ราชบุรี - หนุ่มพนักงานไอทีร้องเจอเพื่อนบ้านคุกคาม ด่าทอ ข่มขู่ ขู่ฆ่า ขว้างปาสิ่งของจนครอบครัวหวาดกลัว ก่อนตัดสินใจย้ายบ้านหนี หาความสงบสุข
วันนี้ (1 ธ.ค.) จากกรณีที่มีเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวัดให้รีเทิร์น past 2 ได้นำเสนอกรณี มีเพื่อนบ้านทะเลาะกัน โดยมีเนื้อหาว่า มีเพื่อนบ้านผิดชีวิตวุ่นวาย ปกครองจังหวัด รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจบ้านโป่งต้องลงไปตรวจสอบและเป็นคนกลางแก้ไขปัญหาก่อนที่จะเกิดเหตุอะไรรุนแรง "สวัสดีครับ มีเพื่อนบ้านข่มขู่คุกคามจนภรรยาและลูกหวาดกลัวหวาดระแวงไปหมดไม่สามารถเข้าไปนอนที่บ้านของตนเองได้ ต้องหาที่นอนที่อื่นนอน"
โดยล่าสุดในวันที่ 26 เวลา 02.03 น. เพื่อนบ้านดังกล่าวได้เขวี้ยงเสียมด้ามเหล็กเข้ามาในบ้านผม ทำให้ภรรยาและลูกตกใจกลัว ทุกวันนี้ภรรยาและลูกไม่อยากเข้าบ้าน เพราะเกรงว่าผมจะอดทนไม่ไหวต่อเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น เพื่อนบ้านคนดังกล่าวเวลาเมา (ไม่รู้ว่าเมาอะไร คึกได้ทั้งคืน) ตัวผมและภรรยา ไม่เป็นอันทำงานเลย ไหนจะลูกสาวต้องผลัดไปกับผมบ้าง กับแฟนบ้าง มีบ้านตัวเองให้อยู่ ก็อยู่ไม่ได้ เหตุเกิดที่หมู่บ่านเจริญรัตน์ ซอย 7 ต.ท่าผา อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ผมมีคลิป เยอะครับ เพราะมันหาเรื่องตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค.ครับ
ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่หมู่บ้านเจริญรัตน์ ซอย 7 เพื่อพูดคุยกับนายจักรกริช เพชรวรา อายุ 46 ปี อาชีพหัวหน้าแผนกไอที เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านโป่ง มาตรวจสอบในครั้งนี้
จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า นายจักรกริช อาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้ 4 คน มีพ่อ ภรรยา และลูกสาวอายุ 7 ขวบ แต่ได้ซื้อบ้านไว้ทั้งหมด 2 หลังติดกัน โดยเมื่อวันที่ 20 ต.ค. ขณะกลับบ้านได้มีเสียงขวดปามาเกือบโดนรถ และตามด้วยเสียงด่าทอมาจากทางบ้านตรงข้าม ทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือ นายบอล อายุ 29 ปี ปัจจุบันว่างงาน ก่อนจะมีการพูดคุยกัน ซึ่งทางนายบอล ได้ยกมือไหว้ ก่อนที่ภรรยาจะเรียกให้เข้าบ้าน
หลังจากเข้าบ้านไปแล้ว ทางนายบอล ได้มีการโวยวาย ด่าทอ ข่มขู่หนักกว่าเดิมจนดึก เลยตัดสินใจโทร.ไปที่ สภ.บ้านโป่ง ก่อนจะส่งสายตรวจมาระงับเหตุ พร้อมทั้งตักเตือน ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับไปก็หนักขึ้นกว่าเดิม ด่าทอ ข่มขู่ฆ่าด้วยคำพูดที่หยาบคายจนไม่สามารถพูดได้ จนถึงเวลาตี 2 ซึ่งลูกเมียต้องอยู่ด้วยความหวาดกลัว ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน แต่เมื่อก่อนจะชอบท้าตีท้าต่อยกับคนอื่นอยู่เป็นประจำในช่วงเวลากลางคืน
นอกจากนั้น วันที่ 7 พ.ย. เมื่อนายบอล เห็นว่านายจักรกริช ได้ติดกล้องไว้ที่บ้านเลยด่าใส่กล้อง พร้อมทั้งชูนิ้วกลางใส่ และก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมาเรื่อยๆ จนวันที่ 24 พ.ย. นายจักรกริช จะเข้าบ้านแต่ทางภรรยาไม่ยอม เพราะรู้ว่านายบอล จ้องจะหาเรื่อง จนต้องออกไปหาห้องเช่าอยู่ที่อื่น จนวันที่ 25 พ.ย. นายจักรกริช ทนไม่ไหวออกไปทำเรื่องหาห้องเช่า เพราะไม่สบายใจเวลาเข้ามาอยู่ที่บ้าน และตัดสินใจไปทำเรื่องซื้อบ้านใหม่อยู่ที่ จ.กาญจนบุรี เพราะเชื่อว่าการย้ายบ้านใหม่สังคมใหม่จะสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินได้
ล่าสุด วันที่ 26 พ.ย.ช่วงเวลาประมาณ 02.05 น. นายบอล ได้ลากเหล็กมาหน้าบ้านก่อนจะขว้างเข้ามาในรั้วชนเสาปูนและรถ และมีเสียงดังมากยิ่งทำให้ครอบครัวเกิดความหวาดกลัวหนัก ส่วนที่ออกมาร้องเรียนเพราะอยากให้สังคมรับรู้ว่าทุกครอบครัวต้องการอยู่อย่างสงบสุข เมื่อเข้าบ้านมาแล้ว ไม่ใช่ว่าต้องมาระแวงกับคนรอบข้าง หรือเพื่อนบ้าน ส่วนหนึ่งที่ตนต้องระแวงเพราะว่าภรรยาไม่อยากให้เกิดกรณีเดียวกับน้องบาส มือมีด ไม่อยากให้สามี และพ่อของลูกติดคุก ซึ่งตอนนี้ได้ตัดสินใจย้ายบ้านแล้ว และไม่คิดจะกลับมาอยู่ที่นี่อีก
ด้านนางน้อย เพื่อนบ้านกล่าวว่า ได้ยินเสียงด่าอยู่ในบ้านบ่อยครั้ง แต่ไม่ทราบว่าด่าใคร พอตนได้ยินก็กลับเข้าบ้านเพราะกลัวเขาจะมาพาลเรา และรู้ว่ามีการเขวี้ยงของกันแต่ไม่รู้ว่าบ้านใคร
ต่อมา ทางผู้สื่อข่าวได้เข้าไปพูดคุยกับนายสมชาย สืบเหล็ก อายุ 43 ปี พ่อเลี้ยงของนายบอล กล่าวว่า ตนเองเคยตักเตือนไปแล้วว่า อย่าไปยุ่งกับเพื่อนบ้าน แต่เขาห้ามยาก เพราะนิสัยส่วนตัวเป็นคนโมโหร้าย เอาแต่ใจตัวเอง และได้มีพูดคุยกับเพื่อนบ้านแล้ว แต่ไม่มีผลเพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของนายบอล แต่ส่วนตัวเองไม่มีปัญหากับเพื่อนบ้าน ซึ่งแม่แท้ๆ เองยังคุยไม่ได้ และได้หนีไปอยู่ที่อื่น ปัจจุบันกตกงานตั้งแต่โควิด-19 โดยทางแม่จะเป็นคนส่งเงินให้ใช้
ทั้งนี้ ทาง สภ.บ้านโป่ง รวบรวมพยานหลักฐานพร้อมทั้งเรียกตัวนายบอล เพื่อมาสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป