หนองคาย - “อลงกรณ์” ปลื้มส่งออกข้าวสาร 500 ตันจากหนองบัวลำภูขึ้นรถไฟจีน-ลาวครั้งแรก เชื่อลู่ทางสินค้าเกษตรอีสานผลิตเพื่อการส่งออกจะตามมาอีกหลายชนิด ด้าน สปป.ลาวเสนอเชื่อมโยงข้อมูลไทย-ลาว ลดพิธีการขั้นตอนส่งออก คาดสถานการณ์โควิดคลายเร่งเปิดด่านชายแดน
วันนี้ (27 ม.ค.) ที่ห้องประชุมด่านศุลกากรหนองคาย ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 อ.เมืองหนองคาย นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ ได้ติดตามงานนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยช่วงเช้าได้ประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชน และตัวแทนของ สปป.ลาว เรื่องสินค้าเกษตรที่นำเข้า-ส่งออก ปัญหาอุปสรรคการขนส่งสินค้าเกษตรผ่านด่าน และการขนส่งผลไม้ทางราง ส่วนช่วงบ่ายหารือและติดตามความก้าวหน้าพืชสวนโลกที่จังหวัดอุดรธานี
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการขับเคลื่อนเส้นทางรถไฟจีน-ลาว โดยบ่ายวันนี้ขบวนรถไฟสินค้าเกษตรของไทยขบวนแรกเป็นข้าวสารจากจังหวัดหนองบัวลำภู จำนวน 500 ตัน ได้ขึ้นรถไฟสถานีรถไฟเวียงจันทน์ใต้ ผ่านด่านโมฮาน ไปยังเมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างจีน ลาว และไทย มีตัวแทนของกลุ่มบริษัท สปป.ลาว บริษัทเวียงจันทน์โลจิสติกส์พาร์ค บริษัทท่าบก ท่านาแล้ง
นับเป็นวันประวัติศาสตร์ที่สร้างความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจของอีสานเหนือ 5 จังหวัด อุดรธานี, หนองคาย, บึงกาฬ, เลย และหนองบัวลำภู ขับเคลื่อนให้เป็นระเบียงเขตเศรษฐกิจอีสาน จะพัฒนาต่อไปคล้ายอีอีซี การขนส่งทางรถไฟไม่ได้มุ่งเป้าเฉพาะไปจีนเท่านั้น จะเชื่อมโยงไปยังเอเชียกลางและตลาดยุโรป จึงได้เชิญตัวแทนของบริษัทเอกชนตะวันออกกลางมาร่วมพิจารณาการลงทุน เส้นทางบริการโลจิสติกส์สถานีรถไฟนาทา จ.หนองคาย จะทำข้อตกลงระหว่างอีสานเกตเวย์ กับพอคอสเกตเวย์ทางบก กับประเทศคาซัคสถานเชื่อมต่อไปยุโรป
นายอลงกรณ์กล่าวต่อว่า การพิจารณาเปิดด่านจะเกิดขึ้นแน่นอนเมื่อสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น โอมิครอนถึงแม้จะระบาดเร็ว แต่มีความรุนแรงและอาการน้อย จนมีการคาดคะเนว่าเข้าสู่ภาวะปกติภายในปีนี้ ดังนั้นการเปิดด่านทุกด่าน และการเปิดพื้นที่เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การค้า จะกลับมาฟื้นตัว ทุกฝ่ายต้องเตรียมตัว เมื่อมองเห็นโอกาสการขนส่งทางรางไม่ใช่แค่ขนส่งสินค้าอย่างเดียว ต้องขนคน ขนนักท่องเที่ยว
สปป.ลาวมีสภาพแวดล้อม แหล่งท่องเที่ยวสวยงาม มาเชื่อมต่อกับประเทศไทย ดึงนักท่องเที่ยวจำนวนมากจากจีน รวมถึงพัฒนาสนามบินนานาชาติอุดรธานีให้เป็นฮับ ขนส่งสินค้าและขนส่งคน ให้เป็นการเชื่อมโยงมัลติโมเดลทรานสปอร์เตชัน จำเป็นต้องอัปเกรด และการเดินหน้านิคมอุตสาหกรรมอุดรธานีให้เป็นนิคมด้านเกษตรสีเขียว เพื่อแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ภายใต้โครงการหนึ่งกลุ่มจังหวัดหนึ่งนิคมอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตรแปรรูปอาหารที่ทำอยู่แล้วให้คืบหน้ามากขึ้น
ขณะนี้มีความพร้อมที่จะลงทุนและทาง สปป.ลาวก็ให้ความสนใจ และจะเป็นนิคมอุตสาหกรรมสีเขียวแห่งแรกของกลุ่มจังหวัด ไม่เช่นนั้นก็ต้องขายแต่วัตถุดิบ ในอนาคตสินค้าเกษตรของภาคอีสานจะมีทางรอดด้วยการแปรรูป
นอกจากนี้ ภาคเอกชนไทยเสนอให้เชื่อมโยงข้อมูลกับทางการลาวในการลดขั้นตอนพิธีการต่างๆ ในการขนส่งสินค้าทางรางให้กระชับและรวดเร็วขึ้น ซึ่งเป็นข้อเสนอที่ดี โดยจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณารูปแบบว่าสามารถดำเนินการได้ด้านใดบ้าง ทาง สปป.ลาวมีความพร้อม แต่ต้องมาคุยกันว่าจะเชื่อมโยงอะไรกันบ้าง บางเรื่องเป็นความลับทางราชการ
นายอลงกรณ์กล่าวอีกว่า การขนส่งผลไม้ไทยไปจีนนั้น ไทยได้รับอนุญาต 22 ชนิดคือผลไม้ ภายใต้พิธีสารระหว่างไทย-จีน เป็นข้อตกลงพิเศษ จะเร่งผลักดันให้เกิดการขนส่งบนรถไฟสายนี้ เพื่อเป็นช่องทางขนส่งผลไม้ โดยได้ทำงานล่วงหน้าในการทำพิธีสารเมื่อกันยายน 2564 การขนส่งผลไม้ระหว่างไทย-จีน ผ่านประเทศที่สามต้องทำพิธีสาร ขณะนี้มี 22 ชนิดผลไม้ ด่านเข้าออกต้องกำหนดพิธีสาร หนองคายเพิ่งได้รับความเห็นชอบเมื่อ 13 ก.ย. 64 เหลือด่านตรวจพืชของจีนที่สถานีรถไฟโมฮานเท่านั้น และได้แจ้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยไปแล้ว
การส่งออกปี 2564 แม้ไทยจะเผชิญปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน ค่าระวางแพง แต่ไทยสามารถส่งออกผลไม้ไทยไปจีนได้สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ 11 เดือน ผลไม้ 7 ชนิด ไทยส่งออกได้ 1.6 แสนล้าน เพิ่มขึ้นร้อยละ 40 ที่สำคัญ เฉพาะทุเรียนเป็นปีแรกที่ส่งออกได้เกินแสนล้าน บนเส้นทางรถไฟสายนี้จะเพิ่มมูลค่าส่งออกได้มากกว่าร้อยละ 50 ดังนั้นเชื่อว่าความร่วมมือระหว่างไทย ลาว จีน จะเป็นกุญแจเชื่อมโยงที่สำคัญและจะมีความร่วมมือต่างๆ ตามมา