อุดรธานี - “อลงกรณ์” หนุนแผนเดินหน้าพัฒนานิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี เชื่อมต่อรถไฟความเร็วสูงลาว-จีนเป็นเกตเวย์ ผลักดันสินค้าเกษตรแปรรูปมูลค่าสูงจากอีสานรุกตลาดโลกผ่านระบบราง พร้อมเร่งพัฒนาสนามบินนานาชาติอุดรฯ รองรับ เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน
วันนี้ (27 ม.ค.) ที่นิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี ถนนมิตรภาพ อ.เมืองอุดรธานี นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายสุวิทย์ รัตนจินดา ประธานสมาพันธ์โลจิสติกไทย และนายอับเฟรส ชามา ตัวแทนธุรกิจโลจิสติกดูไบ เดินทางติดตามความคืบหน้าการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี โดยมีนางอรพิน พิพัฒน์วิไลกุล รองประธานนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี นำคณะดูพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม
การพัฒนานิคมอุตสาหกรรมอุดรธานีมีแผนเชื่อมโยงอีสานเกตเวย์ และระเบียงเศรษฐกิจอีสาน เปิดประตูสู่ทางรถไฟลาว-จีน ซึ่งก่อนหน้ามีการเปิดเดินรถไฟความเร็วสูงเวียงจันทน์-จีน โดยมีการส่งสินค้าเกษตรของไทยกว่า 20 ตู้คอนเทนเนอร์ เที่ยวแรกไปกับรถไฟลาว-จีน
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า นโยบายของรัฐบาลที่จะทำหลักๆ มี 2 ข้อ คือ อีสานเกตเวย์เชื่อมอีสานเชื่อมโลก และการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจอีสาน ทั้งสองนโยบายจะแยกกันไม่ได้ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจเดินไปสู่เป้าหมายอนาคต คือ “เกษตรมูลค่าสูง” จึงต้องส่งเสริมนิคมอุตสาหกรรม สินค้าเกษตรอาหาร รวมทั้งโลจิสติกส์ปาร์ก ให้พร้อมต่อการเชื่อมโยงเปิด Gateway ใหม่ไปสู่ทางรถไฟสายจีน-ลาว
ล่าสุดวันนี้ขบวนรถบรรทุกสินค้าไทยขบวนแรก 20 ตู้คอนเทนเนอร์ได้ออกจากสถานีเวียงจันทน์ใต้เมื่อเวลา 15.00 น. มุ่งหน้าไปสู่พรมแดนลาว ไปที่สถานีรถไฟโมฮาน จากนั้นจะเดินหน้าต่อไปถึงเป้าหมาย คือมหานครฉงชิ่ง เป็นการขับเคลื่อนสองนโยบาย ส่งสัญญาณถึงความพร้อม เช่น เรื่องการลงทุนด้านอุตสาหกรรมแปรรูปเกษตรมูลค่าสูง เรื่องอีคอมเมิร์ซวิลเลจ สำหรับเอสเอ็มอีในพื้นที่อีสานตอนบน 5 จังหวัด จะเพิ่มปริมาณการค้า สร้างรายได้สร้างอาชีพมากขึ้น ถือได้ว่าเดินหน้านับ 1 แล้ว
จากการหารือนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี ได้ขอสนับสนุนการเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟ จากสถานีหนองตะไก้ เชื่อมกับนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งจะมีโซน Container yard โซน Logistics warehouse ต่างๆ ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ทำให้ขีดความสามารถการแข่งขันดีขึ้น รวมถึงการสนับสนุนท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานีให้มีศักยภาพสูงขึ้นและเป็นส่วนหนึ่งของฮับด้านคาร์โก้ด้วย การลงพื้นที่วันนี้ ได้เห็นนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานีคืบหน้ามาก ทันต่อการรองรับการเดินรถไฟสายใหม่
นายอลงกรณ์เปิดเผยอีกว่า วันนี้ได้พาคณะผู้บริหารของดีพีเวิร์ล ซึ่งเป็นบริษัทโลจิสติกที่ใหญ่ที่สุดในโลกเป็นของรัฐบาลดูไบ ที่สนใจในนโยบายของรัฐบาลไทย ทั้งสนใจจะมาลงทุน จึงได้หารือในรายละเอียดของนิคมอุตสาหกรรม และการพัฒนาสถานีนาทา ขณะที่กลุ่มบริษัทเอกชนประเทศลาวเป็นเจ้าของสัมปทานก็ยินดีจะเข้ามาลงทุนเรื่องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเอย่างชัดเจน โดยจะมีสมาพันธ์โลจิสติกเป็นผู้ช่วยประสานงาน
“ส่วนประเทศจีนมีกว่า 20 บริษัท สนใจกับแผนอีสานเกตเวย์ ขณะนี้พัฒนาการความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับ สปป.ลาว และจีน ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งในฐานะหุ้นส่วนเศรษฐกิจ การพัฒนาความสัมพันธ์ทำให้โครงการนี้เดินหน้าไปอย่างรวดเร็วเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติโดยรวม” นายอลงกรณ์กล่าว