ประจวบคีรีขันธ์ - หนุ่มใหญ่มือยิงรถหน้าค่าย ตชด.14 ดอดมอบตัวโรงพักห้วยยาง อ.ทับสะแก อ้างยืมรถเพื่อนที่เป็น ตชด.ไปใช้ ด้านเหยื่อไม่เชื่อเป็นตัวจริง ขณะที่มีกระแสโซเชียลวิจารณ์อย่างหนัก
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กไวท์คอกซิ่ง โพสต์คลิปพร้อมข้อความระบุสถานที่เกิดเหตุด้านหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า ต.ห้วยทราย อ.เมืองประจวบฯ ว่า ปาดหน้าไม่เปิดไฟเลี้ยวแล้วมายิงปืนใส่ บอกได้คำเดียว เอาให้ถึงที่สุด คิดว่าเป็นตำรวจแล้วจะทำอะไรก็ได้เหรอ พร้อมขอความช่วยเหลือขอภาพและคลิปรถที่อยู่ในเหตุการณ์ ทราบว่าผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ห้วยยาง อ.ทับสะแก หลังจากเกิดเหตุเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 18 ธันวาคม 2564
ล่าสุด วันนี้ (20 ธ.ค.) นายสมควร ปกครอง อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 หมู่ 8 ต.วังจันทร์ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ได้เดินทางมาที่ สภ.ห้วยยาง พร้อมด้วยรถเก๋งสีดำ ฮอนด้า ซิตี้ ทะเบียน 1 ขณ 1473 กทม. อาวุธปืนขนาด 9 มม.ยี่ห้อกล็อก เข้ามอบตัวต่อ พ.ต.อ.นนท์ ภักดีพันธ์ ผกก.สภ.ห้วยยาง ในข้อหาพกพาอาวุธปืนโดยไม่มีใบอนุญาต ยิงปืนในที่สาธารณะ และข้อหาทำให้เสียทรัพย์ หลังจากเจ้าหน้าที่ได้กดดันอย่างหนัก เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ได้รับความสนใจจากประชาชน และผู้บังคับบัญชาสั่งเร่งรัดให้ดำเนินการโดยด่วน เบื้องต้น พบว่ารถเก๋งและปืนที่ใช้ก่อเหตุพบเป็นชื่อของเจ้าหน้าที่ ตชด.รายหนึ่ง
สอบสวนผู้ต้องหาสารภาพว่า ในคืนเกิดเหตุได้ยืมรถเก๋งจากเพื่อนที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นประทวนรายหนึ่ง สังกัดกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่ 14 ค่ายพระมงกุฎเกล้า เพื่อไปทำธุระ ระหว่างเดินทางกลับบนถนนเพชรเกษมขาเข้า กทม.ถึงหน้าปั๊มเอสโซ่ ห่างจากด่านตรวจ สภ.ห้วยยาง ประมาณ 2 กิโลเมตร
ขณะกำลังจะขับแซงรถกระบะของคู่กรณีที่เป็นรถคอกที่วิ่งอยู่เลนขวา ทำให้รถปาดหน้าอย่างกระชั้นชิด จากนั้นรถคอกจึงบีบแตรไล่ ทำให้บันดาลโทสะเปิดกระจกรถชูนิ้วกลางใส่ คนขับรถคอกจึงปาดเข้าเลนซ้ายเพื่อให้หยุดรถ แต่ตนไม่หยุดแล้วไล่ขับตามหลังรถคอก ต่อมาได้เร่งรถแซงพร้อมใช้อาวุธปืนที่วางอยู่ในรถยิงใส่รถคอก 6 นัด กระสุนเข้าที่กันชนหน้า ประตูด้านข้าง ยางล้อหน้าด้านซ้าย หลังก่อเหตุได้ขับรถไปคืนเพื่อนที่บ้านพักในค่ายพระมงกุฎเกล้า
นายธีรเดช มากโฉม อายุ 21 ปี ชาว จ.ปทุมธานี เจ้าของรถคอกยี่ห้ออีซูซุ กล่าวว่า ในคืนเกิดเหตุได้บรรทุกตะกร้าเปล่าจาก จ.สตูล ไปรับส้มที่ จ.สุโขทัย เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเป็นทางตรงพบรถเก๋งพยายามแซงในระยะกระชั้นชิด ขณะที่รถตนใช้ความเร็วสูงทำให้กลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุจึงบีบแตรเตือนไม่มีเจตนาจะก่อกวน สำหรับผู้ต้องหาที่เข้ามามอบตัวส่วนตัวไม่เชื่อว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ เนื่องจากพบว่ามีลักษณะการใช้อาวุธปืนมีความชำนาญ ต้องรับการฝึกมาอย่างดี ยืนยันว่าคดีนี้จะเอาเรื่องถึงที่สุดไม่มีมวยล้มต้มคนดู แม้ว่าการแจ้งความช่วงแรกไม่มั่นใจว่าคดีจะมีความคืบหน้า กระทั่งตนได้นำไปโพสต์ในเฟซบุ๊กทำให้มีกระแสโซเชียลวิจารณ์อย่างหนัก