นครปฐม - มือยิงกลางงานบวชกำแพงแสน เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ สภ.กรับใหญ่ จ.ราชบุรี ด้านเมียเหยื่อกระสุนยันไม่อโหสิกรรมให้มือปืน ชี้พฤติกรรมโหดเหี้ยม ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ล้มลงแล้วยังยิงซ้ำ ชาวบ้านตั้งคำถามพื้นที่ภาค 7 ยิงกันตายประจำ
จากกรณีที่นายพิพัฒน์ แก้วพิมพ์ อายุ 54 ปี อาศัยในพื้นที่ ม.7 ต.ทุ่งขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ถูก นายธนัท จ้อยร่อย กระหน่ำยิงกลางงานเลี้ยงฉลองบวชนาค พื้นที่ ม.6 ต.ทุ่งขวาง อ.กำแพงแสน เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กำแพงแสน และชุดสืบสวน ภ.จว.นครปฐม ไล่ล่าตามตัวตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา กระทั่งผู้ก่อเหตุได้เข้ามอบตัวที่ สภ.กรับใหญ่ จ.ราชบุรี และส่งตัวมาที่ สภ.กำแพงแสน ในช่วงเช้าที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดได้เข้าพบกับ นางมานิตย์ เอกจีน อายุ 46 ปี ภรรยาผู้ตาย อยู่บ้านเลขที่ 38 ม.7 ต.ทุ่งขวาง อ.กำแพงแสน บอกว่า นายพิพัฒน์ สามีมีอาชีพเลี้ยงไก่ชน ซึ่งมีลูกสาวเป็นนักวอลเลย์บอล สังกัดทีมจังหวัดนนทบุรี ซึ่งปกติไม่เคยมีเรื่องกับใคร แถมเป็นคนสนุกสนาน โดยก่อนเกิดเหตุสามีได้ไปร่วมงานบวชของเจ้าภาพที่บ้านงาน ซึ่งทราบว่ามีการพูดจาไม่ถูกหูกับญาติของเจ้าภาพแต่ไม่ได้คิดอะไร และได้ออกมาจากบ้านงานเพื่อไปนั่งดื่มกับน้องๆ ที่คุ้นเคยกันอีกที่หนึ่ง ต่อมาได้มีผู้หญิงชื่อ ณู ได้เอาเหล้ามาให้และบอกว่าให้กลับไปเข้าไปในงานเลี้ยงเพื่อเคลียร์งานให้จบ และเป็นคนถ่ายคลิปนาทีการเคลียร์กันเอาไว้
ซึ่งคนที่อยู่ด้วยได้บอกผู้ตายว่าไม่ต้องไป แต่สามีไม่สบายใจและได้ตัดสินใจขี่รถจักรยานยนต์กลับไปที่งานและมาทราบอีกทีว่าถูกยิงเสียชีวิตไปแล้ว ไม่คิดว่ามือยิงจะกล้ามาก่อเหตุทั้งๆ ที่ไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน และมีการกระหน่ำยิงใส่สามีทั้งๆ ที่ล้มลงไปแล้วอย่างโหดเหี้ยม ส่วนตัวไม่อโหสิกรรมให้ และขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ซึ่งทราบว่ามีการเข้ามามอบตัวแล้ว
ด้านนางบังอร จ้อยร่อย อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79 ม.6 ต.ทุ่งขวาง อ.กำแพงแสน แม่ไอ้เอ็ม มือยิง บอกว่าทราบเรื่องตั้งแต่เมื่อคืน เพราะตำรวจมาตาม และมาทราบว่าลูกชายมามอบตัวแล้ว ปกติเขาจะเป็นคนใจเย็นแต่ถ้าดื่มเหล้าจะอารมณ์ร้อน และปกติไม่ได้พักที่นครปฐม
ต่อมาผู้สื่อข่าวสอบถามนายจรูญ คล้ายเมือง อายุ 37 ปี กล่าวว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุตนเองได้นั่งดื่มกินกับนายพิพัฒน์ ผู้ตาย ซึ่งได้มีคนมาบอกว่าให้กลับเข้าไปเคลียร์ในงานบวช ตนเองกับเพื่อนที่นั่งดื่มด้วยกันช่วยกันห้ามปรามบอกว่าไม่ต้องไป แต่ไม่นานผู้ตายก็ขี่รถจักรยานยนต์ออกไปเพื่อจะไปเคลียร์ให้จบ ซึ่งตนเองได้ขี่รถติดตามมากับเพื่อนอีก 1-2 คน เมื่อมาถึงเห็นนายธนัท หรือเอ็ม ยืนรออยู่ และได้ตรงเข้ามาหาผู้ตาย จากนั้นได้ยิงปืนขึ้นฟ้า 7-8 นัด ซึ่งนายพิพัฒน์ ได้พยายามจะชักปืนที่พกมาเตรียมสู้
แต่มือยิงกระหน่ำยิงใส่ตัวผู้ตายจนล้มลง และยิงใส่มาที่ตนเองและเพื่อน ทำให้กระสุนถูกที่หัวนิ้วโป้งข้างขวา และล้มลง และมือยิงยังไม่จบ ได้เปลี่ยนแมกกาซีนมายิงใส่ที่หัวนายพิพัฒน์ อีกหลายนัด เป็นภาพที่สะเทือนใจ และยังยิงกราดใส่คนที่วิ่งเข้ามาดูเหตุการณ์
ขณะที่บรรยากาศที่ สภ.กำแพงแสน หลังทราบว่า นายธนัท หรือเอ็ม ได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กรับใหญ่ จ.ราชบุรี และได้ถูกส่งตัวมาที่ สภ.กำแพงแสน จ.นครปฐม พบว่ายังไม่มีการเปิดให้ข้อมูลกับสื่อที่มาเกาะติดในการทำข่าว โดยมีกระแสยืนยันหลายเสียงว่ามีการเข้ามอบตัวจริง แต่ยังไม่มีการบันทึกภาพเอาไว้ได้ และมีการตั้งประเด็นว่า เหตุใดจังหวัดนครปฐม มีการก่อเหตุที่ใช้ความรุนแรงเกี่ยวกับอาวุธปืนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทั้งๆ ที่ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 ได้สั่งการให้มีการกวดขันเรื่องอาวุธปืนอย่างเด็ดขาด โดยมีทั้งเหตุยิงปืนขึ้นฟ้าตกใส่ศีรษะคนตาย นักศึกษาช่างกลยกพวกตีกันและยิงกันตาย ล่าสุด คือการกระหน่ำยิงในงานบวช ที่มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย