xs
xsm
sm
md
lg

โอมิครอนประจวบฯ พุ่งไม่หยุด ล่าสุด 83 คนแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประจวบคีรีขันธ์ - โอมิครอนประจวบฯ พุ่งไม่หยุด ล่าสุด 83 คนแล้ว ส่วนใหญ่เป็นการตรวจพบใน อ.หัวหิน สูงถึง 70 คน สาธารณสุขจังหวัดคาดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอนจะเข้ามาแทนสายพันธุ์เดลตา และกลายเป็นโรคประจำถิ่นในอนาคต

วันนี้ (12 ม.ค.) นพ.วัชรพงษ์ เหลืองไพรัตน์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในพื้นที่ จ.ประจวบฯ แล้ว 83 คน ส่วนใหญ่เป็นการตรวจพบใน อ.หัวหิน 70 คน อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลพบว่าผู้ติดเชื้อไม่ได้มีอาการรุนแรงมากกว่าเดลตา แต่สามารถแพร่เชื้อได้เร็ว

ดังนั้น จึงต้องพยายามชะลอการระบาดเพื่อให้มีผลกระทบต่อระบบสาธารณสุข รวมทั้งพยายามไม่ให้มีการติดเชื้อในบุคลากรทางการแพทย์ ไม่ให้มีการติดเชื้อในโรงพยาบาล โดยคาดว่าเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอนจะเข้ามาแทนสายพันธุ์เดลตา และกลายเป็นโรคประจำถิ่นในอนาคต

ซึ่งคลัสเตอร์ในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในช่วง 14 วันล่าสุด แบ่งเป็นคลัสเตอร์ขนาดใหญ่ (ผู้ป่วย 26 รายขึ้นไป) จำนวน 3 คลัสเตอร์ ในคลัสเตอร์ขนาดใหญ่อยู่ระหว่างการจำกัดการแพร่ระบาด คือ กองร้อยทหารเกณฑ์ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ตลาดสดไร่ใหม่ อ.สามร้อยยอด และโรงงานผลไม้กระป๋อง ต.หนองพลับ อ.หัวหิน ส่วนคลัสเตอร์ขนาดเล็ก (ผู้ป่วย 10-25 ราย) จำนวน 7 คลัสเตอร์ สาเหตุการติดเชื้อคือ การสัมผัสคนในครอบครัว ที่ทำงาน และการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา

สำหรับการติดตามนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เข้ามาในพื้นที่พักในโรงแรมหัวหิน 11,129 คน พบว่ามีผลการตรวจพบเชื้อโควิด-19 จำนวน 62 ราย แบ่งเป็นในกลุ่มนักท่องเที่ยวประเภท Test & Go การตรวจครั้งที่ 2 (วันที่ 6-7) 56 ราย และกลุ่มนักท่องเที่ยวประเภท Sand box 6 ราย จากการตรวจครั้งที่ 1 จำนวน 4 ราย และตรวจครั้งที่ 2 จำนวน 2 ราย

ส่วนโรงงาน สถานประกอบการได้รณรงค์ให้มีการตรวจเอทีเคพนักงานเป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อให้รู้เร็ว ควบคุมโรคได้เร็ว ส่วนการฉีดวัคซีนจะมุ่งเน้นให้ประชาชนได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของประชากรในจังหวัดภายในปี 2565 ส่วนการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันเข็มที่ 3 จะเน้นให้กลุ่มเสี่ยง 608 ได้รับวัคซีนก่อนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้มากขึ้น

นพ.วัชรพงษ์ เหลืองไพรัตน์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ยังกล่าวถึงการเสนอขออนุญาตจัดงานมงคลสมรสในพื้นที่ อ.ทับสะแก ซึ่งจะมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 4,000 คน ว่า โดยปกติแล้วการจัดกิจกรรมต่างๆ ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค หรือ ศปก.อำเภอ จะเป็นผู้พิจารณาอนุญาต แต่หากเห็นว่าเกินอำนาจสามารถเสนอเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดได้ ซึ่งเมื่อวานนี้ (11 ม.ค.) คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้รับทราบแนวทางการจัดงานดังกล่าวในเบื้องต้นแล้ว แต่ยังไม่ได้อนุญาต

โดยได้มอบให้ทางผู้จัดงานกลับไปจัดทำแผนให้ชัดเจนว่าจะมีมาตรการรองรับอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จนกลายเป็นคลัสเตอร์ใหม่ ซึ่งจะมีการพิจารณาเรื่องนี้อีกครั้งในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ ตามข้อกำหนดของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ควบคุมโซนสีส้ม สามารถจัดงานหรือกิจกรรมที่มีผู้เข้าร่วมได้ไม่เกิน 500 คน แต่หากเกินกว่านี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาอนุญาตของคณะกรมการโรคติดต่อจังหวัดประจวบคีรีขันธ์




กำลังโหลดความคิดเห็น