เชียงใหม่ - คนเชียงใหม่ตื่นตัวออกจับจ่ายซื้อของพร้อมใช้สิทธิวันแรกโครงการคนละครึ่งเฟส 4 ช่วยคนละ 1,200 บาทตลอดโครงการ จ่ายไม่เกินวันละ 150 บาท โดยพ่อค้าแม่ค้าต่างพอใจและยกมือสนับสนุน ชี้ช่วยกระตุ้นยอดขายและแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายประชาชนช่วงสถานการณ์โควิด-19 และเศรษฐกิจซบเซาข้าวของราคาแพง
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า วันนี้ (1 ก.พ. 65) ซึ่งเป็นวันแรกของการใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง เฟสที่ 4 ของรัฐบาล เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ประชาชน โดยผู้ที่ร่วมโครงการจะได้รับสิทธิรายละ 1,200 บาท ตลอดระยะเวลาของโครงการตั้งแต่ 1 ก.พ.-30 เม.ย. 65 เพื่อจับจ่ายในรูปแบบการใช้จ่ายแบบ Co-pay ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ที่รัฐช่วยจ่ายวันละไม่เกิน 150 บาท พบว่าที่ตลาด ป.พัน 7 อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เริ่มมีประชาชนออกมาใช้สิทธิกันตั้งแต่เช้า อย่างไรก็ตาม พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ยังไม่ทราบว่าสามารถเริ่มใช้สิทธิได้แล้ว จึงยังไม่ทันได้เตรียมตัว แต่ยอมรับว่ารู้สึกดีใจที่มีโครงการคนละครึ่งกลับมาอีกครั้ง เนื่องจากมองว่าทั้งช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชน และทำให้พ่อค้าแม่ค้ามียอดขายกระเตื้องขึ้น
ทั้งนี้ นางสายพิณ แก้วสายเจริญ เจ้าของร้านขายอาหารพื้นเมือง “ลาบป้าพิณ” ในตลาด ป.พัน 7 อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า รู้สึกพึงพอใจกับโครงการคนละครึ่งเป็นอย่างมากตั้งแต่รอบแรกจนถึงรอบที่ 4 นี้ เพราะช่วยให้ประชาชนมีกำลังจับจ่ายมากขึ้น แม้จะเป็นเงินเพียง 20-50 บาท แต่ก็ช่วยให้คนกล้าตัดสินใจซื้อได้มากขึ้น และช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยได้มากจริงๆ โดยในส่วนของตัวเองในฐานะแม่ค้ายอมรับว่าโครงการนี้ในช่วงที่ผ่านมาช่วยทำให้มียอดขายเพิ่มขึ้น จากปกติขายได้วันละ 800-900 บาท ก็เพิ่มขึ้นวันละ 200-300 บาท แม้จะไม่มากแต่ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี
ด้านนายสุรเชษฐ์ เสนานุช ซึ่งเป็นประชาชนที่ร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 4 และออกมาใช้สิทธิจับจ่ายซื้อของในวันแรกของโครงการเฟส 4 เปิดเผยว่า โดยส่วนตัวรู้สึกพอใจกับโครงการคนละครึ่งที่รัฐบาลเพิ่มให้ในเฟสที่ 4 ถือว่าเป็นโครงการที่ดีที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ประชาชนทั่วไป รวมถึงผู้ที่มีรายได้น้อย ตลอดจนพ่อค้าแม่ค้าให้สามารถจำหน่ายสินค้าได้มากขึ้นในช่วงที่มีสถานการณ์โควิด-19 และในภาวะที่ราคาสินค้าแพงขึ้น ซึ่งโครงการนี้ถือว่ามีส่วนช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนลงไปได้บ้าง และอยากให้มีโครงการเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ
