นครพนม - งามหน้า! ผู้การตำรวจสั่งสอบข้อเท็จจริง หลังชายปริศนาร้องสื่อโซเชียลถูกตำรวจชุดสืบสวนรีดเงินแลกตัวผู้ต้องหาขนยา ยักยอกของกลางยาบ้าร่วม 2 แสนเม็ด เผยหากพบหลักฐานชัดดำเนินคดีอาญาเด็ดขาด
ไล่ออกทันที
ความคืบหน้ากรณีมีข่าวเผยแพร่ทางสื่อโซเชียล กรณีมีชายปริศนาอ้างว่าเป็นนายทุนค้ายาเสพติด นำหลักฐานภาพถ่ายออกมาแฉ เครือข่าย 2 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 1 คน ถูกจับกุม พร้อมของกลางยาบ้าบรรจุในกระสอบปุ๋ย จำนวน 1 กระสอบ รวมยาบ้าประมาณ 2 แสนเม็ด โดยออกมาร้องเรียนผ่านเพจ อย่าหาทำ เพื่อแฉพฤติกรรมตำรวจชุดสืบสวนนครพนม ที่มีการรีดไถเงินและยักยอกยาบ้าของกลางหายปริศนา
พร้อมมีคลิปเสียงชายปริศนาอ้างเป็นนายทุน ระบุว่าลูกน้องถูกจับ เมื่อประมาณวันที่ 7-8 มกราคม 2565 ในพื้นที่บ้านโพนจาน ต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม รวมมีผู้ต้องหา 3 คน ชาย 2 ราย หญิง 1 คน โดยมีชายอ้างเป็นตำรวจชุดสืบนครพนมเป็นคนจับกุม พร้อมเสนอเรียกรับเงินเพื่อแลกกับการปล่อยตัวผู้ต้องหาขนยาบ้าเป็นเงิน 6 แสนบาท แต่มีการต่อรองเหลือ 3 แสนบาท เพื่อปล่อยตัวผู้ต้องหา ชาย 1 ราย หญิง 1 ราย
ส่วนชายอีก 1 รายเสนอเคลียร์เงิน 4 แสนบาท ต่อรองเหลือ 2.5 แสนบาท ซึ่งทีมงานจ่ายเงินไปเรียบร้อย โดยต้องการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง เอาผิดตำรวจชุดสืบสวนนครพนม ตามคำกล่าวอ้าง เนื่องจากยาบ้าของกลางที่ยึดหายปริศนา
ล่าสุด พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ออกมาเปิดเผยว่า หลังทราบข่าวตนไม่ได้นิ่งนอนใจมีการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น ในพื้นที่ สภ.โพนสวรรค์ตามคำกล่าวอ้าง ว่ามีการจับกุมยาบ้าดังกล่าวในท้องที่บ้านโพนจาน ต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์ พบว่าไม่มีข้อมูลการจับกุม และไม่มีการนำของกลางยาบ้าส่งดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน แต่มีการตรวจสอบจากภาพหลักฐานที่มีคนส่งไปร้องเรียนผ่านสื่อ ตรวจสอบแล้วไม่ใช่ภาพเหตุการณ์เก่า ยืนยันว่ามีการจับกุมจริง และสันนิษฐานว่ามีการยักยอกของกลางยาบ้าหายไปจริง
ส่วนรายละเอียดการเรียกรับเงินเพื่อไถ่ตัวขบวนการค้ายาบ้ายังไม่สามารถให้รายละเอียดได้ โดยได้ตั้งทีมสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว คาดว่าจะรู้ผลชัดเจนอีกไม่นาน สำหรับนายตำรวจที่คาดว่าจะมีส่วนพัวพันเกี่ยวข้อง เบื้องต้นได้มีคำสั่งไปช่วยราชการที่ตำรวจภูธรภาค 4 แล้ว 1 นาย เพื่อออกจากพื้นที่ ให้ทีมสอบสวนข้อเท็จจริงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนมั่นใจ ถึงแม้ตำรวจจะทำผิด จะไม่มีการปกป้อง หากพยานหลักฐานครบ ดำเนินคดีทางอาญา รวมถึงทางวินัย ไล่ออกทันที ซึ่งขอเวลาตรวจสอบ เพราะยังไม่มีหลักฐานครบในการกล่าวหาเอาผิดตำรวจชุดสืบสวนดังกล่าว
ผู้การตำรวจนครพนมกล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบขบวนการค้ายาบ้า ตามภาพที่มีการนำมาร้องเรียน ทางตำรวจตรวจสอบยืนยันรู้ตัวแล้ว แต่ยังหาตัวไม่พบ ซึ่งจะเป็นพยานบุคคลที่เป็นกุญแจสำคัญในการคลี่คลายปริศนาของยาบ้าหายไปครั้งนี้ และเชื่อมโยงเอาผิดตำรวจนอกรีตได้แน่นอน โดยได้มอบหมายให้ทีมทำงานติดตามดูแลคุ้มครองพยานเต็มที่ ขอให้มั่นใจหากหลักฐานชัดเจนตำรวจนอกรีตเราจะเอาผิดให้ถึงที่สุด และจะไม่ยอมให้นายใดมาสร้างความเสื่อมเสียให้แก่วงการตำรวจ ถือเป็นนโยบายสำคัญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยิ่งเรื่องยาเสพติดจะต้องไม่ยุ่งเกี่ยวเด็ดขาด