พระนครศรีอยุธยา - กรุงเก่า จับมืออาเจไทย และยูเนสโกประเทศไทย ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงและแถลงข่าวเปิดตัวรณรงค์ “อาเจ ปกป้อง อยุธยา” ในโอกาสร่วมฉลองครบรอบ 3 ทศวรรษ
เวลา 17.00 น.วันนี้ (15 ธ.ค.) ที่วัดพระราม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายฟาเบียน ดานียล มอสเกร่า เวรา ผู้อำนวยการใหญ่ประจำภูมิภาคอาเซียน บริษัท อาเจไทย จำกัด และผู้แทนสำนักงานยูเนสโก ประจำประเทศไทย ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงและแถลงข่าวเปิดตัวรณรงค์ส่งเสริมสังคมสร้างความยั่งยืนให้อุทยานประวัติศาสตร์อยุธยา โดยครั้งนี้ได้จับมือสำนักงานยูเนสโก ประจำประเทศไทย โดยนายชิเงรุ อาโอยากิ ผู้อำนวยการสำนักงานกรุงเทพฯ โดยได้รับเกียรติจากนายเฟอร์นันโด ฮูลิโอ แอนโตนิโอ คิรส แคมโพส เอกอัครราชทูตเปรูประจำประเทศไทย เปิดตัวโครงการ “อาเจ ปกป้อง อยุธยา” ในโอกาสร่วมฉลองครบรอบ 3 ทศวรรษที่ยูเนสโกประกาศรับรองให้อุทยานประวัติศาสตร์อยุธยาขึ้นเป็นมรดกโลก
สำหรับประเทศไทย อาเจได้ร่วมศึกษาและวางแผนโดยเลือกอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาเป็นพื้นที่เป้าหมาย โดยบรรจุเป็นแผนงานประจำจังหวัดเพื่อร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 3 ทศวรรษการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก "โครงการ "อาเจ ปกป้อง อยุธยา" แบ่งออกเป็น 3 โครงการ ด้วยกัน คือ 1.ปรับปรุงชุมชนพื้นที่อยู่อาศัยเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างราบรื่นของประชาชน และโครงการนำร่องเริ่มต้นที่วัดโคกพระยา โดยการทาสีรั้วบ้าน ผนัง กำแพง สังกะสี และหลังคากันสาดด้านที่ติดกับวัดโคกพระยา และปรับปรุงพื้นที่โดยไม่เคลื่อนย้ายหรือเพิ่มเติม รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 2.การถ่ายทำสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์ เพื่อเชิญชวนให้ชาวอยุธยาเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์มรดกโลก 3.การจัดนิทรรศการแสงเข้าร่วมจัดแสดงในงานยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก ระหว่างวันที่ 17-26 ธันวาคม 2564
ทั้งนี้ โครงการ "อาเจ ปกป้อง อยุธยา" ยังได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากผู้ว่าราชการจังหวัดอยุธยา ที่เล็งเห็นโอกาศการยกระดับการเฉลิมฉลองครบรอบ 3 ทศวรรษ ที่อุทยานประวัติศาสตร์ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากโครงงานดังกล่าว ปีนี้นับว่าเป็นความยิ่งใหญ่ของจังหวัดในโอกาสพิเศษนี้"
ในส่วนของสำนักงานยูเนสโกประจำประเทศไทยนั้นได้เล็งเห็นความสำคัญและความยิ่งใหญ่ของโครงการ “อาเจ ปกป้อง อยุธยา” โดยนายชิเงรุ อาโอยากิ ผู้อำนวยการสำนักงานกรุงเทพฯ ได้ส่งสารแสดงความยินดีมาร่วมเปิดโครงการโดยมีใจความสำคัญว่า อย่างที่ทุกท่านทราบปีนี้นับเป็นปีที่ 30 ที่เมืองประวัติศาสตร์อยุธยาได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เหตุผลหลักที่ทำให้เมืองประวัติศาสตร์แห่งนี้โด่งดังไปทั่วโลก คือ ภูมิทัศน์ที่กว้างใหญ่ของวัดและซากปรักหักพังของปรางค์ โครงสร้างที่เหลืออยู่ของระบบคลองอัจฉริยะและภาพจิตรกรรมฝาผนัง
ซึ่งทั้งหมดนี้เป็น “พยานอันยอดเยี่ยมถึงช่วงเวลาของการพัฒนาศิลปะไทยของชาติอย่างแท้จริง” สิ่งเหล่านี้ถือเป็นคุณค่าสากลอันโดดเด่นของอยุธยาและเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องอนุรักษ์ไว้โดยคำนึงถึงเวลา สภาพภูมิอากาศ และการกระทำของมนุษย์ กว่า 30 ปีแล้วที่เจ้าหน้าที่ในอยุธยาทั้งเทศบาลและกรมศิลปากรได้เรียนรู้ความท้าทายต่างๆ ทำงานร่วมกัน และล่าสุดได้จัดทำแผนแม่บทเพื่อการจัดการและอนุรักษ์ ไม่เพียงแต่เมืองประวัติศาสตร์อยุธยาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเขตเกาะประวัติศาสตร์ทั้งหมดอีกด้วย เพื่อให้เป็นไปตามแผนแม่บทนี้ เราต้องการความร่วมมือระหว่างองค์กรต่างๆ และประชาชนทั่วไป ทั้งผู้อยู่อาศัยและผู้มาเยือน สำหรับยูเนสโก เราต้องการเห็นการดำเนินการตามแผนแม่บทนี้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งไม่สามารถเป็นจริงได้หากปราศจากการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันของชาวบ้านในการแสดงความต้องการ ตลอดจนความเต็มใจที่จะมีส่วนสนับสนุนการอนุรักษ์อยุธยาให้ลูกหลานรุ่นหลังต่อไป เราอยากให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในจังหวัดนี้ทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว
ทั้งนี้ ในงานยังได้รับเกียรติจากนายเฟอร์นันโด ฮูลิโอ แนโตนิโอ คิรส แคมโพส เอกอัครราชทูตเปรูประจำประเทศไทย เข้าร่วมเป็นประธานโดยได้ กล่าวถึงโครงการ “อาเจ ปกป้อง อยุธยา” ไว้ว่า "ในนามของความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยและเปรู อาเจเป็นบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของ บริษัทที่ถือกำเนิดสัญชาติเปรูแต่ขยายกิจการไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก พร้อมด้วยความมุ่งมั่นที่จะร่วมสร้างสรรค์และพัฒนาความยั่งยืนให้ทุกประเทศที่ไปดำเนินธุรกิจ ผมมีความยินดีอย่างยิ่งที่เห็นโครงการนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือของทั้งอาเจ ยูเนสโก และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และขอแสดงความยินดีกับโอกาสการครบรอบ 3 ทศวรรษของการได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของอุทยานประวัติศาสตร์แห่งนี้"
แผนงานต่างๆ ดังกล่าวในโครงการ "อาเจ ปกป้อง อยุธยา" จะเริ่มเปิดตัวตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคมนี้เป็นต้นไป เริ่มจากนิทรรศการแห่งแสงในงาน "ยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก" ตามมาด้วยการปรับปรุงภูมิทัศน์ชุมชนรอบวัดโคกพระยา ซึ่งจะแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคมนี้ ตามด้วยการเปิดตัวโฆษณาโทรทัศน์เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกรัก ภูมิใจและหวงแหนอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาในฐานะมรดกโลกในลำดับถัดไป