นครพนม - ห่วงธรรมชาติบนอุทยานแห่งชาติภูลังกาเสียหาย หลังนักเที่ยวสนใจขึ้นชมความงามถ้ำนาคีเพิ่มก้าวกระโดด วางมาตรการเข้มเดินเที่ยวเส้นทางเดียว ห้ามออกนอกเส้นทาง พร้อมนำไกด์ท้องถิ่นช่วยดูแลนักท่องเที่ยวระหว่างขึ้นชมความงามบนถ้ำนาคี
นางขวัญใจ รอสูงเนิน นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ อุทยานแห่งชาติภูลังกา เปิดเผยว่า ปัจจุบันถ้ำนาคีที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติภูลังกาฝั่งอำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม มีนักท่องเที่ยวค่อนข้างมาก ช่วงวันจันทร์-ศุกร์จะมีนักท่องเที่ยวประมาณ 500-800 คนต่อวัน ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ ประมาณ 1,500-2,000 คนต่อวัน สภาพสิ่งแวดล้อมที่ค่อนข้างเปราะบาง เพราะอุทยานแห่งชาติภูลังกามีพืชหายากและพืชเฉพาะถิ่น
ดังนั้น เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมบนอุทยานแห่งชาติภูลังกา จึงมีแนวทางบริหารจัดการให้นักท่องเที่ยวเดินเป็นเส้นทางเดียว ไม่ให้ออกนอกเส้นทาง คือเดินเที่ยวในลักษณะวน loop เพราะกลัวว่าหากนักท่องเที่ยวออกนอกเส้นทางแล้ว อาจจะไปเหยียบย่ำเอาทรัพยากรที่เป็นพืชเฉพาะถิ่นและพืชหายาก เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ได้ง่าย
นอกจากนั้นยังจัดให้มีไกด์อาสา เป็นชาวบ้านในชุมชนท้องถิ่นมาช่วยดูแลนักท่องเที่ยวในแต่ละกรุ๊ป ซึ่งจะแนะนำเรื่องขยะเพิ่มเติมเข้าไปด้วย นอกจากการให้ความรู้เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติภูลังกา โดยขยะทุกชิ้นที่นักท่องเที่ยวนำขึ้นไปต้องนำกลับลงมาด้วย หรือเมื่อเห็นขยะตามข้างทาง ต้องช่วยกันเก็บลงมา เป็นอีกสิ่งหนึ่งดีๆ เพราะหากไม่มีไกด์อาสา นักท่องเที่ยวอาจจะหลงไปเด็ดใบไม้ หรืออาจจะหลงทิ้งขยะไว้ ทำให้เกิดเป็นมลพิษส่งผลเสียต่ออุทยานได้
นางขวัญใจกล่าวต่อว่า สำหรับใครที่อยากมาเที่ยวถ้ำนาคี ขั้นตอนเบื้องต้นจะคัดกรองตรวจ covid ซึ่งนักท่องเที่ยวที่จะมา ต้องฉีดวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็ม หรือมีผลตรวจรับรอง พร้อมกับตรวจคัดกรองอุณหภูมิตามปกติ ซึ่งจะมี อสม.ในพื้นที่มาช่วยคัดกรอง โดยนักท่องเที่ยวจะมีค่าธรรมเนียมเข้าอุทยาน ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท และซื้อประกันภัยเพิ่มอีก 10 บาท ซึ่งจะบังคับทุกคนซื้อ ฉะนั้นต่อคนจึงตกเฉลี่ยประมาณ 30 บาทในการเข้าชมอุทยานแต่ละครั้ง
ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะมีค่าใช้จ่ายผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท ทั้งนี้ก็อยากเชิญชวนให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวมาเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูลังกาให้มาก เพื่อยกระดับและส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ ทำให้คนในชุมชนมีรายได้ และเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในจังหวัดนครพนมด้วย
