อุทัยธานี - ครอบครัวชาวไร่อุทัยธานี..ปรับป่าอ้อยร่วมลงแรงปลูกดอกไม้ตามฤดูกาล-ขุดสระทำบ่อปลา เปิดร้านปรุงเมนูก้นครัวแบบบ้านๆ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเช็กอินเซลฟีกลางสวนอ้อย
กลายเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กท่องเที่ยววันหยุด รวมถึงวาเลนไทน์นี้ของอุทัยธานีไปแล้ว สำหรับ..“สวนป่าจุลพรรค์” บ้านหมู่ 4 ต.บ้านใหม่คลองเคียน อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี หลังจากครอบครัวที่ประกอบอาชีพทำไร่อ้อยมาช้านานผันตัวเปิดร้านกาแฟและอาหารสร้างจุดเช็กอินท่องเที่ยว ที่ยังคงล้อมรอบด้วยไร่อ้อยของคนในหมู่บ้าน ตัดกับทิวเขาทอดเป็นแนวยาว
นายมนูณ สุขนุ่น อายุ 46 ปี ซึ่งปัจจุบันทำหน้าที่เป็นทั้งผู้จัดการ-ผู้บริหารที่ร้าน เล่าว่า ที่นี่เราจะทำในรูปแบบธุรกิจ ครอบครัว ที่ดินทั้ง 8 ไร่ 2 งานนี้ แต่เดิมเป็นไร่อ้อยของรุ่นพ่อรุ่นแม่ ต่อมาพี่น้องในครอบครัวก็มีแนวคิดอยากจะปรับเปลี่ยนอาชีพครอบครัว
ผู้ริเริ่มก็คือ นายบรรเจิด จุลพรรค์ ซึ่งเป็นน้องชาย ได้ปรับจากไร่อ้อยทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวเช็กอินอีกแห่งหนึ่งของอุทัยธานี จากนั้นครอบครัวพี่น้องต่างคนต่างแบ่งหน้าที่กันทำตามความสามารถของตนเอง ทั้งการตกแต่งก่อสร้าง การเปิดร้านกาแฟ ร้านอาหาร และการทำสวน
“เราเปิดสวนแห่งนี้ให้ชมฟรีทุกวันมาเป็นเวลา 2 ปีแล้ว โดยจะปรับสวนดอกไม้ตามฤดูกาลที่เหมาะสม เช่น ทานตะวัน หรือคอสมอส ฯลฯ ตลอดจนมีมุมถ่ายรูปเซลฟี มุมให้อาหารปลา กระต่าย มุมสนามเด็กเล่น และกิจกรรมสันทนาการสำหรับเด็กๆ ที่เดินทางมาท่องเที่ยวด้วย”
และในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ หรือวันแห่งความรัก ทางสวนจุลพรรค์ได้ปรับมุมถ่ายรูปภายในทุ่งคอสมอสที่กำลังเบ่งบานออกดอกสวยงามให้เข้ากับบรรยากาศของวันแห่งความรัก โดยเฉพาะจุดที่นั่งรูปหัวใจปรับด้วยดอกไม้ประดิษฐ์เป็นดอกกุหลาบสีแดงขนาดใหญ่ และอีกมากมายหลายจุด ให้คู่รักได้ถ่ายรูป-เซลฟีเป็นที่ระลึกกันอย่างมีความสุข
ด้านเครื่องดื่ม ที่นี่มีเมนูหลากหลาย โดยเฉพาะกาแฟสดที่คัดสรรเมล็ดกาแฟมาจากภาคใต้โดยตรง และที่เป็นซิกเนเจอร์ ก็คือกาแฟหม้อต้มโมก้าพอท นมสดบารวนชูการ์ และนมหมีปั่น ฯลฯ ราคาแก้วละ 30-40 บาทเท่านั้น นอกจากนี้ที่นี่ยังเปิดเป็นร้านอาหารสำหรับมื้อเที่ยง มื้อเย็น และมื้อค่ำ มีซุ้มนั่งรอบสระน้ำขนาดใหญ่ ให้นั่งรับประทานและชมวิวทิวทัศน์จากธรรมชาติของภูเขาหิน ภูเขาระเบิด และภูเขาลูกโล่ที่เป็นจุดขึ้นชมวิวทะเลหมอกมุมสูงของอุทัยธานี
โดยอาหารก็มีหลากหลายเมนูให้เลือก แต่หลักๆ จะเป็นอาหารบ้านๆ เป็นสูตรของทางร้านที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่ทุกวัน ใช้ผักอินทรีย์ปลอดสารพิษที่ปลูกกันเอง พริกแกงตำเอง เช่น แกงป่าปลากรายแท้ๆ กับผักหวานป่า ต้มยำไก่บ้าน ผัดเผ็ดหมูป่า ทอดมันปลากราย ผัดฉ่าทะเล นอกจากนี้ยังมีเมนูส้มตำทุกชนิด อาทิ ส้มตำถาด ส่วนราคาอาหารเริ่มต้นที่จานละ 50 บาท ไปจนถึงหลักร้อยเท่านั้น
