xs
xsm
sm
md
lg

ผบช.ภาค 7 เกาะติดไล่ล่า 4 ผู้ต้องหาแหกคุก ลั่นยาแรงไม่มอบตัวต่อสู้เจอมาตรการหนัก ย้ำญาติหรือใครช่วยหลบหนีโดนโทษด้วย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นครปฐม - ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เร่งประชุมทีมคลี่คลายคดี ติดตามคดีผู้ต้องขังหลบหนีออกจากเรือนจำ มทบ.11 จำนวน 9 ราย ถูกจับกุมแล้ว 5 ราย ยังหลบหนี 4 ราย โดยเตือนให้มอบตัวหากขัดขืนจะมีมาตรการหนัก ญาติหรือใครช่วยเหลือโดนด้วย ขณะนี้เร่งสอบสวนว่าใบเลื่อยมาจากที่ใด หากพบเจ้าหน้าที่รู้เห็นจะไม่ละเว้นเด็ดขาด

วันนี้ (12 ธ.ค.) ที่ห้องประชุม สภ.สามควายเผือก อ.เมือง จ.นครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เดินทางประชุมสั่งการชุดไล่ล่าผู้ต้องหาแหกคุกเรือนจำ มทบ.11 โดยมี พล.ต.ต.ประสบชัย มัตสยะวนิชกุล ผบก.สส.ภ.7 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.นฤพนธ์ วานนุเคราะห์ ผกก.สภ.สามควายเผือก พ.ต.อ.อรรถการ กองสุผล ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.ท.วรชัย อารักรัฐ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางจังหวัดนครปฐม พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองนครปฐม เข้าร่วมประชุมสรุปแนวทางการดำเนินการ และวางแนวทางในการไล่ล่าผู้ต้องหาอีก 4 คนที่ยังหลบหนีอยู่ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงสรุปและมีการแถลงผลความคืบหน้าของคดี โดยมีของกลางมาจัดแสดงต่อหน้าสื่อมวลชนด้วย

โดย พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เผยว่า ในการสรุปเบื้องต้นจากการรายงานข้อมูล ผู้ต้องหาทั้ง 9 คนที่หลบหนีออกจากเรือนจำ มทบ.11 ต.ทุ่งน้อย อ.เมือง จ.นครปฐม ซึ่งตอนนี้จับกุมแล้ว 5 ราย และยังหลบหนี 4 คน ซึ่งเรื่องนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการกำชับมาว่าต้องมีการเร่งดำเนินการในการติดตามจับกุมตัวมาให้ได้โดยเร็วที่สุด ซึ่งตอนนี้ได้มีการสั่งการให้บูรณาการระหว่างชุดเฉพาะกิจอินทรีย์ 7 ชุดสืบสวนของตำรวจทุก สภ.ในท้องที่ และทุก สภ.ทั้งหมดในพื้นที่ภาค 7 ทั้ง 8 จังหวัด เจ้าหน้าที่กรมราชฑัณฑ์ เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางนครปฐม เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เพื่อออกไล่ล่าตัวคนทั้งหมดอย่างเร่งด่วนแล้ว

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เผยต่อว่า ขณะนี้อยากจะฝากไปถึงผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีทั้ง 4 รายว่า ทางเจ้าหน้าที่รู้พิกัดที่หลบหนีหมดแล้ว ขอให้มามอบตัวเพราะยังไงก็หนีไม่พ้น ซึ่งหากมีการขัดขืนหรือต่อสู้ทางเจ้าหน้าที่มีอำนาจและมาตรการในขั้นเด็ดขาดอยู่แล้ว ซึ่งญาติหรือผู้ที่ให้ที่พักพิงหรือหลบหนีจะมีความผิดไปด้วย

ส่วนตอนนี้หัวโจก หรือหัวหน้าแก๊งนั้นยังไม่ได้ตัวมาและเป็น 1 ใน 4 ของคนที่หลบหนี แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะเป็นใครและแท้จริงนั้นการก่อเหตุหลบหนีขณะรอควบคุมของศาลที่เกิดขึ้นจากสาเหตุอะไร ขณะนี้ได้มีการสั่งการให้มีการสอบปากคำผู้ที่ถูกควบคุมตัวมาได้ทั้ง 5 คนอีกครั้งแล้ว และในทางกฏหมายมีความผิดในฐานที่หลบหนีอีก โทษสูงสุด 5 ปี จะมีแจ้งเพิ่มจากโทษเดิมที่ได้ไปรับด้วย ซึ่งขณะนี้ได้เป็นห่วงถึงการที่จะมีการออกไปก่อเหตุซ้ำซ้อน แต่มั่นใจว่าจะมีการจับกุมตัวทั้งหมดได้เร็วๆ นี้แน่นอน ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจการทำงานของเจ้าหน้าที่

พ.ต.ท.วรชัย อารักรัฐ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางจังหวัดนครปฐม เผยว่า สำหรับประเด็นในการนำผู้ต้องขังได้เข้ามาในเรือนจำ มทบ.11 มาทำการกักตัวก่อนเข้าเรือนจำกลางนครปฐม ซึ่งเป็นมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงได้นำตัวมาทำการกักตัวในเรือนจำ มทบ.11 เพื่อให้มีความพร้อมก่อนที่จะเข้าไปรับโทษ แต่เนื่องด้วยเรือนจำ มทบ.11 ไม่ได้มีเครื่องสแกนอุปกรณ์โลหะอย่างละเอียดเหมือนกับที่เรือนจำกลางนครปฐม ช่องทางที่อาจจะทำให้ใบเลื่อยหลุดไปถึงมือผู้ต้องขังก็มีความเป็นไปได้ เบื้องต้น ไม่ได้มีการเปิดโอกาสให้ญาติเข้ามาเยี่ยมแต่ต้องมาทำการสอบสวนว่าใบเลื่อยที่ได้มานั้นมาจากไหน ผ่านทางใคร ซึ่งยังอยู่ในกระบวนการของการสอบสวน ในตอนนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงการแถลงข่าวได้มีการย้ำว่า เรื่องความโปร่งใสของการสืบสวนและสอบสวนนั้นได้มีการวางมาตรการขั้นเด็ดขาดโดยจะไม่ละเว้นหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งในกรณีข่าวแพร่สะพัดออกไปว่าใบเลื่อยที่จะนำเข้าไปในเรือนจำมีมูลค่าถึง 1 แสนบาท ซึ่งในทางปฏิบัติไม่พบประเด็นนี้ โดยมีอุปกรณ์อื่นๆ ที่สามารถนำมาทำอุปกรณ์ต่างๆ ที่ผู้ต้องขังจะพยายามหาเข้ามา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่มีการวางมาตรการในการป้องกันที่เข้มงวดอยู่แล้ว

ซึ่งผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี ประกอบด้วย นายบำรุง วงศ์สว่าง อายุ 43 ปี นายพัชรวุฒิ มูลทองสงค์ อายุ 38 ปี นายจำรูญ คล้ายสุบรรณ อายุ 33 ปี นายพานิช บัวศร อายุ 35 ปี

ต่อมา วันเดียวกันหลังการแถลงข่าว พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วยชุดคลี่คลายคดี รวมถึง พ.ท.คชธร สารีทอง ผู้บังคับการเรือนจำ มทบ.11 ได้เดินทางไปดูสถานที่เกิดเหตุในคดีดังกล่าว ภายในเรือนจำ มทบ.11 เพื่อดูสถานที่ที่คุมขัง จุดที่หลบหนี และห้องควบคุมภาพจากกล้องวงจรปิดอีกครั้งเพื่อหาหลักฐานและข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อจะนำไปสู่กระบวนการในการสั่งการต่อไป










กำลังโหลดความคิดเห็น