เชียงใหม่ - เลขาธิการสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูปเผยผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารกระป๋องทั้งประเทศเดือดร้อนหนัก ราคาแผ่นเหล็กตั้งแต่ปี 63 ถึงปัจจุบันพุ่งกว่าเท่าตัว ส่งผลต้นทุนเพิ่ม 20-30% วอนรัฐยื่นมือช่วยแก้ปัญหาด่วน ทั้งตรึงราคาและทบทวนการนำมาตรการ AD มาใช้ ระบุหากแบกภาระไม่ไหวจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาขายส่งผลต่อเนื่องซ้ำเติมผู้บริโภคช่วงโควิด-19 และกระทบขีดความสามารถสินค้าไทยแข่งขันในตลาดโลก
นายองอาจ กิตติคุณชัย เลขาธิการสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารกระป๋องในประเทศไทยกำลังประสบปัญหาและได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากสถานการณ์ราคาแผ่นเหล็กที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจัยสำคัญเป็นผลสืบเนื่องมาจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลายลง ทำให้ความต้องการใช้เหล็กในตลาดโลกมีมากขึ้น โดยนับตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ปี 2563 ถึงปัจจุบันเพิ่มขึ้นแล้ว 93-112% ส่งผลให้ราคากระป๋องเพิ่มขึ้นราว 60% และกระทบต่อผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารกระป๋องที่ต้องแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น 20-30% แต่ที่ผ่านมายังไม่มีการปรับขึ้นราคาอาหารกระป๋องแต่อย่างใดเนื่องจากเกรงว่าผู้บริโภคจะได้รับความเดือดร้อนซ้ำเติมในช่วงสถานการณ์โควิด-19 โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่มีรายได้น้อยที่ต้องเผชิญกับความยากลำบากและต้องพึ่งพาอาหารกระป๋องในการยังชีพ
ทั้งนี้ ในประเทศไทยมีผู้ผลิตแผ่นเหล็กเพียง 2 ราย ซึ่งกำลังการผลิตมีเพียง 50% ของความต้องการใช้ในประเทศไทย ทำให้ผู้ผลิตกระป๋องมีความจำเป็นต้องนำเข้าแผ่นเหล็กจากต่างประเทศเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ ตลอดจนเพื่อสร้างความสมดุล ทำให้เกิดการแข่งขันด้านราคาและลดการผูกขาดในตลาด อย่างไรก็ตาม จากมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด หรือมาตรการ AD ของกรมการค้าต่างประเทศ สำหรับการนำเข้าแผ่นเหล็ก ซึ่งเตรียมนำมาบังคับใช้นั้น จะยิ่งกลายเป็นการซ้ำเติมต้นทุนราคากระป๋องให้ยิ่งแพงมากขึ้นไปอีก ส่งผลกระทบทำให้ต้นทุนของกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารกระป๋องสูงขึ้นจนอาจจำเป็นต้องปรับราคาขึ้นทำให้กระทบต่อผู้บริโภค และยังส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมอาหารกระป๋องในตลาดโลกด้วย
โดยเลขาธิการสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูประบุว่า ตลอดช่วงที่ผ่านมาทางผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารกระป๋องพยายามอย่างเต็มกำลังความสามารถในการที่จะบริหารต้นทุนการผลิตเพื่อให้กระทบผู้บริโภคน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เนื่องจากเข้าใจดีว่าจากสถานการณ์โควิด-19 มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและผู้บริโภคอย่างมาก จึงแบกรับภาระต้นทุนและคงราคาอาหารกระป๋องไว้ อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์ราคาแผ่นเหล็กยังเพิ่มสูงขึ้นต่อไปอาจแบกรับภาระต้นทุนต่อไปไม่ไหวและจำเป็นต้องขึ้นราคาอาหารกระป๋อง ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องวิงวอนให้ภาครัฐที่เกี่ยวข้องพิจารณาหาทางออกที่ดีที่สุดของปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยการตรึงราคาเหล็กแผ่นไม่ให้สูงมากขึ้นไปกว่านี้ และขอให้ทบทวนพิจารณาชะลอหรือยกเลิกการใช้มาตรการ AD การนำเข้าเหล็กแผ่นเพื่อไม่ให้ต้องก้าวไปถึงจุดที่ผู้บริโภคในประเทศต้องเดือดร้อนไปด้วย ทั้งนี้ หากข้อเรียกร้องดังกล่าวไม่ได้รับการตอบสนอง ในเดือน ม.ค. 65 จะยกระดับการเรียกร้องต่อไป