ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “อนุทิน” ควง “ ศักดิ์สยาม” ยกทัพบุกโคราช ประชุมใหญ่พรรคภูมิใจไทย รัฐมนตรี-ส.ส.-สมาชิกพรรคร่วมพรึ่บ ชูสโลแกนใหม่ “พูดแล้วทำ” เลือก “พิพัฒน์” นั่งรองหัวหน้าพรรคฯ พร้อมตั้ง 11 อรหันต์สรรหาผู้สมัคร ส.ส.พรรค ลั่นนำ “บุรีรัมย์โมเดล” เจริญทุกมิติมาลุยพัฒนาโคราช หวังกวาด ส.ส.ยกจังหวัด “ศักดิ์สยาม” ลั่นชู “เสี่ยหนู” เป็นนายกฯ พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งครั้งใหม่
วันนี้ (19 ธ.ค.) ที่อินดอร์สเตเดียม (อาคารชาติชาย ฮอลล์) ภายในสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ ต.ปรุใหญ่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เป็นประธานการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 ของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) โดยมี นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ส.ส.ปาตี้ลิสต์ กรรมการบริหารพรรคฯ รวมทั้งรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย ส.ส. แกนนำพรรค และสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ร่วมประชุมพร้อมหน้าพร้อมตาตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ 1,500 คน
โดยมีการตรวจคัดกรองตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มข้น ผู้ร่วมงานทุกคนต้องได้รับวัคซีนโควิดครบโดส 2 เข็ม และต้องได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยชุดตรวจ ATK ไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนเข้าร่วมงาน
ทั้งนี้ บรรยากาศก่อนการประชุม นายอนุทิน ชาญวีรกูล, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ และ นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รวมทั้งแกนนำคนสำคัญ และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย ซึ่งมีนายสุรวุฒิ เชิดชัย ลูกชาย “เจ๊เกียว” อดีตนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมาอยู่ด้วย ได้ร่วมกันไปกราบสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (คุณย่าโม) ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา เพื่อขอพรให้เกิดความเป็นสิริมงคล ก่อนเดินทางไปประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 อินดอร์สเตเดียม ( อาคารชาติชาย ฮอลล์ ) โดยทุกคนสวมใส่เสื้อสีน้ำเงิน โลโก้พรรคภูมิใจไทย ด้านหลังเสื้อเขียนว่า “พูดแล้วทำ” ซึ่งเป็นสโลแกนใหม่ของพรรค โดยมีการนั่งเว้นระยะห่างภายในพื้นอาคารสนามวอลเลย์บอลจนเต็ม ส่วนบนอัฒจันทร์มีผู้ติดตามและกองเชียร์นั่งรอบทั้งสามด้าน
นอกจากนี้ยังมีทายาทนักการเมืองของพรรคพลังประชารัฐ ได้แก่ นายพิทักษ์ชน ช่างเหลา บุตรชาย นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และ น.ส.สุชาดา แทนทรัพย์ บุตรสาว นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคพลังประชารัฐ , นายนัจมุดดีน อูมา อดีต ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ และนายธวัชชัย อนามพงษ์ อดีต ส.ส.จันทบุรี พรรคประชาธิปัตย์ มาร่วมการประชุมครั้งนี้ด้วย ขณะเดียวกัน นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ได้เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์ด้วยเช่นกัน
ก่อนเริ่มการประชุม นายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้กล่าวปราศรัยต่อสมาชิกพรรคว่า วันนี้ที่ประชุมจะรับรองรายงานการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2563 ดำเนินการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค (เพิ่มเติม) และการเลือกตั้งกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. จำนวน 11 คน เพราะขณะนี้อยู่ในช่วงครึ่งหลังของรัฐสภาแล้ว จึงต้องมีการเตรียมการเลือกตั้งที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเวลาใดก็ได้
พรรคภูมิใจไทยพูดเสมอว่า พรรคพร้อมเลือกตั้งทุกวัน จากนี้ไม่เกิน 15 เดือนต้องมีความพร้อม ดังนั้นการคัดเลือกผู้สมัครถือว่าเป็นหน้าเป็นตาเป็นผู้แทนของพรรค ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะมีการเพิ่ม ส.ส.เขตอีก 50 เขต รวมเป็น 400 เขต และมี ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน ซึ่งผู้สมัครทั้ง 500 คนจะต้องนำนโยบายของพรรคไปทำความเข้าใจสร้างความเชื่อถือศรัทธาแก่ประชาชน เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าพรรคภูมิใจไทยจะเป็นพรรคที่นำนโยบายที่ประกาศไว้ไปปฏิบัติ สมกับคำพูดที่ว่าพรรคภูมิใจไทย “พูดแล้วทำ” เพื่อประโยชน์ของประชาชน และประเทศ
เราใช้เวลาเกือบ 3 ปี จากที่ได้รับความไว้วางใจเข้ามาเป็น ส.ส. ได้มีโอกาสบริหารประเทศในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล จุดเด่นของพรรคคือ ความเป็นเอกภาพมากที่สุด เป็นภาคีสมาชิกเคารพกติกา รัฐธรรมนูญ และความคิดเห็นซึ่งกันและกัน มีความสามัคคีจนทำให้รัฐบาลชุดนี้มีความมั่นคง เป็นเสาค้ำระบบรัฐสภาให้มีความแข็งแกร่ง และมั่นใจว่าพรรคการเมืองในสารบบที่มีความเป็นเอกภาพ เป็นปึกแผ่น จงรักภักดีปกป้องสถาบัน ซื่อสัตย์สุจริตต่อประชาชนที่สุด เพราะเราพูดแล้วทำสิ่งที่ได้สัญญาไว้กับประชาชน ที่เราหาเสียงไว้ว่าทำได้เร็ว และทำได้เลย ไม่ทำนโยบายที่เพ้อฝันเอาใจประชาชน นโยบายของพรรคถูกสร้างขึ้นจากการเอาปัญหาประชาชนเป็นตัวตั้ง
นโยบายที่เคยประกาศไว้ เราทำเคร่งครัดไม่เคยเปลี่ยนแม้จะขัดใจใครก็ตาม แต่เราไม่พูดไปเรื่อยหรือดีแต่พูด เรารับผิดชอบคำพูดทุกเรื่อง และทำทุกเรื่องที่พูดให้เป็นจริงจับต้องได้ เช่น นโยบายกัญชา ที่ถูกถอดออกจากบัญชียาเสพติด และการผลักดันกัญชง สิ่งเหล่านี้มุ่งหวังเพื่อให้ประชาชนมีรายได้
ใครร่วมงานกับเราไม่ต้องเหลียวหลัง ไม่มีแทงข้างหลัง ถ้าอยู่กันดีก็อยู่กันไปเรื่อยๆ ใครไม่ดีก็อยู่เป็นรอบๆ จะให้พวกมากลากไปไม่ได้ พรรคมีความเป็นตัวของตัวเอง ไม่มีใครมาสั่งได้นอกจากประชาชน นายของพรรคภูมิใจไทยคือประชาชน พรรครักษาคำพูดเสมอ เชื่อว่านักการเมือง และพรรค ได้รับการยอมรับ และได้ความเชื่อถือจากประชาชน
หลังจากนั้นได้เข้าสู่วาระการประชุม โดยวาระที่สำคัญคือ เรื่องเพื่อพิจารณา การเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค (เพิ่มเติม) และเลือกตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง 11 คน ซึ่งพรรคมีมติเลือกกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) เพิ่ม 1 คน คือ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นรองหัวหน้าพรรค ส่วนผลการเลือกตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง จำนวน 11 คน ประกอบด้วย 1. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย 2. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เลขาธิการพรรค 3. นายทรงศักดิ์ ทองศรี รองหัวหน้าพรรค 4. นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรค 5. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
6. นายกฤษณะศักดิ์ ศิริภัณฑ์ หัวหน้าสาขาพรรค จ.พัทลุง 7. นายพิเชษฐ์ หาญจางสิทธิ์ หัวหน้าสาขาพรรค จ.ปทุมธานี 8. นายธีรพันธ์ ศรีคชไกร หัวหน้าสาขาพรรค จ.นครสวรรค์ 9. นายสนอง เทพอักษรณรงค์ หัวหน้าสาขาพรรค จ.บุรีรัมย์ 10. นายยิ่งยศ สมประสงค์ ตัวแทนพรรค ภท. ประจำ จ.อุทัยธานี เขตเลือกตั้งที่ 1 และ 11. นายเทือง โกยรัมย์ ตัวแทนพรรค ภท.ประจำ จ.บุรีรัมย์ เขตเลือกตั้งที่ 5
หลังการประชุมเสร็จสิ้น เวลาประมาณ 16.30 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.), นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค และ นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า พรรค ภท.มีความสามัคคีและเป็นปึกแผ่น วันนี้เราได้แสดงความพร้อมว่าจะเข้าสู่สนามเลือกตั้งได้ตลอดเวลา การประชุมครั้งนี้นอกจากเราจะมี ส.ส.มาร่วมประชุมแล้ว ยังมีผู้สมัครหน้าใหม่มาสังกัดพรรคด้วย
ส่วนสาเหตุที่มาประชุมใหญ่ที่ จ.นครราชสีมา แม้เราจะมีถิ่นกำเนิดที่ จ.บุรีรัมย์ แต่เมื่อเราทำพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ จนเกิดความเจริญในทุกมิติเป็นที่ประจักษ์แล้ว ในส่วนของ จ.นครราชสีมา ซึ่งถือว่าเป็นเมืองใหญ่ มี ส.ส.มากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ รองจาก กทม. อีกทั้งเรามีฐานการเมืองในพื้นที่โคราชที่แข็งแกร่ง เมื่อได้เป็นรัฐบาลเราก็สร้างผลงาน และมีรัฐมนตรีที่มีพื้นเพเป็นชาวโคราช ส่วนตนมีบ้านพักอยู่ที่นี่ จึงอยากช่วยกันทำงานให้โคราชเจริญ เมื่อเรามีโมเดลที่บุรีรัมย์แล้วอยากนำมาใช้ที่โคราชต่อไป และหวังว่าประชาชนชาวโคราชจะให้ ส.ส.แก่พรรคภูมิใจไทยยกจังหวัด จากนั้นเราจะขยายโมเดลไปจังหวัดอื่นๆ ต่อไป เพื่อให้ได้ ส.ส.ยกจังหวัดมากกว่าปัจจุบัน
ส่วน พรรคภูมิใจไทย จำเป็นต้องจับมือกับพรรคร่วมรัฐบาลในขณะนี้ในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่นั้น นายอนุทินกล่าวว่า หากทุกฝ่ายให้เกียรติและเคารพ เชื่อมั่นซึ่งกันและกัน ถ้าพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ในองค์ประกอบนี้ เราพร้อมที่จะทำงานร่วมกันต่อไป ดังที่พูดตอนปราศรัยก่อนหน้านี้ คือ หากดีต่อกันก็อยู่ด้วยกันไปได้เรื่อยๆ หากไม่ดีต่อกันก็อยู่กันเป็นรอบๆ ไป แต่ทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้พื้นฐานการทำดีต่อบ้านเมือง และทำประโยชน์ต่อประชาชน การเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคภูมิใจไทยพร้อมจะชู นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี หรือไม่นั้น นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรค ยืนยันว่าพรรคพร้อมเสนอ นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน และเชื่อว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคจะมีนโยบายใหม่ๆ และจำนวน ส.ส.เพิ่มมากขึ้น
อนึ่ง พรรคภูมิใจไทยมี ส.ส. จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 4 คน ประกอบด้วย ส.ส.เขต 3 คน และ ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อ 1 คน ประกอบด้วย นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.คมนาคม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย, นายอภิชา เลิศพชรกมล ส.ส.นครราชสีมา เขต 9 พรรคภูมิใจไทย, นายพรชัย อำนวยทรัพย์ ส.ส.นครราชสีมา เขต 10, นายวิสิทธิ์ พิทยาภรณ์ ส.ส.นครราชสีมา เขต 13