ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ผู้เสียหายนับ 10 รายรวมตัวเข้าแจ้งความตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น หลังถูกบริษัทขายสินค้าสมาร์ทพลัสชักชวนร่วมลงทุนซื้อสินค้าให้ผลตอบแทนกำไรงาม แรกๆ ได้เงินจริงจึงย่ามใจชักชวนญาติพี่น้องพรรคพวกเพื่อนฝูงหาเงินมาร่วมลงทุนด้วย สุดท้ายถูกหลอกหมด สูญเงินรวมกันกว่า 200 ล้านบาท
วันนี้ (27 ม.ค.) ที่ สภ.เมืองขอนแก่น ได้มีผู้เสียหายกว่า 10 รายทั้งจากจังหวัดขอนแก่นและชัยภูมิพากันเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิดเจ้าของบริษัทสมาร์ทพลัส จำกัด ต่างถือป้ายข้อความว่า “บ.สมาร์ทพลัส พวกแอปลวงโลก” “เอาเงินสมาชิกคืนมา” “เมื่อไหร่บาปกรรมจะตามทัน ขอให้กรรมติดจรวด”
โดยบริษัทดังกล่าวได้ชักชวนผู้เสียหายเหล่านี้ร่วมลงทุนด้วยการซื้อขายสินค้ากับทางบริษัทไปใช้ไปขายต่อ โดยจะได้รับผลตอบแทนกำไรงาม จึงพากันหลงเชื่อนำเงินมาร่วมลงทุน
งวดแรกได้ผลตอบแทนจำนวนมากจริง แต่ละคนจึงไปชักชวนญาติพี่น้องพรรคพวกเพื่อนฝูงมาร่วมลงทุนด้วย แต่งวดที่ 3 เป็นต้นไปไม่ได้รับ ทวงถามก็ถูกบ่ายเบี่ยง ติดต่อไม่ได้ รวมเงินที่เสียกันไปกว่า 200 ล้านบาท
นางสาวกชพร วิสัยมั่น อายุ 33 ปี ชาวจังหวัดชัยภูมิ หนึ่งในผู้เสียหายเล่าว่า เมื่อประมาณเดือนสิงหาคม 2564 ได้รับการชักชวนจากคนใกล้ชิดว่ามีบริษัทแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในจังหวัดขอนแก่น ชักชวนให้ร่วมลงทุนผ่านการซื้อสินค้าในจำนวน 1 ชุด ราคา 1,200 บาท แล้วจะได้ผลตอบแทนเป็นเงินจำนวน 1,500 บาท เท่ากับได้กำไร 300 บาท ภายในเวลา 7 วัน จึงตัดสินใจลงทุนงวดแรกเป็นเงิน 12,000 บาท หรือเท่ากับ 10 ชุด โดยเลือกสินค้าเป็นกาแฟสำเร็จรูป เมื่อครบกำหนด 7 วันก็ได้ผลตอบแทนเป็นเงิน 15,000 บาท เมื่อเห็นว่าได้ผลตอบแทนจริงจึงมีการชักชวนคนในครอบครัวและเพื่อนสนิทมาร่วมลงทุน
ยอมรับว่าใน 3 งวดแรกได้เงินและผลตอบแทนจริงตามที่ตกลง แต่พอเข้าถึงสัปดาห์ที่ 4 กลับไม่ได้รับเงินตอบแทนพยายามติดต่อไปยังบริษัทก็บ่ายเบี่ยงไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน อ้างว่าอยู่ในช่วงพัฒนาแอปพลิเคชัน สุดท้ายบุกไปทวงถามยังบริษัทก็ไม่มีคำตอบและเงินปันผลคืนสมาชิก จึงเชื่อว่าถูกหลอก เฉพาะตนเองและคนในครอบครัวสูญเงินไปกว่า 5 แสนบาท
เช่นเดียวกับนางภมรรัตน์ ตั้งพงษ์ ชาวจังหวัดชัยภูมิ ก็ถูกชักชวนมาให้ร่วมลงทุนในลักษณะเดียวกันนี้ ได้เงินตอบแทนมาเฉพาะ 3 งวดแรก จึงชักชวนคนใกล้ชิดมาร่วมลงทุนด้วย แต่หลังจากนั้นไม่ได้ผลตอบแทนใดๆ เคยทวงถามไปยังบริษัทฯ กลับถูกข่มขู่ต่างๆ นานา พร้อมท้าให้ไปฟ้องร้องดำเนินคดีและเรียกค่าเสียหายเอาในชั้นศาล เฉพาะตนเองและคนในครอบครัวสูญเงินประมาณ 1 ล้านบาท ส่วนเพื่อนคนใกล้ชิดสูญเงินรวม 10 ล้านบาท วันนี้จึงชักชวนผู้เสียหายเดินทางไปยังบริษัทฯ แต่กลับถูกพนักงานไล่ให้ออกมาข้างนอก
จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อเอาผิดบริษัทดังกล่าวและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งก่อนหน้านี้เคยไปร้องเรียนต่อตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 ที่ขอนแก่นมาแล้ว แต่คดีไม่มีความคืบหน้า จึงอยากเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดดำเนินคดีโดยเร็ว เพราะมีผู้เสียหายจำนวนมาก รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 200 ล้านบาท หลายคนนำทรัพย์สินไปจำนองและกู้ยืมดอกเบี้ยรายวันมาร่วมลงทุน เมื่อถูกหลอกจึงเป็นหนี้ หลายรายสิ้นเนื้อประดาตัวจนอยากคิดฆ่าตัวตายก็มี
ด้าน พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผู้กำกับการ สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า ขณะนี้ได้ให้พนักงานสอบสวนรับเรื่องร้องทุกข์ไว้แล้ว หลังจากนี้จะได้รวบรวมพยานหลักฐานเอกสารของผู้เสียหาย เพื่อออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด เนื่องจากคดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมากอยู่ทั่วประเทศ และมูลค่าความเสียหายจำนวนมาก จึงต้องเร่งออกหมายจับให้ได้โดยเร็ว พร้อมทั้งฝากแจ้งเตือนไปยังประชาชนว่าอย่าหลงเชื่อบุคคล หรือบริษัท ที่ชักชวนให้ร่วมลงทุนอ้างให้ผลตอบแทนดี
แต่ไม่มีระบบการค้าขายสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจน เพราะอาจเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ สุดท้ายก็ถูกหลอกสูญเสียทรัพย์สิน