xs
xsm
sm
md
lg

แรงงานโคราช-บุรีรัมย์ แห่แจ้งจับแก๊งนายหน้าเถื่อน หลอกไปทำงานเกาหลีเกือบ 30 คน รวบได้แล้ว 1

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บุรีรัมย์- แรงงานชาวบุรีรัมย์และนครราชสีมา แห่แจ้งจับนายหน้าเถื่อนฉวยโอกาศโควิดระบาดคนตกงาน หลอกไปทำงานเกาหลีใต้ตกเป็นเหยื่อเกือบ 30 คนสูญเงินกว่า 2 ล้าน เชื่อทำเป็นขบวนการ เผยนายหน้าบางรายเป็นคนในพื้นที่ หลอกให้หลงเชื่อพาไปทิ้งไว้ รร.ที่กทม. ก่อนหอบเงินหนี ล่าสุดตร.ตามรวบ “เจ๊น้ำอ้อย” หนึ่งในแก๊งได้ 1 ราย

วันนี้ (6 ม.ค.65) แรงงานใน อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ และ อ.ลำทะเมนชัย จ.นครราชสีมา แห่นำเอกสารหลักฐานเข้าแจ้งความที่ สภ.ทะเมนชัย จ.บุรีรัมย์ ให้ดำเนินคดีกับแก๊งนายหน้าเถื่อนซึ่งเป็นคนในพื้นที่ตำบลเมืองแฝก อ.ลำปลายมาศ และอยู่ต่างจังหวัด หลังจากมีพฤติกรรมหลอกลวงจะพาไปทำงานประเทศเกาหลีใต้ ตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ค. – พ.ย.2563 ที่ผ่านมา โดยเรียกรับเงินจากแรงงานรายละ 50,000 – 110,000 บาท อ้างว่าจะนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการทำวีซ่า ค่าตั๋วเครื่องบิน และแลกเงินสกุลเกาหลีหรือเงินวอนไว้สำหรับติดตัว หากใครจ่ายเงินแล้วไม่เกิน 1 เดือนจะได้บินไปทำงาน


ทั้งยังหลอกล่อว่าหากใครได้ไปทำงานที่เกาหลีจะได้ค่าแรงสูงถึงเดือนละ 50,000 – 60,000 บาท โดยอาศัยช่วงที่เกิดสถานการณ์โควิด-19 ระบาดแรงงานหลายคนตกงาน จึงมีคนหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อจ่ายเงินให้กับกลุ่มแก๊งนายหน้าเถื่อนดังกล่าวไปเกือบ 30 คน รวมเป็นเงินกว่า 2 ล้านบาท

จากนั้นนายหน้าก็พาเดินทางไปพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร โดยทำทีให้กรอกเอกสารที่เป็นภาษาเกาหลีเพื่อให้ตายใจ และหลอกให้นอนรอที่โรงแรม เมื่อทำเรื่องเสร็จมีกำหนดบินแล้วจะมาบอก ก็พากันรอที่โรงแรมเกือบเดือนแต่ไม่ได้บินไปทำงานเกาหลีตามที่นายหน้ากล่าวอ้างสักที แล้วพอนายหน้าได้เงินจากแรงงานทุกคนแล้ว ก็หอบเงินหนีแล้วหายไปเลยไม่สามารถติดต่อได้อีก ทั้งทางโทรศัพท์ ไลน์ และเฟซบุ๊กถูกบล็อกทุกช่องทาง จึงเชื่อว่าถูกหลอกแน่นอน จึงได้พากันทยอยเข้าแจ้งความ


ล่าสุดทราบว่านางน้ำอ้อย หรือ เจ๊น้ำอ้อย ซึ่งเป็นชาวตำบลเมืองแฝก อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในแก๊งนายหน้าเถื่อน ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทะเมนชัย จับกุมได้แล้ว แรงงานที่ถูกหลอกจึงได้พากันมาชี้ตัว และทยอยเข้าแจ้งความเพิ่ม เบื้องต้นนางน้ำอ้อย ถูกแจ้งข้อหา “หลอกลวงคนหางานไปทำงานต่างประเทศ” ซึ่งพนักงานก็ได้ส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดบุรีรัมย์แล้ว

น.ส.ศรีนวล ธรรมธุระ หนึ่งในแรงงานที่ถูกหลอก บอกว่า ก่อนหน้านี้ตนเองและสามีทำอาชีพเพาะเห็ดขายในตลาด มีรายได้เดือนละกว่า 30,000 บาท แต่พอหักต้นทุนแล้วก็เหลือกำไรไม่มาก กระทั่งเมื่อปี 2563 มีนายหน้าซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านมาชักชวนให้ไปทำงานที่ประเทศเกาหลี โดยหลอกล่อว่าได้ค่าแรงสูงไปแรกๆ อาจจะได้เดือนละ 30,000 – 40,000 บาท แต่หากอยู่ไปสักพักค่าแรงจะเพิ่มเป็นเดือนละ 40,000 – 50,000 บาท เห็นว่าคนที่มาชักชวนเป็นคนในหมู่บ้านและเคยไปเกาหลีมาก่อนแล้วจึงหลงเชื่อ ตัดสินใจหยุดเพาะเห็ดแล้วหาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในการทำวีซ่า และค่าดำเนินการต่างๆ ตามที่นายหน้ากล่าวอ้าง


โดยตนกับสามีจ่ายเงินไปคนละ 55,000 บาท รวม 2 คนจ่ายไป 110,000 บาท แต่สุดท้ายกลับไม่ได้บินไปทำงานเกาหลีและไม่สามารถติดต่อนายหน้าได้อีก เสียใจที่คนรู้จักคุ้นเคยกันมาหลอกลวงกันแบบนี้ ทำให้ตนกับสามีต้องเป็นหนี้และหาเงินไปตัดดอกเดือนละ 5,000 บาท จากเมื่อก่อนไม่เคยมีหนี้ จึงได้พากันมาแจ้งความเพื่อให้ตำรวจดำเนินคดีกับนายหน้า และอยากได้เงินคืนเพื่อไปใช้หนี้ ซึ่งเชื่อว่าทำเป็นขบวนการแน่นอน

ด้าน นายประสงค์ หยุดกลาง แรงงานอีกราย บอกว่า เดิมตนทำงานในโรงงาน แต่ช่วงปี 2563 เกิดวิกฤตโควิด-19 ทางโรงงานลดจำนวนแรงงาน จึงตกงานกลับมาทำงานที่บ้านแล้วจู่ๆ ก็มีคนในหมู่บ้านชื่อยายหลง ซึ่งเคยไปทำงานที่ประเทศเกาหลีมาก่อน มาหลอกว่าใครสนใจจะไปทำงานเกาหลีค่าแรงสูงเดือนละ 4 – 5 หมื่นบาท ซึ่งตอนนั้นตนยังตกงานอยู่จึงหลงเชื่อยอมจ่ายเงินให้กับนายหน้าไป 100,000 บาท เป็นการค่าดำเนินการ และแลกเงินวอน แต่สุดท้ายกลับไม่ได้ไปตามที่กล่าวอ้าง เชื่อว่าถูกหลอกและทุกวันนี้ยังไม่ได้เงินที่จ่ายไปคืน จึงได้พากันมาแจ้งความให้ดำเนินกับแก๊งนายหน้าดังกล่าวด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น