ระยอง - รวบแล้วคนร้ายใช้อาวุธปืนบุกเดี่ยวจี้ชิงทอง พร้อมเงินสดร้านทองแม่จรินทร์ 4 อ.บ้านฉาง จ.ระยอง หลังหนีกบดานใน จ.บึงกาฬ สารภาพต้องการหาเงินไปใช้หนี้เพื่อนร่วมงาน และติดหนี้พนันไก่ชน รวมทั้งต้องการหาเงินใช้ในการจัดงานบวชของตนเองที่โคราช
จากกรณีคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 30 ปี สวมหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า ก่อเหตุใช้อาวุธปืนพกสั้นออโตเมติกจี้ชิงทรัพย์ร้านทองแม่จรินทร์ 4 อ.บ้านฉาง จ.ระยอง เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 28 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้ทรัพย์สินไปเป็นสร้อยคอทองคําหนัก 1 บาท จํานวน 4 เส้น พร้อมด้วยเงินสดจํานวน 15,000 บาทรวมมูลค่าประมาณ 130,000 บาท ซึ่งหลังก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปนั้น
ล่าสุด กองบังคับการสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ได้ออกเอกสารประชาสัมพันธ์ว่า หลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสืบสวนหาตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็วเนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์และสะเทือนขวัญประชาชน
กระทั่งเวลาประมาณ 23.30 น.วันที่ 30 ธ.ค.2564 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.2 นำโดย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 และ พ.ต.อ.วราวุธ เจริญชนม์รอง ผบก.สส.ภ.2 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จว.ระยอง ได้ประสานไปยัง พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ บำรุงสวัสดิ์ ผกก.สืบสวน ภ.จว.บึงกาฬ ร่วมกันจับกุม นายนพคุณ ภิรมอยู่ อายุ 34 ปี ชาว อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดระยอง ได้ที่บ้านเลขที่ 376/2 ม.1 ถ.ประกอบบูรณะ ต.วิศิษฐ์ อ.เมือง จ.บึงกาฬ
พร้อมของกลางสร้อยคาทองคําหนัก 1 บาท จํานวน 4 เส้น และเงินสดที่ได้มาจากการชิงทรัพย์ที่มียอดคงเหลือ 4,800 บาท และอาวุธปืนพกสั้นบีบีกัน (ดัดแปลง) จำนวน 1 กระบอก รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่ามีโอ 125 ไอ สีขาวน้ำเงิน ทะเบียน คงจ 365 ระยอง รถที่ใช้ก่อเหตุ และรถยนต์กระบะยี่ห้อเชฟโรเลต สีขาว ทะเบียน ผบ 4683 ระยอง อีก 1 คัน เป็นรถที่ใช้หลบหนี
โดยได้ตั้งข้อกล่าวหา “ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธหรือใช้อาวุธโดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำความผิดและพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุมและมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง”
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.2 ได้ร่วมกับ กก.สส.ภ.จว.ระยอง และ สภ.บ้านฉาง สืบสวนหาตัวคนร้ายจนพบหลักฐานแผ่นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์จากกล้องวงจรปิด เป็นรถยามาฮ่า สีขาวน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน คงจ 365 ระยอง ซึ่งเป็นรถของ น.ส.พรประจักร (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งเกี่ยวพันเป็นภรรยาของ นายนพคุณ จนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานขอออกหมายจับผู้ต้องหาต่อศาลได้
ขณะที่ นายนพคุณ ให้การรับสารภาพเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ในคดีนี้จริง โดยอาวุธปืนพกสั้นดัดแปลงขนาด. 38 ซื้อมาจากออนไลน์ ซึ่งหลังก่อเหตุได้โยนทิ้งข้างถนนระหว่างเส้นทางหลบหนีเนื่องจากได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากภรรยาว่า มีตำรวจมาตามหาตัวจึงกลัวว่าหากถูกตำรวจตรวจพบจะมีหลักฐาน
ส่วนเงินที่ชิงทรัพย์มา จำนวน 15,000 บาท ได้ใช้จ่ายระหว่างหลบหนีจนเหลืออยู่แค่ 4,800 บาท ขณะที่การก่อเหตุในครั้งนี้อ้างว่าเนื่องจากต้องการหาเงินไปใช้หนี้เพื่อนร่วมงาน และติดหนี้พนันไก่ชน ประกอบกับต้องการหาเงินไปใช้ในการจัดงานบวชของตนเองที่บ้านพ่อแม่ที่โคราช