กาญจนบุรี - จับแรงงานพม่าลักลอบข้ามแดนเข้ามาทางชายแดนเมืองกาญจน์ ได้ 34 คน สารภาพจ่ายค่าหัว 1.9-2.5 หมื่นบาท/คน เพื่อเข้าทำงานในเมืองไทย
วันนี้ (14 ธ.ค.) พล.ต.บรรยง ทองน่วม ผบ.พล.ร.9/ผบ.กกล.สุรสีห์ ได้รับรายงานจาก พ.อ.เฉลัยชัย ชัดใจ ผบก.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พ.อ.ธัชเดช อาบัวรัตน์ รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ ว่า เจ้าหน้าที่กองกำลังสุรสีห์ โดยหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการข่าว กกล.สุรสีห์ และประชาชนว่า จะมีขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวพม่าเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย เข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ ท้องที่ ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
หลังจากได้รับแจ้งจึงสนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่หมวดลาดตระเวนป้องกันชายแดน เจ้าหน้าที่ร้อย ทพ.1404 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.เมืองกาญจนบุรี ออกหาข่าวพร้อมลาดตระเวน และจัดชุดกำลังซุ่มโป่งตามเส้นทางต้องสงสัยว่าขบวนการดังกล่าวจะใช้เป็นเส้นทางในการเดินทาง
จนกระทั่งพบบุคคลต่างด้าวสัญชาติพม่า ลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย หลบซ่อนตัวอยู่บริเวณป่าละเมาะ บ้านใหม่ห้วยน้ำขาว หมู่ 15 ต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรี จำนวน 19 คน เป็นชายทั้งหมด
เวลาต่อมา กำลังชุดเดียวกันสามารถจับกุมบุคคลต่างด้าวสัญชาติพม่า ลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย ได้อีกจำนวน 15 คน เป็นชาย 10 คน และหญิง 5 คน บริเวณป่าละเมาะบ้านห้วยน้ำขาว หมู่ 2 ต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรี รวมแรงงานที่ถูกจับกุมในครั้งนี้ทั้งสิ้น 34 คน เป็นชาย 29 คน และหญิง 5 คน
จากการสอบสวนกลุ่มแรงงานให้การว่า พวกตนเดินทางมาจาก จ.พะโค จ.ย่างกุ้ง จ.เมาะลำไย และ จ.ผาอัน ประเทศพม่า โดยเสียค่าใช้จ่ายให้นายหน้าเพื่อให้นำพาไปทำงานในพื้นที่ จ.ชลบุรี จ.สมุทรสาคร จ.สมุทรปราการ และ จ.ฉะเชิงเทรา คนละ 19,000-25,000 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทาง
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจวัดอาการไข้เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ผลไม่พบอุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 37.5 องศาเซลเซียส เจ้าหน้าที่จึงนำตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมผลักดันกลับประเทศต้นทางต่อไป
