กำแพงเพชร – ตำรวจหิ้วคู่หูหนุ่มเมืองกาญจน์ สวมหมวกแดงลิเวอร์พูลฉกสร้อยห้างหองชื่อดังกลางเมืองกำแพงเพชร ทำแผนฯหลังตามรวบตัวได้ทันควัน พบก่อเหตุเสร็จขายสร้อยแบ่งเงินซื้อแหวนเตรียมให้แฟนสาวทันที
เย็นวันนี้(6 ม.ค.65) พ.ต.อ.เอนก จันทร์ศร รอง ผบก.ภ.จว.กำแพงเพชร พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธนัท แสงตันชัย ผกก.สภ.เมืองกำแพงเพชรและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวนายธงชัย หรือเขิน (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ชาว ต.ช่องด่าน อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี และนายพงศกร หรือโอม เกษวงศ์รอต อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/6 ม.4 ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
หลังร่วมก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ร้านทองนพเก้า ทองเยาวราช ตั้งอยู่เลขที่ 144-146 ถ.เจริญสุข ต.ในเมือง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร เมื่อเย็นวันที่ 5 ม.ค.65 และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร แกะรอยจับกุมได้ทันทีคาบ้านเช่าในเมืองกำแพงเพชร เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา
โดยเจ้าหน้าที่ได้นำผู้ต้องหาทั้งคู่ไปชี้จุดที่ได้มาจอดรถจักรยานยนต์ก่อนจะเข้าไปก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์เป็นสร้อยทองคำในร้าน จากนั้นได้นำไปขายที่ห้างทองในโรบินสันกำแพงเพชร ได้เงินมา 50,000 บาทเศษ พร้อมกับซื้อแหวนทอง มูลค่าหมื่นกว่าบาทเตรียมนำไปให้แฟนสาว เหลือเงินใส่บัญชีของตนเองอีก 3 หมื่นกว่าบาท ฃ
อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนเจ้าหน้าที่พบว่า ผู้ที่มีส่วนพัวพันกับการก่อเหตุดังกล่าวมีทั้งหมด 3 คน และได้สอบสวนพบมีผู้ทำความผิด 2 ราย อีกคนไม่รู้เรื่องเพียงแต่มาด้วย โดยไม่รู้ว่าเพื่อนจะมาวิ่งราวทรัพย์ จึงมีเพียงผู้ต้องหา 2 รายที่นำมาทำแผน
โอกาสนี้ พ.ต.อ.ธนัท แสงตันชัย ผกก.สภ.เมืองกำแพงเพชรได้กล่าวขอบคุณห้างร้านต่างๆ ที่เปิดร้านให้ดูกล้องวงจรปิดจนสามารถติดตามและจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ และอยากให้ห้างร้านต่างๆ ติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อไว้ติดตามคนร้ายดังกรณีดังกล่าว
ด้านนายสมบูรณ์ พินิตไพศาล เจ้าของร้านทองที่เกิดเหตุ เล่าว่า พฤติกรรมของคนร้ายทำทีมาขอดูทองไว้ก่อน และกลับมาอีกทีช่วงเย็น ซึ่งตนก็คิดว่าคงจะมาซื้อทองจริงๆ แต่พอตนหันไปหยิบเครื่องคิดเลข คนร้ายก็ได้คว้าทองที่หยิบให้ดูแล้ววิ่งออกไป ซึ่งตนเองและครอบครัวได้วิ่งตามไปแต่ไม่ทัน อย่างไรก็ตามยอมรับว่าตำรวจทำการจับกุมคนร้ายได้เร็วมาก
ทั้งนี้ หลังเจ้าหน้าที่ได้ทำแผน ณ ร้านทองที่เกิดเหตุเสร็จแล้ว ได้พาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุทั้ง 2 ราย ไปทำแผนต่อที่ร้านทองในห้างโรบินสันกำแพงเพชร แต่ทางเจ้าของร้านไม่อนุญาตให้ทำแผน ซึ่งตำรวจจะได้ดำเนินการเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป