xs
xsm
sm
md
lg

กำนัน-ผญบ.พร้อมใจไล่ปลัด อบต.คำเขื่อนแก้ว อุบลฯ ทำงานล่าช้า เจ้าตัวโต้ต้องทำตามระเบียบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อุบลราชธานี - กลุ่มกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตำบลคำเขื่อนแก้ว อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี รวมตัวชูป้ายไล่ปลัด อบต.ทำงานล่าช้าทำให้ชาวบ้านเสียผลประโยชน์นานกว่า 3 ปี ขณะปลัดสาวโต้ ต้องทำตามระเบียบ ทำให้งบประมาณคั่งค้าง เมื่อมีนายกจากเลือกตั้งแล้วจะเป็นผู้สั่งดำเนินการต่อไป


เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (14 ก.พ.) นางสาวบุญฑริกา จัยสิน กำนันตำบลคำเขื่อนแก้ว อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี พร้อมผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนันกว่า 30 คน รวมตัวถือป้ายขับไล่นางสาวอุไรทิพย์ แสนอ้วน ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลคำเขื่อนแก้ว พร้อมยื่นหนังสือมติการประชุมของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตำบลคำเขื่อนแก้ว เมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2564 ให้ขับนางสาวอุไรทิพย์ เพราะปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ทำให้ประชาชนในพื้นที่ไม่ได้รับประโยชน์

เนื่องจากสถานีสูบน้ำจากแม่น้ำมูลใช้ทำเกษตรกรรมเสียหาย แต่ไม่ทำการซ่อมแซมให้กลับมาใช้ได้ รวมทั้งหลังเกิดภัยพิบัติโพดุล เมื่อปี 2562 รัฐบาลส่งงบประมาณกว่า 4 ล้านบาทให้ อบต.ไปปรับปรุงแก้ไขถนนที่ได้รับความเสียหายจำนวน 3 เส้น แต่ยังไม่ได้ดำเนินการมาจนถึงปีนี้ รวมถึงการทำงานในเรื่องอื่นๆ ที่ยังมีความล่าช้า ทำให้ประชาชนในท้องถิ่นจึงมีมติขับไล่ปลัดสาวคนนี้ และมาร้องเรียนให้ตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง


นายสมาน อุ่นวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคำเขื่อนแก้ว ได้ออกมารับหนังสือร้องเรียน พร้อมกล่าวว่า ตนมีแนวทางที่จะแก้ปัญหาเรื่องนี้ในรูปแบบของตน ให้สมานฉันท์มีเหตุมีผล จึงได้เชิญมาคุยกันนอกรอบ ไม่อยากให้มีความขัดแย้งจนเป็นข่าว เพราะทำให้ภาพลักษณ์ของอำเภอเสียหาย ส่วนการดำเนินการตามสิทธิที่มาร้องเรียน ตนก็จะดำเนินตามให้ที่ได้ร้องเรียนมา

หลังยื่นหนังสือถึงนายก อบต.กลุ่มกำนัน ผู้ใหญ่บ้านได้ไปยื่นหนังสือต่อนายอภัย วุฒิโสภากร นายอำเภอสิรินธร เพื่อให้ตรวจสอบการทำงานและขอให้มีการย้ายนางสาวอุไรทิพย์ไปประจำที่อื่น ซึ่งนายอภัยได้ตอบรับจะทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง และดำเนินการไปตามหลักฐานข้อเท็จจริงที่พบ


ด้านนางสาวอุไรทิพย์ แสนอ้วน ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลคำเขื่อนแก้ว ให้รายละเอียดตามที่ถูกกล่าวหาว่า กรณีสถานีสูบน้ำที่ชำรุดเสียหาย ซึ่งรับถ่ายโอนมาจากกรมชลประทาน ต่อมาปี 2564 มี 1-2 จุดเสียหายใช้งานไม่ได้ จึงเอาเรื่องเข้าสภาฯ ของบซ่อมแซม แต่สภาฯ ยังไม่อนุมัติงบประมาณ

ส่วนการใช้งบภัยพิบัติพายุโพดุล 3 โครงการ ซึ่งไม่ใช่งบประมาณพัฒนาปกติ ต้องทำการประมูลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (อีบิดดิ้ง) ของคณะกรรมการแต่ละชุด ต้องตรวจสอบบริษัทผู้รับเหมาที่มารับจ้างกว่า 20 ราย ทำให้การตรวจสอบเสร็จไม่ทันงบประมาณปี 2563 จึงไปติดล็อกส่วนของมติ ครม.จังหวัดให้ชะลอไว้ก่อน เพื่อทำหนังสือไปยังกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นขอยกเว้นมติ ครม.

ซึ่งก็ยังไม่ตอบรับกลับมา ทำให้ไม่สามารถลงนามในสัญญาว่าจ้างได้ ทั้งที่มีบริษัทผู้รับจ้างทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว

หากมีการสอบสวนตนยินดีให้ปากคำและนำหลักฐานมาแสดงต่อคณะกรรมการตามที่เล่ามา เพราะถือว่าได้ปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น