สุรินทร์ - ผวากันทั้งหมู่บ้าน หนุ่มใหญ่เพี้ยนเปลือยกายตระเวนก่อเหตุทุบทำลายทรัพย์สินชาวบ้านกลางดึก ขว้างปาขวดใส่บ้านเรือน ทุบโกศบรรจุอัฐิในวัดและศาลพระพรหมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านนับถือ เผยเคยเผารถยนต์ติดคุก 4 เดือน ออกมาก่อเหตุเช่นเดิม ญาติยันป่วยจิตเวช จนท.เตรียมนำตัวไปรักษา
วันนี้ (17 ก.พ. ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านตายอด ต.สวาย อ.เมือง จ.สุรินทร์ ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากกรณีหนุ่มใหญ่ในหมู่บ้านคล้ายคนสติไม่สมประกอบมีอาการทางจิตเวช ชอบทำลายทรัพย์สินของคนในหมู่บ้าน และมักก่อเหตุในช่วงกลางคืนดึกดื่นที่ชาวบ้านกำลังนอนหลับพักผ่อน โดยออกตระเวนทุบทำลายทรัพย์สินสิ่งของมีค่า รถยนต์ที่จอดอยู่หน้าบ้าน รวมทั้งทรัพย์สินวัด โกศบรรจุอัฐิภายในวัด รวมถึงศาลพระพรหมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านเคารพนับถือ และขว้างปาขวด ไม้ ก้อนหิน ใส่หลังคาบ้านของชาวบ้าน พร้อมส่งเสียงร้องตะโกนโวยวายยามค่ำคืน ทำให้ชาวบ้านหวาดผวาไม่ได้หลับได้นอน เดือดร้อนไปทั่วหมู่บ้าน
นอกจากนั้นยังเคยก่อเหตุใช้ก้อนหินทุบรถบรรทุกหกล้อ และเผารถกระบะที่จอดอยู่หน้าบ้าน ล่าสุดแก้ผ้าเปลือยกาย ถือขวานหวังจะเข้ามาทุบทรัพย์ สิ่งของภายในรั้วบ้านของ นางพิมพ์พจี สุพิชญ์สิปปภาส อายุ 50 ปี บ้านอยู่ในซอยอนามัย บ้านตารอด ต.สวาย อ.เมือง จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 02.00 น. โชคตีที่ลูกชายตื่นมาพบ และไล่ชายเพี้ยนเปลือยกายวิ่งหนีออกไปได้ก่อนทำลายทรัพย์สิน
นางพิมพ์พจี สุพิชญ์สิปปภาส เปิดเผยว่า คนก่อเหตุไม่เคยมีเรื่องอะไรกันเลย เขาก่อเหตุเรื่อยมา ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา เมื่อปีที่แล้วมาเผารถกระบะ และถัดมาก็ทุบรถบรรทุกหกล้อ ก่อนหน้านั่นมียกเศียรพญานาคทุ่ม ทำลายทรัพย์สิน เป็นคนในหมู่บ้านไม่ไกลกันมากนัก ชื่อ นายคง หรือดง เครือทอง ทางบ้านได้แจ้งความดำเนินคดีเผารถยนต์เมื่อสิงหาคม 2564 ติดคุกมา 4 เดือน พอออกจากคุกมาเมื่อเดือนมกราคม 2565 ก็มาก่อเหตุอีก เป็นคนเหมือนกับชอบกลั่นแกล้งแต่พูดรู้เรื่อง อยากให้เจ้าหน้าที่มาดูแลเพื่อความปลอดภัยด้วย
นายเปรมณพิชญ์ สุพิชญ์สิปปภาส ลูกชายเจ้าของบ้านที่เห็นเหตุการณ์เมื่อวันที่ 14 ก.พ. บอกว่า ช่วงเวลาตีสองเศษ ตนตื่นมาจะเตรียมทำกับข้าวใส่บาตร ได้ยินเสียงนั่งร้านที่หน้าบ้านดังขึ้นจึงมองเห็นชายเปลือยกายถือขวาน กำลังจะเข้ามาทุบรูปปั้นหน้าบ้าน ได้ตะโกน ไล่เขาจึงวิ่งหนีออกไป
ขณะที่ นายพรหมพริษฐ์ สุพิชญ์สิปปภาส ลูกชายเจ้าของบ้านอีกคน บอกว่า หลังเกิดเหตุได้ไปที่บ้านผู้ก่อเหตุในช่วงเช้า ญาติเขาไม่สนใจ บอกว่าอยากทำอะไรก็เอาไปเลย เดือดร้อนไปทั่ว ปีที่แล้วไปเผารถขนอ้อย ก่อเรื่องไปทั่ว ครั้งนี้ถือว่าหนัก อาจไปก่อเหตุที่รุนแรงกว่านี้ อยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการเอาไปรักษาที่ไหนก็ได้ แทบจะไม่ได้นอนกันเลย กลัวว่าเขาจะมาทุบทำร้าย ทุกข์ใจมากอยากให้เจ้าหน้าที่มานำตัวไปรักษาเพื่อความปลอดภัยของชาวบ้าน
ขณะที่คุณป้า เจ้าของที่ดิน ที่ให้เช่าตั้งเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่บอกว่า เมื่อสองปีที่แล้วนายคงก็มาเอาก้อนฟางที่เตรียมไว้ให้วัว นำมาเผาสายส่งสัญญาณโทรศัพท์ ช่างมาซ่อมแจ้งว่าเสียหายไปห้าหมื่นบาท แต่ไม่ได้แจ้งความต่อตำรวจไว้
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านนายคง เมื่อนายคงเห็นผู้สื่อข่าวก็รีบหลบออกจากบ้านไป มีพี่ชายบอกกับผู้สื่อข่าวว่าน้องชายป่วยจิตเวช เคยไปรับการรักษาแต่ไม่หาย เป็นอย่างนี้มานาน แม้เขาจะอาละวาดแต่ไม่เคยทำร้ายคนในบ้าน เขาไม่เสพหรือติดยาเสพติดแต่อย่างใด ยืนยันว่าเป็นผู้ป่วยจิตเวช
ด้านเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสวาย เดินทางไปยังบ้านนายคง สอบถามอาการ ประวัตินายคงจากญาติพี่น้องบ้านติดกัน ทราบว่ามีอาการป่วยทางจิต และจะประสานเจ้าหน้าที่จิตเวช รพ.สุรินทร์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเมืองสุรินทร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สวาย และ รพ.สต.สวาย มารับตัวเพื่อไปรักษา เบื้องต้นคาดว่าขาดยาตั้งแต่ในช่วงเป็นผู้ต้องขังอยู่ในเรือนจำที่ผ่านมา