เชียงใหม่-โซเชียลสุดเอือม!โพสต์คลิปแก๊งเงินกู้นอกระบบเหิมเกริมไม่แยแสกฎหมาย ส่งลูกน้องขี่มอเตอร์ไซค์ตระเวนโปรยทั้งใบปลิวและนามบัตรทั่วเมืองเชียงใหม่ เชิญชวนใช้บริการกู้เงินดอกเบี้ยสูงเกินกำหนด สร้างความเดือดร้อนรำคาญทั้งตามแหล่งชุมชนและโยนเข้าบ้านผู้คนอย่างหน้าตาเฉย พบอาละวาดหนักขึ้นทุกวันโดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเศรษฐกิจตกต่ำที่ชาวบ้านรายได้หดหาย หวั่นสุดท้ายเกิดปัญหาทวงหนี้โหดและใช้ความรุนแรงตามมา วอนหน่วยงานเกี่ยวข้องปราบปรามให้สิ้นซาก ตามนโยบายรัฐบาลที่กำหนดเป็นวาระแห่งชาติ
วันนี้(22 ม.ค.65)รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า แม้ว่ารัฐบาลโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะมีนโยบายปราบปรามหนี้นอกระบบที่คิดอัตราดอกเบี้ยสูงเกินกฎหมายกำหนด โดยถือเป็นปัญหาสำคัญของประชาชน และเป็นวาระแห่งชาติ อย่างไรก็ตามปรากฏว่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ยังคงพบว่ามีกลุ่มแก๊งที่ทำธุรกิจปล่อยเงินกู้นอกระบบออกหากินอย่างต่อเนื่อง กระจายอยู่ในแทบจะทุกอำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เศรษฐกิจซบเซาประชาชนมีรายได้ตกต่ำไม่เพียงพอใช้จ่าย ปรากฏว่าธุรกิจปล่อยเงินกู้นอกระบบยิ่งเฟื่องฟู เพราะประชาชนสามารถเข้าถึงและใช้บริการได้ง่าย แม้ว่าจะทราบดีว่าอาจจะเกิดปัญหาตามมาทั้งเรื่องดอกเบี้ยที่สูงเกินกฏหมายกำหนดจนไม่มีความสามารถในการชำระคืนและการถูกติดตามทวงหนี้โดยการข่มขู่หรือใช้ความรุนแรง
ทั้งนี้รายงานข่าวระบุด้วยว่ากลยุทธการตลาดอย่างหนึ่งที่แก๊งเงินกู้นอกระบบใช้ในการหาลูกค้าทุกวันนี้คือการให้คนเอานามบัตรหรือใบปลิวเชิญชวนไปโปรยตามแหล่งชุมชน,ตลาด,ร้านค้า และบ้านเรือนประชาชน ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญใจให้กับประชาชนทั่วไปเป็นอย่างมาก โดยช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเพจเฟซบุ๊ค “แม่ริม เชียงใหม่” โพสต์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมบรรยายข้อความว่า “เจอแถวแม่ริม เชียงใหม่ วันนี้เลย...” เป็นคลิปที่บันทึกภาพคนขับขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนมาด้วยกัน2คน คาดว่าน่าจะเป็นผู้ชายทั้งคู่ แต่งกายปกปิดมิดชิดทั้งสวมใส่หมวกกันน็อคและสวมเสื้อแขนยาว ขับขี่ไปตามส้นทางถนนช่วงผ่านหน้าสถานีตำรวจภูธรแม่ริม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งระหว่างทางที่ขับขี่ไปเมื่อถึงช่วงที่เป็นร้านค้าหรือบ้านคนจะหยิบแผ่นกระดาษคล้ายนามบัตรหรือใบปลิว โยนเข้าไป โดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
สำหรับโพสต์ดังกล่าวที่มีการเผยแพร่ออกไปนั้น ปรากฏว่ามีผู้เข้าไปรับชมกว่า 1.3 แสนครั้ง และมีผู้เข้าไปแสดงความเห็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ต่างบอกเล่าประสบการณ์ว่าเคยพบเห็นการกระทำในลักษณะนี้ของแก๊งเงินกู้นอกระบบเป็นประจำในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมทั้งให้เบาะแสและหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอและภาพถ่าย โดยเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบและกวาดล้างปราบปรามแก๊งเงินกู้นอกระบบให้หมดสิ้นไปเสียที เพราะพบว่าแก๊งเงินกู้นอกระบบมักจะก่อปัญหาเรื่องการใช้ความรุนแรงและข่มขู่คุกคามในการทวงหนี้ ราวกับไม่เกรงกลัวกฎหมาย ซึ่งมีทั้งปรากฏเป็นข่าวและไม่เป็นข่าวอยู่เสมอ อีกทั้งทุกวันนี้ยังสร้างความเดือดร้อนรำคาญจากการนำใบปลิวหรือนามบัตรเชิญชวนกู้เงินมาโปรยไว้ตามบ้านและแหล่งชุมชน กลายเป็นภาระให้เจ้าของบ้านต้องมาคอยเก็บกวาดทำความสะอาดอยู่ตลอด
ขณะเดียวกันวันนี้(22 ม.ค.65) พลตำรวจตรียิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในห้วงปัจจุบันแก๊งปล่อยเงินกู้ระบาดอย่างหนัก มีทั้งรูปแบบเชิญชวนโดยการแจกนามบัตร ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ หรือแอปพลิเคชัน ซึ่งบางครั้งมีการคิดดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนดนั้น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีนโยบายปราบปรามหนี้นอกระบบที่คิดอัตราดอกเบี้ยสูงเกินกฎหมายกำหนด ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของพี่น้องประชาชน เป็นวาระแห่งชาติ ทั้งนี้พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เร่งกวาดล้างแก๊งปล่อยเงินกู้ที่คิดดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนดอย่างเร่งด่วน โดยที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการจับกุมแก๊งปล่อยเงินกู้ที่คิดดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนดมาโดยตลอด และอยากขอฝากถึงพี่น้องประชาชนว่าก่อนที่จะกู้เงินจากที่ใดก็ตามขอให้ศึกษาข้อมูลเงื่อนไขรวมถึงดอกเบี้ยให้ดี เพื่อไม่ให้ถูกเจ้าหนี้คิดดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด
ขณะเดียวกันอยากเตือนไปถึงเจ้าหนี้นอกระบบที่คิดดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด หรือมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายอื่น ๆ แอบแฝง นั้น อาจมีความผิดตามกฎหมาย พระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2560 มาตรา 4 บุคคลใดให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใด ๆ อันมีลักษณะเป็นการอำพรางการให้กู้ยืมเงินโดยมีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้(1) เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ (2) กำหนดข้อความอันเป็นเท็จในเรื่องจำนวนเงินกู้หรือเรื่องอื่น ๆ ไว้ในหลักฐานการกู้ยืม หรือตราสารที่เปลี่ยนมือได้เพื่อปิดบังการเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด และ(3) กำหนดจะเอาหรือรับเอาซึ่งประโยชน์อย่างอื่นนอกจากดอกเบี้ย ไม่ว่าจะเป็นเงินหรือสิ่งของหรือโดยวิธีการใด ๆ จนเห็นได้ชัดว่าประโยชน์ที่ได้รับนั้นมากเกินส่วนอันสมควรตามเงื่อนไขแห่งการกู้ยืมเงิน ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 2 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 200,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ ที่จะปราบปรามอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนี้นอกระบบที่ผิดกฎหมายดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด และขอฝากความห่วงใยถึงพี่น้องประชาชน หากพบเบาะแสหรือพบการกระทำความผิดขอให้ท่านแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สถานีตำรวจในพื้นที่ใกล้ท่าน หรือ โทร.สายด่วน 191 หรือสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง