xs
xsm
sm
md
lg

ผบช.ภ.7 แถลงปิดคดี 9 ผู้ต้องขังแหกคุก มทบ.11 พบเจ้าหน้าที่เป็นนกต่อส่งใบเลื่อยก่อเหตุ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นครปฐม - ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ตั้งโต๊ะแถลงข่าวรวบผู้ต้องขังแหกคุก มทบ.11 ครบ 9 ราย ย้ำยกระดับความเข้มข้นในการรักษาความปลอดภัยทุกแห่งในพื้นที่รับผิดชอบ โดยเจ้าหน้าที่กรมราชฑัณฑ์รับมีเจ้าหน้าที่รู้เห็นเกี่ยวกับการส่งใบเลื่อยจากญาติให้หัวหน้าแก๊ง โดยสั่งดำเนินคดีแล้ว พร้อมตั้งกรรมการสอบ

วันนี้ (15 ธ.ค.) ที่ สภ.สามควายเผือก อ.เมือง จ.นครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.พิสิฐ ตันประเสริฐ รอง ผบช.ภ.7 (ปส.) พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม นายณรงค์ จุ้ยเส่ย รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ฝ่ายวิชาการ ร่วมกันแถลงข่าวในการปิดคดี 9 ผู้ต้องขัง แหกคุกเรือนจำ มทบ.11 โดยมีสื่อมวลชนหลายแขนงร่วมกันเกาะติดในการจับกุมดังกล่าวเนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ

พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.7 เผยว่า การติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 9 คนได้มีการจับกุมตัวครบถ้วนแล้ว 9 คน ซึ่งรายที่ 8-9 ได้ถูกเจ้าหน้าที่บุกทำการจับกุมตัวเมื่อวานนี้ ซึ่งได้มีการสอบสวนด้วยตัวเองถึงสาเหตุของการหลบหนีที่แท้จริง รวมถึงจะมีการสอบข้อเท็จจริงในกรณีของใบเลื่อยที่หลุดไปในเรือนจำ มทบ.11 ว่ามีข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร โดยจะมีการเน้นในเรื่องการเอาความผิดกับญาติของผู้ต้องขังที่มีการนำใบเลื่อยมาฝากไว้ให้กับแกนนำ รวมถึงจะเอาความผิดกับญาติที่สนับสนุนทั้งพาและหาที่หลบหนีให้ผู้ต้องหาทุกรายที่เกี่ยวข้องไม่เว้นแม้แต่เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนในเรื่องนี้ด้วยเพื่อตอบคำถามที่ชัดเจนให้พี่น้องประชาชนได้คลายความสงสัยทั้งหมด ซึ่งตอนนี้ได้ประสานกับหน่วยงานกรมราชฑัณฑ์ ในพื้นที่ภาค 7 ทั้งหมดให้มีการยกระดับความเข้มงวด กับมาตรการความปลอดภัยในเรือนจำทุกแห่งแล้ว

ขณะที่ พ.ต.ท.วรชัย อารักษ์รัฐ ผบช.เรือนจำกลางนครปฐม เผยว่า ในข้อเท็จจริงวัน พฤหัสบดีก่อนที่จะมีการหลบหนี ซึ่งมีญาติของผู้ต้องหารายหนึ่งได้นำของมาฝากให้เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของเรือนจำ มทบ.11 โดยพบว่ามีการซุกใบเลื่อยมากับขวดโลชั่น ซึ่งเจ้าหน้าที่รายนั้นได้ออกเวรแล้ว และกำลังเตรียมเก็บของเพื่อจะโยกย้ายจากหน้าที่ในเรือนจำ มทบ.11 ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่รับของไปส่งต่อให้ผู้ต้องขัง แต่เจ้าหน้าที่ที่มารับของไปส่งภายในไม่ทราบว่าเป็นสิ่งของที่ฝากให้ผู้ต้องขัง ใบเลื่อยถึงได้หลุดมือไปถึงผู้ต้องหาได้ ซึ่งโดยหน้าที่นั้นไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าไม่ทราบเพราะโดยหลักจะมีกฎระเบียบที่ได้กำหนดไว้อยู่แล้ว ซึ่งตอนนี้ได้มีการดำเนินคดีกับทางเจ้าหน้าที่ไปแล้วและนำตัวไปฝากขังที่จังหวัดสมุทรสงคราม

ส่วนในประเด็นที่มีข้อสงสัยว่าญาติไม่ได้มีโอกาสจะมาเยี่ยมผู้ต้องขังที่นี่ ความเป็นจริงคือไม่ได้เยี่ยม แต่มีการฝากของจากญาติมาให้เจ้าหน้าที่คนนี้นอกเรือนจำ ซึ่งทำให้เกิดความสับสนว่าของนั้นเป็นของใครและจะส่งให้ใคร เป็นที่น่าเชื่อได้ว่าจะมีการรู้เห็นกัน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่รายนี้เคยโดนกล่าวหาว่ามีการนำของฝากต้องห้ามส่งให้ผู้ต้องขังมาแล้วแต่มีการปฏิเสธในข้อกล่าวหา และครั้งนี้เชื่อได้ว่าน่าจะอาศัยช่วงวันทำงานวันสุดท้ายอาศัยในการก่อเหตุ

นายณรงค์ จุ้ยเส่ย รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ฝ่ายวิชาการ เผยว่า สำหรับกรณีของเจ้าหน้าที่ที่มีชื่อเข้าไปในกรณีดังกล่าวจะมีการตั้งกรรมารสอบสวนข้อเท็จจริง และหากพบมีความผิดจะมีการเอาความผิดทั้งทางวินัยและทางอาญากับที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และตอนนี้ได้สั่งการให้มีการสอบเรื่องนี้อย่างละเอียด ซึ่งโทษมีทั้งไล่ออกและต้องคดีด้วย






กำลังโหลดความคิดเห็น