าปฏิบัติหน้าที่จับตัวคนร้ายได้แบบทันควันหลังได้รับแจ้งไม่ถึง 10 นาที เนื่องจากสถานที่เกิดเหตุอยู่ในเขต “กาฬสินธุ์ สมาร์ท เซฟตี้โซน” ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการนำร่องเพื่อป้องกันและยับยั้งอาชญากรรมทุกรูปแบบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีตำรวจตรวจตราตลอดเวลาจึงได้จับกุมได้อย่างรวดเร็ว