บุรีรัมย์ - พ่อแม่ผู้ปกครองตื่นตัวพาบุตรหลานอายุ 5-11 ขวบฉีดวัคซีนโควิด-19 ไฟเซอร์ ที่ รพ.บุรีรัมย์ต่อเนื่องเฉลี่ยวันละ 200-300 คน ยอมรับกังวลผลข้างเคียง แต่มั่นใจกว่าไม่ได้ฉีด เพื่อหวังลดความเสี่ยงและความรุนแรงหากพลาดติดเชื้อ ขณะ รพ.จัด จนท.ออกให้บริการฉีดวัคซีนนักเรียนเชิงรุกในสถานศึกษา หวังสร้างเกราะป้องกันเกิดคลัสเตอร์ใน ร.ร.
วันนี้ (7 ก.พ.) พ่อแม่ผู้ปกครองที่จังหวัดบุรีรัมย์ยังตื่นตัวพาบุตรหลานที่มีอายุ 5-11 ขวบไปรับบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ อย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยวันละ 200-300 คน เพื่อลดความเสี่ยงและความรุนแรงของโรคหากติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะที่โรงพยาบาลประจำอำเภอต่างๆ อีก 22 อำเภอ ก็มีพ่อแม่ผู้ปกครองพาบุตรไปรับบริการฉีดวัคซีนไฟเซอร์อย่างต่อเนื่องเช่นกัน
นอกจากนี้ ทางโรงพยาบาลบุรีรัมย์ยังได้จัดเจ้าหน้าที่ออกให้บริการฉีดวัคซีนให้แก่เด็กนักเรียนที่มีอายุ 5-11 ขวบตามโรงเรียนต่างๆ ในเชิงรุกด้วย เพื่อหวังสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดเชื้อหรือเกิดคลัสเตอร์ในโรงเรียนด้วย
สอบถาม น.ส.รัชดา จันทิสา หนึ่งในผู้ปกครองที่พาลูกชายมารับบริการฉีควัคซีนโควิด-19 ที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ ว่า ถึงแม้ส่วนใหญ่ช่วงนี้ลูกชายจะเรียนออนไลน์อยู่ที่บ้าน แต่พ่อแม่ยังต้องออกไปทำงานข้างนอก เกรงว่าหากพ่อแม่พลาดไปติดเชื้อโควิด-19 มาอาจจะนำเชื้อมาแพร่ต่อให้กับลูกได้ ดังนั้นจึงตัดสินใจพาลูกชายมาฉีดวัคซีนป้องกันไว้ เพราะเชื่อว่าการได้รับวัคซีนจะลดความเสี่ยงหรือความรุนแรงของเชื้อได้มากกว่าที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนเลย แต่ส่วนตัวก็แอบรู้สึกกังวลเรื่องผลข้างเคียงอยู่บ้าง แต่เท่าที่ดูเด็กในต่างประเทศส่วนใหญ่จะฉีดกัน
ด้าน นพ.ภูวดล กิตติวัฒนาสาร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังจากเริ่มเปิดให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 แก่เด็กอายุ 5-11 ขวบตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา พบว่าพ่อแม่ผู้ปกครองต่างก็ตื่นตัวพาบุตรหลานไปรับบริการฉีดวัคซีนทั้งที่ รพ.ศูนย์บุรีรัมย์ และ รพ.ประจำอำเภออย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ทาง รพ.บุรีรัมย์ยังได้จัดเจ้าหน้าที่ออกให้บริการฉีดวัคซีนที่โรงเรียนให้แก่เด็กนักเรียนด้วย อยากจะเชิญชวนให้พ่อแม่ผู้ปกครองพาบุตรหลานมารับการฉีดวัคซีน เพื่อร่วมสร้างเกราะป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสถานศึกษาร่วมกันด้วย