เชียงใหม่ - ท่าอากาศยานเชียงใหม่ประกาศพร้อมเต็มที่อำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยผู้โดยสารเดินทางท่องเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่ เผยยอดผู้โดยสารเพิ่มขึ้นต่อเนื่องนับตั้งแต่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการเดินทางและเปิดท่องเที่ยว ล่าสุดสูงสุดวันละกว่า 1.2 หมื่นคน และคาดว่าจะเพิ่มเป็นวันละกว่า 1.8 หมื่นคน
วันนี้ (17 ธ.ค. 64) นายวิจิตร แก้วไทรเทียม ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ เปิดเผยว่า หลังจากที่รัฐบาลได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการเดินทางข้ามจังหวัดตั้งแต่เดือน ต.ค. 64 เป็นต้นมา จำนวนผู้โดยสารที่เดินทางผ่านท่าอากาศยานเชียงใหม่เริ่มเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากเดิมผู้โดยสารเฉลี่ยในเดือน ก.ย. 64 วันละ 1,800 คน เพิ่มเป็น 4,700 คน และในเดือน พ.ย. 64 ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาลได้มีนโยบายเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ทำให้ผู้โดยสารเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 8,300 คนต่อวัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 75 จากเดือน ต.ค. 64 ขณะที่ในเดือน ธ.ค. 64 ซึ่งเป็นช่วงที่จังหวัดเชียงใหม่มีสภาพอากาศที่หนาวเย็น ประกอบกับมีช่วงวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ทำให้จังหวัดเชียงใหม่กลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยผู้โดยสารเฉลี่ยในช่วงต้นเดือน ธ.ค. 64 เพิ่มเป็นวันละกว่า 12,300 คน เพิ่มขึ้นจากเดือน พ.ย. 64 ร้อยละ 48 แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วจำนวนผู้โดยสารลดลงประมาณร้อยละ 24 อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้าจังหวัดเชียงใหม่จะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวหลากหลายกิจกรรม รวมถึงมีปัจจัยจากอากาศที่หนาวเย็น และธรรมชาติที่สวยงามตามยอดดอยต่างๆ ตลอดจนเที่ยวบินตรงระหว่างประเทศที่จะกลับมาให้บริการในช่วงต้นปี 2565 จึงคาดว่าจำนวนผู้โดยสารในช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้ามีโอกาสที่จะสูงถึงวันละ 18,000 คน
สำหรับการเตรียมพร้อมอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการในช่วงเทศกาลปีใหม่ ได้เตรียมพร้อมทั้งด้านบุคลากร เพื่อคอยช่วยเหลือและแนะนำผู้โดยสาร จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน กวดขันความพร้อมปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่โดยเฉพาะในเขตปฏิบัติการการบิน ด้วยการสุ่มตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย รวมทั้งเพิ่มความถี่ในการตระเวนตรวจบริเวณโดยรอบท่าอากาศยานทั้งในเขตการบิน และพื้นที่สาธารณะ นอกจากนี้ ที่สำคัญที่สุดในยุคของการเดินทางแบบ New Normal คือการดูแลด้านสุขอนามัยของผู้โดยสารและผู้ใช้บริการ ซึ่งท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกัน COVID-19 ของรัฐมาอย่างต่อเนื่อง และเป็นสถานประกอบการที่ดำเนินการตามมาตรการ COVID Free Setting โดยมีการตรวจคัดกรองผู้โดยสารด้วยการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าอาคารผู้โดยสาร มีเจลแอลกอฮอล์ให้บริการตามจุดต่างๆ ทำความสะอาดพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกโดยเฉพาะพื้นผิวสัมผัสด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค รวมทั้งจัดระยะห่างของการให้บริการ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปัจจุบันสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย หรือ กพท.ได้เปลี่ยนแปลงและบังคับใช้กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการบินหลายประการ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดต่อการคมนาคมขนส่งทางอากาศที่อาจทำให้เกิดข้อขัดข้องในการปฏิบัติ เช่น การใช้เอกสารฉบับจริงในการแสดงตัวก่อนขึ้นเครื่อง ซึ่งที่ผ่านมามักจะเกิดปัญหาในกลุ่มเด็กเล็กที่ยังไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน ต้องใช้สูติบัตรหรือหนังสือเดินทางฉบับจริงเพื่อแสดงตัวขึ้นเครื่อง รวมถึงการประกาศไม่อนุญาตให้นำอาหารพื้นเมืองที่มีลักษณะเป็นของเหลวในบรรจุภัณฑ์ที่มีปริมาตรเกิน 100 มิลลิลิตรขึ้นไปบนห้องโดยสารอากาศยาน ทำให้ผู้โดยสารต้องทิ้งอาหารที่เป็นของเหลว โดยเฉพาะน้ำพริกหนุ่มวันละกว่า 100 ชิ้น ท่าอากาศยานเชียงใหม่จึงได้จัดเจ้าหน้าที่ออกไปประชาสัมพันธ์ และแนะนำบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมาตรฐานแก่ร้านค้าจำหน่ายของฝากตามตลาดต่างๆ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง นอกจากนี้ ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันหยุดต่อเนื่อง จะมีจำนวนผู้โดยสารและผู้ใช้บริการจำนวนมาก จึงขอให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาในการเดินทางมายังสนามบินเพื่อหลีกเลี่ยงสภาพการจราจรที่คับคั่ง และความแออัดของแถวคอยในกระบวนการตรวจบัตรโดยสารหรือการตรวจตามมาตรการรักษาความปลอดภัย
