อุดรธานี - “บิ๊กโจ๊ก” นำทีมแถลงจับแก๊งเงินกู้ทวงหนี้โหด หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามรวบ 6 ผู้ต้องหาได้ทั้งหมด หลังก่อเหตุทวงหนี้ พร้อมยิงปืนข่มขู่ถล่มบ้านผู้เสียหาย ด้านลูกหนี้เผยรู้สึกโล่งใจ เร่งหาเงินต้นคืนเจ้าหนี้ให้เร็วที่สุด
จากกรณีปรากฏข่าว ชายไม่ทราบชื่อประมาณ 6 คนบุกเข้ามาบ้านพักผู้เสียหาย พื้นที่ ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี เพื่อตามทวงหนี้เงินกู้ 10,000 บาท จนเกิดเหตุทะเลาะวิวาท โดยใช้อาวุธปืนยิงถล่มบ้านผู้เสียหาย ทำให้คนในครอบครัวหวาดกลัว ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (13 ก.พ.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร./รองผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ก.จว.อุดรธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาแก๊งทวงหนี้ 6 คน ประกอบด้วยนายวรพล หรือไอซ์ คล้ายนุช อายุ 19 ปี ชาว ต.ไผ่ขวาง อ.เมือง จ.พิจิตร,
นายธนพล หรือทัช บุราโส อายุ 23 ปี ชาว ต.คอนสาย อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี, นายบรรพต หรือ บิ๊ก แสนโคตร อายุ 22 ปี ชาว ต.หมูม่น อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี, นายชาญชัย หรือ ชาญ เววิชัยโก อายุ 23 ปี ชาว ต.นากว้าง อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี, นายธนาวุฒิ หรือ จ๊อบ สุขมานพ อายุ 23 ปี ชาว ต.นากว้าง อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี, นายวสันต์ หรือ โอ เมฆประทีป อายุ 24 ปี ชาว ต.ไผ่ขวาง อ.เมืองพิจิตร จ.พิจิตร
พร้อมของกลางอาวุธปืนแบบแมกกาซีน คล้ายปืนแบเรตต้า ขนาด 9 มม. 1 กระบอก แมกกาซีน 1 แมก ลูกกระสุนปืน จำนวน 5 นัด กล่องใส่อาวุธปืน สีดำ 1 กล่อง มีดพกสั้น จำนวน 1 เล่ม มีดยาวตลอดด้าม ประมาณ 75 ซม. 1 เล่ม ท่อนไม้ยาว 2 ฟุต 1 อัน
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 6 คน โดยกล่าวหาว่า “ซ่องโจร, ร่วมกันประกอบธุรกิจการให้สินเชื่อส่วนบุคคลทางการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ ร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรากฎหมายกำหนด, ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย ของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น
ร่วมกันบุกรุกโดยร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นโดยมีอาวุธ ร่วมกันทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจโดยการขู่เข็ญ ร่วมกันพกอาวุธติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร นอกจากนี้จะได้ร่วมกันขยายผลกลุ่มผู้ร่วมขบวนการปล่อยเงินกู้ทวงหนี้ผิดกฎหมายให้ถึงที่สุดต่อไป
สำหรับพฤติการณ์ผู้ต้องหา เมื่อวันที่ 11 ก.พ. 65 เวลาประมาณ 15.00 น. นายวรพล พร้อมด้วย นายธนพล ได้ไปทวงหนี้จาก น.ส.เพลินพิศ หรือเป้ กิ่งไทรกลาง อายุ 41 ปี ชาว ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งได้กู้ยืมเงิน 10,000 บาท โดยเก็บเงินดอกเบี้ยวันละ 200 บาท เก็บมาแล้ว 5 วัน เมื่อไปได้พบบุตรชายของนางเป้ กำลังนั่งดื่มเหล้าอยู่กับเพื่อนๆประมาณ 3-4 คน จึงได้เอาภาพของนางเป้ให้ดู บุตรชายของนางเป้ตอบว่าไม่ทราบอยากรู้ให้หาเอง
นายวรพล และนายธนพล ขับขี่รถจักรยานยนต์วนหาภายในซอย ได้สอบถามคนแถวนั้น แล้วขับขี่รถมาจอดที่หน้าบ้านของนางเป้ บุตรชายของนางเป้พูดว่า “บอกว่าไม่อยู่ๆ ไม่เข้าใจหรือไง” และเกิดโต้เถียงกัน บุตรชายของนางเป้ไม่พอใจ จึงได้ร่วมกันกับพวกประมาณ 3-4 คนรุมทำร้ายร่างกายนายวรพล และนายธนพล ทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บ และไม่สามารถออกจากบริเวณที่เกิดเหตุได้ นายวรพลได้โทร.หานายธนาวุฒิ หรือจ๊อบ ให้มาช่วย
ต่อมาเวลาประมาณ 16.30 น. กลุ่มพรรคพวกของนายวรพล และนายธนพล อีก 4 คน ได้มาถึงที่เกิดเหตุพร้อมอาวุธ ได้แก่นายวสันต์, นายชาญชัย ถืออาวุธปืนแบลงค์กัน, นายบรรพตถือมีดสั้น, นายธนาวุฒิ ไปถึงได้ไปสมทบ นายวรพลถือไม้คมแฝก, นายธนพลถือมีดดาบจึงได้เกิดเหตุการณ์ที่ปรากฏในคลิปวิดีโอตามภาพข่าว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขยายผลและขอหมายศาลเข้าค้นบ้านพักของผู้ต้องหา พบบัญชีรายชื่อลูกหนี้ ตารางการผ่อนชำระ โดยปรากฏรายชื่อลูกหนี้อยู่ในบัญชีดังกล่าว ซึ่งจะได้ขยายผลถึงนายทุนและผู้ร่วมขบวนการ รวมถึงติดตามลูกหนี้ที่ปรากฏในบัญชีดังกล่าวมาสอบปากคำเป็นพยานต่อไป และถ้าปรากฏพบการกระทำความผิดอื่นใดอีก จะได้ดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาเพิ่มเติมต่อไป
ด้าน น.ส.เพลินพิศ หรือเป้ ผู้เสียหาย กล่าวว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายแล้วรู้สึกโล่งใจ รู้สึกปลอดภัยในชีวิตมากขึ้น เมื่อคืนนอนหลับสบายดีหลังจากไม่ได้นอนมา 2 คืน ยืนยันจากนี้จะหาเงินต้นจำนวน 10,000 บาทไปคืนเจ้าหนี้ให้เร็วที่สุด และจะไม่กู้เงินนอกระบบอีกแล้ว เพราะเข็ดกับการกระทำแบบนี้