ลพบุรี - เริ่มแล้วเทศกาลนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาวงพระจันทร์ จังหวัดลพบุรี ในช่วงเทศกาลเดือนสามไทยของทุกปี จะมีการจัดเทศกาลนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาวงพระจันทร์ จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 1-15 ก.พ.
ประเพณีขึ้นเขาวงพระจันทร์ จ.ลพบุรีได้เริ่มขึ้นแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. โดยเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนได้นมัสการรอยพระพุทธบาท สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พิชิตเขาวงพระจันทร์ 3,790 ขั้น ประจำปี 2565 ซึ่งมีตำนานกล่าวว่า “เขาวงพระจันทร์” นับว่าเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดลพบุรี โดยมีทางบันไดขึ้นสู่ยอดเขารวม 3,790 ขั้น มีความเชื่อว่าหากใครได้มากราบนมัสการรอยพระพุทธบาทที่ประดิษฐานอยู่บนยอดเขาจะประสบความสุข สมหวังทุกประการ
สำหรับในปีนี้ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ทางวัดเขาวงพระจันทร์ จึงงดจัดงานที่มีการรื่นเริง หรือ มหรสพต่างๆ ออกไป แต่ยังมีการเปิดไฟอำนวยความสะดวกให้ผู้แสวงบุญเดินขึ้นบันได 3,790 ขั้น เพื่อนมัสการรอยพระพุทธบาทบนยอดเขาวงพระจันทร์ ประจำปี 2565 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 3 ถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 รวม 15 วัน 15 คืน
เพื่อเป็นการสืบสานวัฒนธรรมประเพณีที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ และเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนทุกหมู่เหล่าได้มากราบสักการะหลวงพ่อพุทธโชค พระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ ศิลปะแบบเชียงแสน ยุคต้นที่ปะดิษฐานอยู่ที่เชิงเขาวงพระจันทร์ ซึ่งถือเป็นพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดลพบุรี และใหญ่เป็นลำดับที่ 2 ของประเทศไทย รองจากพระพุทธมหานวมินทรศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ
เขาวงพระจันทร์ มีลักษณะทั่วไปของภูเขา เมื่อมองจากที่สูงจะมีรูปร่างเป็นวงคล้ายรูปพระจันทร์ ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของจังหวัดลพบุรี มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 650 เมตร และเมื่อวัดระยะทางจากเชิงเขาถึงยอดเขา โดยแนวบันไดจะมีความยาว ประมาณ 1,680 เมตร ด้านบนเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาท และนับว่าเป็นภูเขาที่เป็นที่ตั้งของยอดเขาแห่งศรัทธา เป็นแหล่งท่องเที่ยวของนักแสวงบุญ ที่นับได้ว่าเป็นอันซีนไทยแลนด์ ซึ่งมีตำนานคู่เมืองลพบุรีมาช้านาน ด้วยมีรอยพระพุทธบาท ซึ่งประดิษฐานอยู่บนยอดสูงสุดของเขา ซึ่งพุทธศาสนิกชนจะต้องเดินขึ้นบันไดทั้งหมด 3,790 ขั้น เพื่อขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาท ตามคติของพุทธศาสนิกชน ซึ่งเชื่อกันว่าจะได้เข้าเฝ้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อันเป็นบุญสูงสุด และเป็นการเสริมสิริมงคลให้ตนเองและครอบครัว โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีนของทุกปี
ประชาชนโดยเฉพาะชาวไทยเชื้อสายจีนทั้งใกล้ และไกลจะหลั่งไหลกันมานมัสการรอยพระพุทธบาท และพระพุทธรูปบนยอดเขาแห่งนี้อย่างเนืองแน่นเป็นประจำตลอดช่วงเทศกาล ถือเป็นภูเขาหนึ่งใน 2 แห่งในทั่วประเทศที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นได้ในเวลากลางคืนแบบตลอด 24 ชั่วโมง เฉพาะในช่วงเทศกาล เช่นเดียวกับเขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี
ขณะที่ น.ส.ณัฐชไม เนตรวงศ์ หนึ่งในผู้ที่ไปพิชิตเขาวงพระจันทร์ ซึ่งเดินทางมาจากกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ถือเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้ขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทบนเขาวงพระจันทร์ ถือเป็นสิริมงคลในชีวิต โดยตนเองได้ออกเดินทางตั้งแต่ช่วงเย็น ซึ่งมีความตั้งใจที่จะลงจากเขาในช่วงค่ำเพื่อ ต้องการเห็นบรรยากาศซึ่งทางวัดได้มีการประดับดวงไฟตลอดตามเส้นทางเดินในช่วงค่ำคืน เพื่อความสว่างไสว สวยงาม และตามเส้นทางเดินจะมีจุดแวะพักอยู่หลายที่ มีร้านค้าซึ่งมีบริการขายเครื่องดื่ม ผ้าเย็น ยาดม เพื่อคลายร้อนและเพิ่มพลังในการเดินหน้าต่อไป ซึ่งนอกจากจะได้กราบนมัสการรอยพระพุทธบาท เป็นการเสริมสิริมงคลแก่ตนเองแล้ว ยังได้กราบนมัสการเทพและสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกหลายองค์ เช่น องค์เทพเจ้ากวนอู องค์พระโพธิสัตว์กวนอิม และหลวงพ่อโอภาสี รวมถึงยังได้ชมวิวอ่างเก็บน้ำรูปหัวใจสวยงาม ซึ่งอยู่เบื้องล่างอีกด้วย
สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะขึ้นเขาวงพระจันทน์ ในปีนี้ ทางวัดขอความร่วมมือลดความเสี่ยง ด้วยการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล หรือกลุ่มคณะอย่างน้อย 2 เมตร และสวมหน้ากากอนามัย และพกเจลแอลกอฮอล์ล้างมือของตนเองติดขึ้นไปด้วย เพื่อป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากโควิด-19
สำหรับตำนานเขาวงพระจันทร์ มีเรื่องเล่าต่อกันมาว่า ท้าวกกขนาก ยักษ์ตนสุดท้ายที่ไม่ยอมแพ้พระราม ตามตำนานเรื่องรามเกียรติ์ จึงถูกพระรามแผลงศรโดนยักษ์กระเด็นลอยละลิ่วข้ามมหาสมุทรอินเดียมาตกที่ยอดเขาลูกนี้ แล้วพระรามสาปให้ศรปักอกเอาไว้ หากวันใดที่ศรเขยื้อนจะให้หนุมานลูกพระพาย (ลูกลม ถ้าตายเมื่อต้องลมพัดผ่านจะกลับฟื้นคืนชีพ หนุมานจึงไม่รู้จักตาย) เอาค้อนมาตอกย้ำลูกศรให้ปักอกไว้เช่นเดิม
แต่ยักษ์โดนเข้าขนาดนี้ยังไม่ตายนอนรอความตาย ฝ่ายนางนงประจันทร์ลูกสาวท้าวกกขนาก เหาะตามมาเพื่อปรนนิบัติดูแลพ่อ เพราะพ่อยังไม่ตาย ท้าวกกขนากได้แต่นอนแอ้งแม้งอยู่ในถ้ำยอดเขานางพระจันทร์นี้ และต่อมาเมื่อนางทราบว่า หากได้น้ำส้มสายชูมารดที่โคนศรแล้วศรจะเขยื้อนหลุดออกมาได้ แต่หากศรเขยื้อน ไก่แก้วจะขันเรียกหนุมานเอาค้อนมาตอกศร จึงเป็นเหตุผลให้เมืองลพบุรีไม่มีน้ำส้มสายชูขายมานาน จากตำนานนี้จึงเรียกเขาลูกนี้ว่า เขานงประจันต์หรือนางพระจันทร์ ต่อมา เมื่อปี พ.ศ.2496 หลวงพ่อโอภาสี ได้ขึ้นมาบนเขานี้ และเห็นว่าบริเวณเขาทั้ง 4 ด้านเป็นรูปเขาโค้ง มองทางไหนเห็นเป็นวงโอบล้อมอยู่ จึงขนานนามว่า "เขาวงพระจันทร์" นับตั้งแต่นั้นมา