ราชบุรี - หนุ่มสวนผึ้ง จ.ราชบุรี หอบหลักฐานโต้สาวคู่กรณีที่อ้างว่าตนเองหลอกให้รักแล้วซื้อรถยนต์ให้ ยืนยันฝ่ายหญิงไปซื้อรถมาเอง แล้วมาบังคับให้ตนจ่ายเงินให้ ตนจ่ายให้แล้วถึง 8 หมื่น ซ้ำฝ่ายหญิงยังบุกรุกเข้าไปอยู่ในบ้าน แจ้งความกลับแล้ว 4 ข้อหา ทั้งหมิ่นประมาท บุรุก ทำลายทรัพย์สิน และ พ.ร.บ.คอมพ์
จากกรณี น.ส.ปนิษา รอดนนท์ ได้คบหาหนุ่มชาว อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ที่รู้จักกันผ่านแอปพลิเคชั่น ต่อมามีการกล่าวหาฝ่ายชายว่าหลอกให้รักแล้วยืมเงินรวมทั้งให้ดาวน์รถให้ แต่ไม่ยอมใช้เงินคืน กระทั่งมีการโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวของฝ่ายหญิงถึงการกระทำของฝ่ายชายว่าเป็นคนหลอกลวง ไม่ยอมหาเงินมาคืนให้ เป็นเรื่องราวผ่านโลกโซเชียล เป็นเหตุให้ฝ่ายชายได้รับความเสียหาย จนแจ้งความฟ้องร้องดำเนินคดีกัน
ล่าสุด วันนี้ (11 ก.พ.) นายประทีป ชาวประทุม หรือเต๊าะ อายุ 46 ปี ประกอบธุรกิจส่วนตัว ได้นำเอกสารหลักฐานออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจของตนเองกรณีการถูกพาดพิงกล่าวหาของสาวคนดังกล่าว โดยนำเอกสารสำเนาสลิปการโอนเงินใช้คืนให้ น.ส.ปนิษา รอดนนท์ บางส่วน แต่ละครั้งมีการระบุจำนวนเงินไว้อย่างชัดเจน หลักฐานการแจ้งที่อยู่การขอบ้านเลขที่บ้านในที่ดินของครอบครัวที่ได้อยู่อาศัยมานานตั้งแต่ปี พ.ศ.2555 นำมาแสดง พร้อมทั้งรูปถ่ายของประตูบ้าน กุญแจที่คล้องถูกทุบทำลายจนเสียหาย รูปรถยนต์ป้ายแดงที่ฝ่ายหญิงขับไปชนจนพังได้รับความเสียหาย
นายประทีป กล่าวว่า ตนไม่ได้หลอกลวงผู้หญิงคนนี้ตามที่เขากล่าวอ้าง กรณีมีเรื่องเกี่ยวกับรถยนต์นั้นได้มีการพูดคุยเรื่องการออกรถจริง แต่วันออกรถได้บอกไปแล้วว่า ไม่พร้อมที่จะออกรถเพราะมีเงินไม่พอ แต่ฝ่ายหญิงไปออกรถมาก่อน และยังมีหลักฐานการโอนเงินให้เขาตามเอกสาร หลังจากที่รู้จักกันมาช่วงเดือนกรกฎาคมผ่านมาทางเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นการคุยกันเหมือนกับเป็นรุ่นพี่มากกว่า มาวันหนึ่งฝ่ายหญิงมาเที่ยวที่บ้าน มากับลูกน้อง หลังจากนั้นก็ไปๆ มาๆ พอเขามาที่บ้าน ตนเองจะไปอยู่บ้านแม่ เพราะในเวลากลางคืนเขามาที่บ้าน ยังรู้สึกตกใจว่าทำไมถึงเข้าไปอยู่ในบ้านได้ ทั้งที่ประตูบ้านล็อกไว้ มีวันหนึ่งตนกลับจากต่างจังหวัดมาพบว่าเขาอยู่ในบ้านกับลูกน้องที่มาด้วยกัน ลักษณะเหมือนกับไม่มีที่พักแล้วมาอยู่ในบ้านเรา
ส่วนกรณีเรื่องเงินมีการหยิบยืมกันยอมรับว่าจริง และมีการโอนคืนกลับไปบ้างแล้ว ส่วนเรื่องซื้อรถยนต์นั้น เขาเห็นว่าเราขับมอเตอร์ไซค์ ผมบอกว่ายังไม่พร้อม เพราะอยู่ระหว่างรอเปียแชร์ ทำงานรวบรวมเงินก่อน แต่สุดท้ายเขาไปจัดการเรื่องซื้อรถเขาเอง และนำไปใช้ตลอด รถยนต์ป้ายแดงคันนี้ตนเองไม่ได้ใช้เลย ชื่อและเอกสารที่รับรถเป็นของเขาทั้งหมด ผมได้โอนเงินให้เขาไปตลอดตอนนี้ยอดโอนเงินอยู่ที่เกือบ 8 หมื่นบาท ตนเองมีเงินแค่นี้ เขาไปออกรถมาแล้วเหมือนมาบีบให้ผมต้องจ่ายเงิน เพราะได้บอกไปแล้วว่ายังไม่รีบ ครั้งแรกได้โอนเงินให้เขาก่อน 5 หมื่นบาท พอโอนให้ไปแล้วยังไม่เอารถมาให้ตนเองใช้ ต่อมาโอนเพิ่มไปอีกรวมแล้วเป็นเงิน 7 หมื่นบา ยังไม่ได้ใช้รถ ต่อมาเขาขับรถป้ายแดงคันที่ซื้อมาไปเฉี่ยวชนมีตำหนิ เลยทำให้รู้สึกว่ารถมีปัญหาตนเองไม่อยากได้ รถที่ซื้อเป็นชื่อของเขาเอง
ขณะนี้มีการแจ้งความดำเนินคดีแล้ว โดยเอกสารหลักฐานต่างๆ อยู่ที่ สภ.สวนผึ้ง เกี่ยวกับลงในระบบโซเชียล และที่ สภ.เมือง แจ้งความดำเนินคดีด้วยกรณีที่โพสต์ประจานตนเอง เป็น พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หมิ่นประมาท
"ทุกคนที่เข้าไปคอมเมนต์ผมแจ้งกลับทุกคน โดยเก็บหลักฐานไว้หมดแล้ว มีใบแจ้งความที่ผู้หญิงคนนี้บุกรุกเข้าบ้านตนเอง มีการทุบกุญแจประตูบ้าน และนำรถเข้าไปจอดขวางหน้าบ้านผม สุดท้ายเขาบอกว่าให้ผมเอารถมาคืน แต่รถทั้ง 2 คันนี้อยู่กับเขา ขณะนี้รถเข้าไปจอดในบ้านผมแล้ว โดยเมื่อวานได้เข้าไปตรวจสอบบ้านผมพบว่า มีการงัดประตูบ้านผมเสียหายหมด รถยังจอดอยู่ข้างในด้วย พูดคุยกันไม่รู้เรื่องเพราะเขาใช้แต่อารมณ์ ซึ่งผมมองว่าเหมือนทำเป็นขบวนการ เราจึงสู้ด้วยเอกสารหลักฐาน ยืนยันว่าไม่ได้โกงผู้หญิงคนนี้ ทุกอย่างมีการโอนเงินถูกต้อง
“ยืนยันจะดำเนินคดีถึงที่สุดกับทุกคนที่เข้าไปคอมเมนต์หรือกดไลก์ กดแชร์ ที่เห็นว่าเข้าข่าย เพราะตอนนี้ให้ทนายเป็นผู้ดำเนินการหมดแล้ว เพราะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง กระทบต่อการทำงานในอาชีพผมด้วย ไปที่ไหนจะมีคนประณามว่าเป็นคนขี้โกง หลอกลวง ใช้ชีวิตลำบาก อยู่อย่างหวาดระแวง แม้กระทั่งขอให้เจ้าหน้าที่ไปดูแลเรื่องบ้านให้ ขั้นตอนการพูดคุยค่อนข้างช้า หลายอย่างทำให้ผมลำบาก แต่ก็ต้องทำในเมื่อเกิดเหตุขึ้นแล้ว แต่อยากชี้แจงว่าไม่ได้เป็นคนหลอกลวงหรือโกงเงินใคร อยากบอกให้เขาออกจากบ้านผมไป ว่ากันไปตามคดี ถ้าเกิดผมไม่สามารถให้ผู้หญิงคนนี้ออกจากบ้านได้คงต้องดำเนินคดีถึงที่สุด ให้กฎหมายเป็นผู้บังคับเขาเอง ตอนนี้ผู้หญิงคนดังกล่าวยังคงอาศัยอยู่ที่บ้านของผม ซึ่งขณะนี้ผมกลับไปอยู่บ้านแม่ เพราะแม่แก่มากแล้ว” นายประทีป กล่าว
ทั้งนี้ นายประทีป ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดี น.ส.ปนิษา ไว้ 4 ข้อหา ได้แก่ ข้อหาฐานหมิ่นประมาท ข้อหาบุกรุกที่ดิน ข้อหาทำลายทรัพย์สิน และข้อหาตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์