กาญจนบุรี - ยุติธรรมจังหวัด เรียกชาวซอยครัวภักดี 11 ครัวเรือน ไกล่เกลี่ย ปมเจ้าของที่ข้างเคียงถมดิน-สร้างกำแพงมิดหลังคา แต่กำหนดขั้นตอนเจรจาทำทุกครอบครัวมึนตึ้บ แถมประเด็นขุดดินออกไม่เดินหน้า จังหวัด-ทต.โยนกลองหน้าที่หาวิศวกรคุมงาน
วันนี้ (14 ธ.ค.) นายปรัชญา ชัยวรานุรักษ์ ยุติธรรมจังหวัดกาญจนบุรี ได้นัดไกล่เกลี่ยข้อพิพาทที่เกิดขึ้นระหว่างชาวบ้านภายในซอยร้านอาหารครัวภักดี ท้องที่หมู่ 1 ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี จำนวน 11 ครัวเรือน ซึ่งได้รับความเดือดร้อน กับนางศิริพร เชียวสุรัตน์ เจ้าของที่แปลงข้างเคียงที่ถมดินและสร้างกำแพงสูงมิดหลังคา ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลลาดหญ้า อ.เมืองกาญจนบุรี
โดยมีนายวรากร เสือส่าน นายกเทศมนตรีตำบลลาดหญ้า รวมทั้งเจ้าหน้าที่ยุติธรรมจังหวัดกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองกาญจนบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมไกล่เกลี่ยด้วย
อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนการไกล่เกลี่ยในครั้งนี้ ได้สร้างความมึนงงกับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดไกล่เกลี่ยได้ออกมาบอกกับชาวบ้านว่า ห้ามผู้ใดถ่ายภาพ รวมทั้งอัดเสียงโดยเด็ดขาด อีกทั้งการไกล่เกลี่ยขอให้ชาวบ้านเข้าไปภายในห้องประชุมได้ครั้งละ 1 ครอบครัว ส่วนคู่พิพาทคือ เจ้าของที่ดินไม่ได้เดินทางมาด้วย รวมทั้งไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปเก็บภาพ ไม่ให้เข้าร่วมรับฟัง จึงทำให้ชาวบ้านเกิดความสงสัย และเกิดการโต้เถียงกันขึ้นเล็กน้อย แต่สุดท้ายสามารถตกลงกันได้ ก่อนใช้เวลาพูดคุยกันนานประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่งจึงแล้วเสร็จ
น.ส.มธุรส คุ้มประสิทธิ์ อาจารย์สาขาวิชาภาษาไทย คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี เจ้าของบ้านเลขที่ 190/98 ออกมาเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า วันนี้ชาวบ้านได้ขอเพิ่มวาระการขุดดินที่ไม่เป็นไปตามกำหนดระยะเวลาเข้าที่ประชุมด้วย เนื่องจากขณะนี้ระดับความสูงของดินยังสูงเสมอกับหลังคาบ้านอยู่ แม้ว่าที่ผ่านมาเจ้าของที่ได้นำเครื่องจักรมาขุดดินออก แตหยุดดำเนินการไปนานแล้ว ซึ่งทางเทศบาลตำบลลาดหญ้า แจ้งว่าต้องการวิศวกรจากจังหวัดเข้ามาคุมงานขุดดิน แต่ทางจังหวัดยังยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของนายกเทศมนตรีตำบลลาดหญ้า ที่จะต้องไปหาวิศวกรมาคุมงานเอง
เพราะฉะนั้นเวทีไกล่เกลี่ยเรื่องการขุดดิน วันนี้จึงคุยกันไม่รู้เรื่อง เนื่องจากชาวบ้านได้ถามทางจังหวัดไปว่าจะสามารถหาวิศวกรมาความคุมงานได้หรือไม่ แต่ทางจังหวัดได้ตอบกลับมาว่าเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของเทศบาล ดังนั้น วันนี้ชาวบ้านจึงยังไม่ได้รับคำตอบว่าจะมีการมาขุดดินออกไปให้ห่างจากกำแพงอีกหรือไม่
“ชาวบ้านไม่ได้มีความกังวลเรื่องของระยะเวลาหากดำเนินการไม่ทันตามกรอบเวลา 15 วันที่กำหนดเอาไว้ก็ไม่เป็นอะไร หรือจะต้องใช้เวลานานถึง 6 เดือนหรือ 1 ปี เราไม่ว่าอะไร เพียงแต่ช่วงปีใหม่นี้จะไม่มีใครอยู่บ้าน เพราะต้องกลับไปบ้านที่ต่างจังหวัดกัน หากคนงานมาทำการขุดดินสามารถมองเห็นหรือเดินข้ามเข้ามาภายในบ้านของพวกเราได้โดยสะดวก ทุกคนจึงไม่ทราบว่าจะมีความปลอดภัยเกี่ยวกับทรัพย์ที่มีอยู่ภายในบ้านหรือไม่ เพราะทางนายกเทศมนตรีตำบลลาดหญ้าไม่ได้รับปากอะไร และขณะกำลังพูดคุยอยู่ๆ ก็เดินออกมาโดยทิ้งพวกเราเอาไว้ที่ห้องประชุม”
อีกหนึ่งประเด็นคือ เราได้ถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอเอาไว้คือ เจ้าของได้มีการขุดดินออกไปแล้วประมาณ 1-1.5 เมตร พบว่าสเตย์กำแพงกันดินมีสภาพหักและแตกร้าวเกือบทั้งหมด เมื่อขุดแล้วพบมีการแตกร้าวเราจึงได้ถ่ายภาพเอาไว้เป็นหลักฐาน เพราะเชื่อว่าทางโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดจะต้องมาตรวจสอบความแข็งแรงให้พวกเราอยู่แล้ว แต่ปรากฏว่าวันต่อมาเจ้าของได้นำปูนมาฉาบปิดรอยแตกร้าวเอาไว้ เราจึงมีภาพถ่ายเป็นหลักฐานทั้งก่อนและหลัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการไกล่เกลี่ยในครั้งนี้มีขึ้นเป็นครั้งแรก ส่วนสาเหตุที่ต้องให้ชาวบ้านเข้าไปทีละครอบครัวนั้นเนื่องจากเป็นขึ้นตอนของยุติธรรมจังหวัดที่มีหน้าที่ไกล่เกลี่ย โดยจะมีเอกสารข้อมูลการสำรวจความเสียหายของบ้านแต่ละหลัง เช่น บ้านบางหลังพื้นหรือผนังเกิดการแตกร้าว เป็นต้น หากความเสียหายตรงตามความเป็นจริงให้เจ้าของบ้านหลังนั้นๆ เซ็นรับทราบ
เมื่อทุกครอบครัวรับทราบ ทางโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดจะลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งเพื่อประเมินค่าความเสียหายว่าบ้านแต่ละหลังได้รับความเสียหายเป็นเงินจำนวนเท่าไหร่ จากนั้นจะนำรายการทั้งหมดไปเสนอให้เจ้าของที่ดินที่เป็นต้นเหตุทำให้บ้านเรือนแตกร้าวอีกครั้งหนึ่งต่อไป
แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า หลังการประชุมไกล่เกลี่ยครั้งนี้เสร็จสิ้น กลับไม่มีหน่วยงานใดให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเลยแม้แต่หน่วยงานเดียว
สำหรับปัญหาชาวบ้านภายในซอยร้านอาหารครัวภักดี ท้องที่หมู่ 1 ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี จำนวน 11 ครัวเรือน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการที่เจ้าของที่ดินแปลงข้างเคียงถมที่พร้อมสร้างกำแพงสูงมิดหลังคาบ้านนั้น เมื่อวันที่ 4 พ.ย.64 นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้มอบหมายให้ ร.ต.พงศธร ศิริสาคร รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดลงพื้นที่เก็บข้อมูลเพื่อสรุปประเด็นข้อกฎหมายในการนำเข้าที่ประชุมระดับจังหวัดในวันที่ (5 พ.ย.) ที่ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี
โดยในวันดังกล่าวสรุปแนวทางการแก้ไขปัญหาดังนี้ 1.จังหวัดกาญจนบุรีมอบหมายให้เทศบาลตำบลลาดหญ้า แจ้งเจ้าของที่ดินดำเนินการขุดดินออกจากกำแพงดิน โดยให้เคลื่อนย้ายดินให้ห่างจากกำแพงกันดิน 4.5 เมตร ภายใน 15 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย.64
2.จังหวัดกาญจนบุรีมอบหมายให้เทศบาลตำบลลาดหญ้า ในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่นดำเนินการออกคำสั่งให้มีการถอนรั้วออก ตามมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ภายใน 15 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย.64 และ 3.จังหวัดกาญจนบุรีมอบหมายโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดกาญจนบุรี ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายบ้านเรือนของประชาชนทั้ง 11 ครัวเรือน ว่าบ้านแต่ละหลังได้รับความเสียหายบริเวณจุดใดบ้าง เพื่อจะได้เสนอค่าความเสียหายให้เจ้าของที่ดินเป็นผู้รับผิดชอบในการออกค่าใช้จ่ายให้