xs
xsm
sm
md
lg

เปิดใจ! เสี่ยหนุ่มจุดไฟเผาศาลวอด ยันไม่เกี่ยวเรื่องหวยแต่เหตุถูกผีตามรังควานจนครอบครัวมีปัญหา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บุรีรัมย์ - เสี่ยหนุ่มเจ้าของธุรกิจแว่นตา จ.บุรีรัมย์ จุดไฟเผาศาลพระภูมิจนกลายเป็นกระแสฮือฮาในโลกโซเชียลฯ เปิดใจไม่เกี่ยวเรื่องหวย ความจริงเหตุถูกผีตามรังควานและมีคนไม่หวังดีทำของใส่จนทำให้ครอบครัวมีปัญหา หวังดีตั้งศาลให้อยู่แต่ไม่ยอมหยุดจึงเผาทิ้ง ยันไม่เจตนาลบหลู่ เตรียมนำศาลหลังใหม่มาตั้ง ด้านหมอพราหมณ์ชี้เป็นความเชื่อส่วนตัว แต่ควรแก้ด้วยวิธีอื่นที่ไม่กระทบความรู้สึกคนที่เชื่อศรัทธา

วันนี้ (19 ก.พ.) ความคืบหน้ากรณีที่โลกออนไลน์มีการแชร์คลิปวิดีโอจากแอปพลิเคชัน TikTok ที่สร้างความฮือฮาเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นภาพการจุดไฟเผาศาลพระภูมิ พร้อมเพลงประกอบ ระบุเปลืองน้ำแดง ตั้งมานานไม่เคยถูกหวย ให้ผิดตลอด ทั้งที่เลี้ยงน้ำแดงอย่างดีทุกวันพระ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่หน้าบ้านหลังหนึ่งใน ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ โดยเจ้าของศาลเป็นคนจุดไฟเผาเองนั้น

นายนิกร ทองฟู  อายุ 40 ปี  เสี่ยหนุ่มเจ้าของธุรกิจแว่นตา เผาศาลพระภูมิ
ล่าสุดวันนี้ นายนิกร ทองฟู อายุ 40 ปี เสี่ยหนุ่มเจ้าของธุรกิจแว่นตา ได้ออกมาเปิดใจกับผู้สื่อข่าวถึงเหตุผลที่จุดไฟเผาศาลพระภูมิหรือศาลตายายดังกล่าวว่า ความจริงแล้วไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องหวย เพราะส่วนตัวเป็นคนไม่ชอบซื้อหวยอยู่แล้ว แต่น้องที่เขาเอาไปลง TikTok อาจจะลงเพื่อความสนุกขำๆ เท่านั้น ซึ่งตนไม่ได้อยากให้เกิดกระแสอยู่แล้ว ซึ่งจริงๆ ส่วนตัวเป็นคนเชื่อเรื่องวิทยาศาสตร์มากกว่าไสยศาสตร์ แต่ยอมรับว่าเป็นคนเผาศาล โดยสาเหตุที่เผาก็เพราะเมื่อ 3 ปีก่อนที่มาอยู่บ้านหลังนี้ตนเคยเห็นผีผู้หญิงหัวขาดมาขอข้าวกินหรือเรียกว่าขอส่วนบุญ ซึ่งตอนนั้นยอมรับว่ากลัวเพราะยังไม่รู้ความจริงบางอย่าง จึงตัดสินใจตั้งศาลให้อยู่ก็มีการทำพิธีตั้งศาลเหมือนที่เขาทำกันทั่วไป

หลังจากนั้นไม่เจอผีผู้หญิงหัวขาดอีกเลย แต่กลับมีผีตนอื่นหรืออาจจะเป็นสัมภเวสีมาคอยตามหลอกรังควานด้วยการสื่อสารเป็นเสียงพูดหลายครั้ง ถ้าใครไม่เจอกับตัวคงจะคิดว่าตนเองบ้า แต่ตนคิดว่ามนุษย์คนเรามีสัญญาณอะไรบางอย่างอยู่ในตัวทุกคนหรือเรียกว่าโทรจิต ซึ่งนอกจากจะถูกวิญญาณตามรังควานแล้ว ภรรยาของตนไปดูหมอเขาบอกว่ามีคนที่ไม่หวังดี ซึ่งตนไม่รู้ว่าเป็นใครแอบทำของใส่ ด้วยการฝังบาตรแตก ตะปู สายสิญจน์ เศษผ้า ไว้ใต้ดินหน้าบ้านอีกหลังหนึ่ง จนทำให้ครอบครัวตนมีปัญหาแตกแยก


นายนิกรเล่าต่อว่า หลังจากที่ตนโดนผีตามรังควาญจนวันหนึ่งได้ค้นพบความจริง จนทำให้ไม่รู้สึกกลัวและไม่เชื่อเรื่องดังกล่าว จึงได้ตัดสินใจเผาศาลตายายทิ้ง เพราะเลือกที่จะเชื่อเรื่องวิทยาศาสตร์มากกว่าเรื่องไสยศาสตร์ ซึ่งหลังจากเผาศาลดังกล่าวก็ไม่ได้เกิดอาถรรพ์หรือสิ่งลี้ลับอะไรกับตนเองอีก แต่ยืนยันว่าที่ตนเองจุดไฟเผาศาลตายายทิ้งไม่มีเจตนาจะลบหลู่ความเชื่อความศรัทธาของใคร แต่เป็นเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นแก่ตนเองและครอบครัว จึงตัดสินใจทำเพราะคิดว่าทำไปแล้วจะสามารถปกป้องครอบครัวของตัวเองจากสิ่งลี้ลับที่เกิดขึ้นเท่านั้น

แต่ยอมรับว่าที่ตนเผาศาลตายายคนที่เห็นก็คงจะรับไม่ได้ อาจคิดว่าเป็นสิ่งอัปมงคลเพราะคนไทยจะได้รับการปลูกฝังเรื่องความเชื่อแบบนี้มานาน จนบางคนมีการหากินกับความกลัวของคน อย่างไรก็ตามเพื่อความสบายใจของคนในหมู่บ้านตนจะนำศาลตายายหลังใหม่มาตั้งให้แทนหลังเดิมที่ถูกไฟเผาไปแล้ว


ด้าน นายอินทร์ เพียขันทา อายุ 70 ปี พ่อพราหมณ์หรือหมอทำขวัญ บอกว่า คนภาคอีสานส่วนใหญ่จะนิยมตั้งศาลพระพรหม ศาลพระภูมิ หรือศาลตายายไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน สำนักงาน หรือสถานที่ต่างๆ เพราะมีความเชื่อว่าทุกที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกปักรักษา หรืออาจมีวิญญาณปู่ย่าตายาย บรรพบุรุษสถิตอยู่ ณ ที่แห่งนั้น พอถึงวันสำคัญต่างๆ จะทำพิธีกราบไหว้บูชาตามความเชื่อที่ถือปฏิบัติกันมาแต่โบราณ

ส่วนกรณีที่มีคนเผาศาลตายายนั้น ส่วนตัวไม่ขอวิจารณ์ถึงการกระทำของเขาเพราะเป็นความคิดเห็นความเชื่อของแต่ละบุคคล แต่ถ้าคนอื่นมองก็คิดว่าไม่ควรจะทำแบบนั้นคนที่เขาเชื่อหรือศรัทธาในเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์อาจจะกระทบต่อจิตใจ หากเป็นไปได้อยากจะให้เลือกใช้วิธีอื่นเช่นอาจย้ายศาลไปไว้ที่อื่น หรือเลือกที่จะทำบุญบริจาคทานเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผีหรือวิญญาณต่างๆ ที่มาปรากฏให้เราเห็น เชื่อว่าเรื่องร้ายที่พบเจอจะกลายเป็นดีขึ้น

แต่การที่เผาศาลทิ้งแล้วจะเจออาถรรพ์หรือสิ่งไม่ดีหรือไม่นั้น ตนบอกไม่ได้ขึ้นอยู่กับความคิดหรือสิ่งที่เขากระทำว่าจะสะท้อนกลับมาในรูปแบบไหน เรื่องแบบนี้ขึ้นอยู่กับความเชื่อความศรัทธาของแต่ละบุคคล









นายอินทร์ เพียขันทา  อายุ 70  ปี  พ่อพราหมณ์หรือหมอทำขวัญ




กำลังโหลดความคิดเห็น