จับแล้วโจรงัดตู้บริจาคเงินวัดดัง กวาดเงินไปกว่า 2 แสนบาท

ราชบุรี - จับแล้วโจรงัดตู้บริจาคเงินวัดดังเมืองราชบุรี กวาดเงินใส่ถุงปุ๋ยไปกว่า 2 แสนบาท เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่แกะรอยจากกล้องวงจรปิด จนได้ตัว 2 ราย และยังหลบหนีอีก 2 ราย

จากกรณีที่ 2 คนร้ายแอบเข้าไปใช้คีมตัดกุญแจตู้บริจาคภายในวัดพระศรีอารย์ ม.9 ต.บ้านเลือก อ.โพธาราม จ.ราชบุรี กวาดเงินไปกว่า 200,000 บาท หลบหนีไป ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกหน้าและรูปพรรณคนร้ายไว้ได้ เหตุเกิดเมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา

ความคืบหน้าของคดี พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจจังหวัดราชบุรี ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.สมบัติ โพธิ์งาม ผกก.สภ.โพธาราม พร้อมชุดสืบจังหวัดร่วมชุดสืบโพธาราม ลงพื้นที่แกะรอยกล้องวงจรปิด และกระจายไปตามท้องที่ต่างๆ

จนเมื่อวันที่ 6 ม.ค. ได้รับการประสานจาก สภ.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ว่า ได้รับแจ้งข้อมูลจากสายลับว่า คนร้ายที่เข้าไปลักทรัพย์ในวัดพระศรีอารย์ในพื้นที่ สภ.โพธาราม ที่สื่อมวลขนเสนอข่าว คือ นายวิสิทธิ์ หรือไปร์ ยิ้มละมัย อายุ 22 ปี บ้านเลขที่ 21/13 ต.ท่าฉลอม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ทางชุดสืบสวนของ สภ.โคกขาม ได้ตามไปจับกุมตัวได้ที่บ้านพร้อมกับ น.ส.สุพรรษา โพธิ์ศรี อายุ 21 ปี บ้านเลขที่ 180/1 ต.โกรกกราก อ.เมืองสมุทรสาคร ซึ่งผู้ต้องให้การรับสารภาพ จึงนำตัวมาที่ สภ.โคกขาม

พ.ต.ต.พันธ์ฤกษ์ สร้อยทองมูล สว.สส.สภ.โพธาราม พร้อมชุดสืบสวน สภ.โพธาราม จึงเดินทางไปรับตัวผู้ต้องหากลับมาดำเนินคดี ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 คนทราบชื่อคือ นายเอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี และ น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ทั้ง 2 เป็นเยาวชน ยังหลบหนีอยู่

นายวิชิต หรือไปร์ ผู้ต้องหาให้การว่า ตนพร้อมกับแฟนสาว และนายเอ น.ส.บี แฟนนายเอ ได้ชวนกันมาก่อเหตุในวัดดังกล่าว โดยใช้รถจักรยานยนต์ 2 คัน มาถึงบริเวณศาลาหน้าวัด ได้ให้ น.ส.สุพรรษา และ น.ส.บี รออยู่ที่ศาลาปากทางเข้าวัด ตนกับนายเอ ได้ขับรถเข้าไปจอดด้านหลังวัดโดยเอารถจอดหลบไว้ข้างกำแพงแล้วเดินเข้ามาในบริเวณวัด ก่อนใช้คีมตัดเหล็กที่เตรียมมาตัดกุญแจตู้บริจาคเงินทั้ง 2 ตู้ แต่ตู้ใหญ่มีเงินมาก นายวิชิต จึงเดินไปหากระสอบปุ๋ยในวัดมาโกยเงินใส่กระสอบ

จากนั้นได้หลบหนีโดยได้เอาคีมตัดเหล็กไปโยนทิ้งบ่อหลังวัดใกล้ๆ กับที่จอดรถ แล้วหลบหนีไป ระหว่างทางได้ขับรถหลบหลีกกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง และได้เข้าไปเช่าโรงแรมแถว ม.7 ดอนกรวย อ.ดำเนินสะดวก เพื่อนำเงินออกมานับแบ่งกัน โดยตนเองให้นายเอไป 20,000 บาท ส่วนตนเองนำมา 60,000 บาท ให้แม่ตนไป 10,000 บาทเศษ ซื้อแหวนทองให้แฟน ใช้จ่ายระหว่างหลบหนี ส่วนเงินที่ได้มานั้นยอดร่วม 102,000 บาท และเงินที่เหลือนั้นตนเองได้ไปซื้อปืน 30,000 บาท แต่ถูกโกงแถมเงินหายไปอีก และช่วงที่เข้าไปเสพยา รถของตนที่เอาไปก่อเหตุหายอีก สำหรับตนเคยก่อคดีมาหลายครั้ง ตั้งแต่อายุ 15 ปี

และเมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 6 ม.ค. ได้นำตัวนายวิชิต ไปชี้จุดทิ้งคีมบริเวณบ่อหลังวัดโดยประสานชุดประดาน้ำจากมูลนิธิสว่างราชบุรี แต่ไม่พบจึงยุติการค้นหา

ล่าสุด วันนี้ (7 ม.ค.) พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี พ.ต.อ.สมบัติ โพธิ์งาม ผกก.สภ.โพธาราม พร้อมชุดสิบสวน ได้นำตัวนายวิชิต และ น.ส.สุพรรษา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ มีชาวบ้านที่ทราบข่าวมายืนดูการทำแผนจำนวนมาก ส่วนคนร้ายที่เหลืออีก 2 คน ขณะนี้เจ้าหน้าที่รู้ตัวหมดแล้ว ขอให้ออกมามอบตัวโทษหนักจะได้เป็นเบา ส่วนเงินที่คนร้ายกวาดไปไม่หมดทางวัดได้นับแล้วมีเงินที่เหลือ 25,442 บาท ส่วนเงินบริจาคที่ตู้นั้นทางกรรมการวัดได้พูดคุยกับผู้สื่อข่าวว่าตั้งใจจะนำเงินในตู้มารวมกันเพื่อจะทาสีโบสถ์แต่คนร้ายมางัดไปเสียก่อน