สุรินทร์ - สาวศีขรภูมิ เมืองช้างสุดทนร้องสื่อ อดีตแฟนจอมโหดทุบตีทำร้ายร่างกายเป็นประจำ จนต้องเลิกรากันและไปอยู่กินกับแฟนใหม่แล้วยังตามรังควานไม่เว้นวัน ล่าสุดบุกโยนระเบิดขวดใส่บ้าน เคยไปแจ้งความตำรวจแต่เรื่องเงียบหายไม่คืบ วอนเร่งจับตัวไปดำเนินคดี
วันนี้ (12 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับการร้องเรียนจาก นางสาวสไบทอง มีอำนาจ อายุ 25 ปี บ้านเลขที่ 643/4 หมู่ที่ 10 ต.ระแงง อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ว่าได้ถูกอดีตแฟนเก่าที่เคยอยู่กินด้วยกันมานานถึง 5 ปี มีลูกด้วยกัน 1 คน ขณะอยู่กินด้วยกันมีเรื่องถกเถียงกันบ่อยครั้งจนถึงขั้นทำร้ายร่างกาย ชกต่อย ทุบตีตนเองได้รับบาดเจ็บอยู่เป็นประจำ บางครั้งถึงกับเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล
หลังจากนั้นจึงขอแยกทางออกมาอยู่กับแฟนใหม่ที่หมู่บ้าน ต.ยาง อ.ศีขรภูมิ และอยู่กันมาได้ประมาณ 3 เดือน แต่แฟนเก่าก็ยังตามมารังควานบางครั้งขับรถมาใช้ขวดปาเข้ามาที่หน้าต่าง บางครั้งโยนระเบิดขวดใส่หน้าบ้านในเวลากลางคืน ซึ่งเคยได้ไปแจ้งความเอาไว้ที่ สภ.ศีขรภูมิ แล้วแต่ไม่มีอะไรคืบหน้า เพราะอดีตแฟนเก่าเคยขู่เอาไว้ว่าถึงไปแจ้งความก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรเพราะตำรวจรู้จักกับเขาดี พร้อมกับบอกว่าไม่กลัว
โดยเมื่อคืนวันที่ 10 ธ.ค. 64 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 03.15 น.ได้เกิดเหตุมีคนร้ายปาระเบิดขวดเข้าไปที่บ้านของนางสำรวย เหล่าดี อายุ 58 ปี บ้านเลขที่ 64 บ้านยาง ม.1 ต.ยาง อ.ศีขรภูมิ จนเกิดไฟลุกไหม้ขึ้นภายในรั้วบ้านจึงได้ตะโกนให้ชาวบ้านที่อยู่บ้านข้างเคียงออกมาช่วยกันดับไฟ หลังจากเกิดเหตุมีเพื่อนบ้านได้โทรศัพท์แจ้งไปยัง สภ.ศีขรภูมิ แต่เรื่องก็เงียบหายไปเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
และล่าสุด เมื่อคืนวันที่ 11 ธ.ค. เวลา 02.28 น.ได้มีคนขับรถยนต์มาและขว้างขวดเบียร์เข้ามาที่บ้านจนขวดเบียร์แตกละเอียด ซึ่งคาดว่าจะไม่ใช่ใครคงเป็นอดีตแฟนเก่าคนเดิมแน่นอน ชาวบ้านที่อยู่บ้านข้างเคียงเอือมระอากับปัญหาที่เกิดขึ้นจึงวิงวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้ หากไม่นำตัวไปดำเนินคดีปัญหาต่างๆ ก็จะตามมาอย่างไม่มีสิ้นสุด นางสาวสไบทองกล่าว
ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ศีขรภูมิ ถึงกรณีดังกล่าว ได้รับแจ้งว่าในช่วงนี้อยู่ระหว่างการสับเปลี่ยนผู้บังคับบัญชาระดับสูงกันอยู่และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน สภ.ศีขรภูมิ มีกำลังน้อยและได้ออกกวาดล้างอาชญากรรมเพื่อสนองนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างต่อเนื่อง ทั้งคดีการพนันและกวาดล้างแรงงานต่างด้าว ส่วนความเดือดร้อนของชาวบ้านดังกล่าวทางชุดสืบสวนไม่ได้นิ่งนอนใจ จากการตรวจสอบและดูภาพกล้องโทรทัศน์วงจรปิด คาดจะสามารถจับกุมตัวคนร้ายที่มาก่อเหตุได้อย่างแน่นอน