xs
xsm
sm
md
lg

แม่ค้าดอยสะเก็ดหลั่งน้ำตาขอความเป็นธรรม ตร.ยึดกระบะคดียาบ้าลูกชายไม่ยอมคืน แต่เจอพ่อค้าหมูขับเข้าตลาดนัด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่ - แม่ค้าขายกล้วยชาวดอยสะเก็ดร้องศูนย์ดำรงธรรม กระบะถูกตำรวจยึดพร้อมลูกชายถูกจับคดียาบ้า ขอคืนมานานไม่ได้ ทั้งที่พนักงานอัยการมีหนังสือแจ้งให้คืน ทำครอบครัวไม่มีรถทำมาหากินแทบล้มละลาย สุดท้ายโป๊ะแตก เจอพ่อค้าหมูขับไปขายของในตลาดนัด


วันนี้ (22 ก.พ. 65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางวิสุดา จันทร์สุข แม่ค้าขายกล้วยชาว อ.ดอยสะเก็ด ได้นำหลักฐานเข้าร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ โดยอ้างว่าตำรวจไม่ยอมคืนรถยนต์กระบะที่ตกเป็นของกลางในคดียาบ้าของลูกชาย ทั้งที่พนักงานอัยการมีหนังสือแจ้งให้คืน ทำครอบครัวแทบล้มละลาย สุดท้ายเจ็บกว่าเมื่อไปเจอรถตัวเองถูกนำไปให้พ่อค้าขายหมูตลาดนัดขับ

นางวิสุดาเล่าว่า เมื่อวันที่ 2 กันยายน 64 นายเอกอนันต์ จันทร์สุข อายุ 37 ปี ลูกชายถูกตำรวจจับกุมพร้อมของกลางยาบ้า 100 เม็ด ในหมู่บ้านท่าไม้ลุง ต.น้ำแพร่ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ และได้ยึดรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีฟ้า ทะเบียน บน 7629 พะเยา เป็นของกลางที่ใช้ในการกระทำผิด ซึ่งรถคันนี้เป็นชื่อของนายคมสัน จันทร์สุข อายุ 57 ปี สามี

ต่อมาตนเองได้ไปชี้แจงต่อตำรวจว่ารถคันดังกล่าวไม่ได้เป็นรถของลูกชาย แต่มีชื่อนายคมสัน จันทร์สุข อายุ 57 ปี สามี เป็นเจ้าของรถ ยืนยันว่ารถคันนี้ครอบครัวใช้ทำมาหากิน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของลูกชาย แต่ทางตำรวจไม่คืนให้ จากนั้นได้แจ้งให้ไฟแนนซ์ติดต่อก็ยังไม่ได้คืน ทางตำรวจแจ้งว่าต้องตรวจสอบก่อน

แต่นับจากนั้นเรื่องก็เงียบหายไปนานจึงได้เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดและอัยการจังหวัด กระทั่งเดือนตุลาคม 64 พนักงานอัยการได้มีหนังสือถึงตำรวจแจ้งให้คืนรถ จึงได้ไปติดต่อก็ถูกบ่ายเบี่ยงและไม่ได้รถคืนมา

กระทั่งช่วงเย็นวันที่ 14 ธันวาคม 64 ตนกับสามีไปขายกล้วยที่ตลาดนัดเกาะกลาง ต.ป่าแดด อ.เมืองเชียงใหม่ ระหว่างกำลังขายของ ลูกเห็นรถกระบะคันหนึ่งบรรทุกจักรยานยนต์เข้ามา ตนจึงบอกให้เข้าไปช่วยยกรถจักรยานยนต์ลงมาจากรถ แต่ปรากฏว่าเมื่อเห็นป้ายทะเบียนรถ บน 7629 พะเยา สียี่ห้อตรงกับรถของตัวเองที่ถูกตำรวจยึดไป

“เห็นแล้วใจหายวาบ รู้เลยว่าเป็นรถของตัวเอง ทั้งงงทั้งแปลกใจว่ารถถูกตำรวจยึดไป แต่ทำไมมาโผล่ที่ตลาดนัด ส่วนคนที่ขับมาเป็นพ่อค้าหมูมากันสองคนชายหญิง เมื่อเข้าไปสอบถามว่าได้รถมาอย่างไร ได้คำตอบว่า “นายให้เอามาใช้” ก่อนที่ทั้งสองจะขับรถออกไปทันที ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดตนเองได้ถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐานด้วย”


นางวิสุดาบอกว่า เรื่องคดียาบ้าของลูกชาย แม้จะเชื่อมั่นว่าลูกชายถูกกลั่นแกล้ง แต่ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม แต่ที่ติดใจและเข้าร้องเรียนหลังถูกยึดรถไปก็เพราะว่ารถที่ถูกบอกว่าเป็นของกลาง กลับถูกนำไปใช้ขายของ

นางวิสุดาบอกทั้งน้ำตาว่ารถคันนี้ซื้อมาเพื่อนำมาทำงานรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งเป็นช่องทางหารายได้หลักของครอบครัว ผ่อนเดือนละ 8,666 บาท มานานสองปี หลังถูกยึดไปก็เหมือนถูกตัดแขนตัดขา จนไม่สามารถรับงานได้ รายได้หายไปหมด ต้องมาขายกล้วยแทน ส่วนสามีก็เครียดหนักจนไปบวชหน้าไฟให้กับบิดาแล้วไม่สึก ขอสงบจิตสงบใจในวัดก่อน มีคนแนะนำให้ไปจ้างทนายก็ไม่มีเงิน

ล่าสุดบริษัทไฟแนนซ์ได้ทำหนังสือและขอรับรถคืนได้เมื่อ 28 มกราคม 65 ที่ผ่านมา พร้อมกับแจ้งว่าตนต้องจ่ายค่าเสียหายเป็นเงินกว่า 40,000 บาท จากการขาดผ่อนส่ง 4 เดือน ทำครอบครัวเดือดร้อนมากเพราะเหมือนกับผ่อนรถไปฟรีๆ โดยที่ไม่มีรถมาใช้ จึงออกมาร้องเรียนให้ทางตำรวจชี้แจงและรับผิดชอบ

ขณะที่นายเอกราช รังสรรค์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวหลังรับเรื่องว่าจะประสานไปที่ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอให้ชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น ในประเด็นที่รถของกลางถูกนำไปใช้ ส่วนจะมีความผิดหรือไม่ ในทางกฎมายแล้วเบื้องต้นไม่สามารถทำได้

ด้าน พ.ต.อ.คมสัน มีภักดี ผกก.สภ.หางดง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตรวจสอบแล้วพบว่ารถคันนี้เป็นรถของกลางที่อยู่ในบัญชีของคดี จะต้องถูกตรวจสอบไม่สามารถคืนให้แก่ผู้ร้องเรียนได้ แต่ภายหลังเจ้าหน้าที่ห้องคดีรายงานมาว่าบริษัทไฟแนนซ์ที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถ ได้ทำเรื่องและมาขอรับรถไปเพื่อตรวจสอบในส่วนของไฟแนนซ์ จากนั้นจึงไปพบว่ารถถูกนำไปใช้ ซึ่งไม่อยู่ในช่วงที่ตำรวจดูแลเป็นของกลาง อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะสอบถามข้อเท็จจริงไปยังผู้ร้องเรียนอีกครั้ง




กำลังโหลดความคิดเห็น