หนุ่มนครปฐมสุดช้ำถูกสาวอ้างเป็นผู้กองฯ หลอกเชิดไอโฟนหายเข้ากลีบเมฆ

นครปฐม - หนุ่มนครปฐมร้องสื่อถูกสาวและเพื่อนหลอกเป็นตำรวจหญิงเชิดมือถือไอโฟน แจ้งความจับนานเกือบ 3 เดือนแล้วแต่คดียังไม่คืบ วอนสื่อติดตามเพื่อไม่ให้มีเหยื่อถูกหลอกอีก

ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นายศุภกฤต สมัครเขตการณ์ หรือบอม อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 84 ม.6 ต.หนองดินแดง อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม อาชีพพนักงานเคลมประกันอุบัติเหตุ ว่า ถูกสาวหลอกว่าเป็นตำรวจยศร้อยตำรวจเอกได้มาตีสนิทและได้หลอกให้ซื้อโทรศัพท์ไอโฟนมูลค่า 2 หมื่นกว่าบาท หนีหาย โดยขณะนี้แจ้งความไว้นานกว่า 2 เดือนเศษ แต่เรื่องกลับไม่คืบหวั่นจะมีการตั้งทีมไปหลอกลวงคนอื่นอีก วอนสื่อให้ช่วยแจ้งข้อมูลกับผู้ที่อาจจะหลงกลเพราะตอนนี้มีหมายจับแล้วแต่ยังลอยนวล

นายศุภกฤต กล่าวว่า เมื่อราวต้นปีที่ผ่านมา ตนเองได้รู้จักหญิงสาวคนหนึ่งผ่านทางแชตหน้าเฟซบุ๊ก ซึ่งได้เข้ามาทักทายและตีสนิทจนมีการนัดหมายมาพบกันที่จังหวัดนครปฐม โดยบอกว่าเป็นตำรวจยศร้อยตำรวจเอก สังกัด สภ.องครักษ์ จ.นครนายก ซึ่งมีลูกติดอายุ 5 ขวบ ซึ่งได้มาอยู่ด้วยกัน 2 คืนก่อนจะขอกลับไปทำงาน

ต่อมา หญิงคนดังกล่าวทราบชื่อคือ น ส.วรกานต์ ภักดิ์คำ อายุ 37 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชน 54/1 ม.3 ต.ห้วยตามอญ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีษะเกษ ชื่อเล่นว่า ส้ม และชื่อกานต์ ได้ติดต่อกลับมาและมาพักกับตนเองที่นครปฐม แต่อยู่ๆ กันไปได้ทำสีหน้าเคร่งเครียด ตนเองจึงได้สอบถามโดยได้รับคำตอบว่ามีปัญหาเรื่องงานเนื่องจากเป็นชุดจับกุมยาเสพติดและได้จับผู้ต้องหาที่ค้ายาได้แต่ปรากฏว่าทำของกลางหาย ซึ่งต้องใช้เงินในการวิ่งเต้นให้นายช่วยเหลือ 5 หมื่นบาท เพื่อไม่ให้มีการตั้งกรรมการสอบสวน

จากนั้นได้มีผู้ชายอีกคนหนึ่งทักเเชตมาหาตนเองและบอกว่า เป็นพี่ชายของผู้กองส้ม หรือผู้กองกานต์ โดยมียศเป็นสารวัตร สังกัดตำรวจนครบาล 1 ซึ่งได้เคลียร์งานให้น้องสาวซึ่งจากเงิน 5 หมื่นบาท ได้มีทีมงานช่วยกันเคลียร์โดยให้จ่ายคนละ 1 หมื่นบาทเท่านั้น ซึ่งตนเองก็บอกว่าไม่มี

ไม่นานสาวที่อ้างตัวเป็นผู้กองฯ ก็กลับมาหาและได้มาแจ้งตนเองอีกว่า กำลังวิ่งเรื่องคดี ซึ่งต้องใช้โทรศัพท์ไอโฟนที่มีรุ่นสูงกว่าไอโฟนเอ็กซ์ขึ้นไป ตนเองจึงได้ไปซื้อให้ 1 เครื่องโดยบอกว่า จะเอาไปใช้ในการดึงฐานข้อมูลต่างๆ จากนั้นได้นำโทรศัพท์ไป และกลับไปทำงาน โดยเมื่อกลับมาอีกคราวนี้ไม่ได้เอาโทรศัพท์มือถือกลับมาด้วยบอกว่าพี่ชายกำลังเอามือถือไปทำงาน

นายศุภกฤต บอกอีกว่า จากนั้นตนเองเริ่มสงสัยว่าจะโดนหลอกจึงได้ให้พ่อที่เป็นอดีตตำรวจสืบภาค 7 เช็กข้อมูลให้พบว่า ทั้ง 2 คนไม่ได้เป็นตำรวจ จึงได้ไปสอบถามและทั้งคู่สารภาพว่าไม่ได้เป็นตำรวจและจะชดใช้ด้วยการหางานทำให้แต่สุดท้ายก็หนีหายจึงได้ไปแจ้งความข้อหาฉ้อโกงไว้ที่ สภ.เมืองนครปฐม เมื่อประมาณเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ผ่านมา 2-3 เดือนเรื่องไม่คืบ เพราะพนักงานสอบสวน บอกว่าให้ชุดสืบติดตามตัวอยู่

"ตนเองได้ประสานไปยังตำรวจที่อยู่กองปราบ เพื่อให้ช่วยติดตามพบว่าสัญญาณโทรศัพท์ของสาวที่มาอ้างตัวเป็นตำรวจอยู่แถวปทุมธานี แต่ตำรวจเมืองนครปฐม บอกว่ากำลังติดตามและไม่คืบหน้าเรื่องนี้ผมยังคาใจกับการทำงานที่ล่าช้า เพราะที่กองปราบตาม 3 ชม.ทราบสัญญาณโทรศัพท์ ว่าอยู่ที่ไหนแล้ว" นายศุภกฤต กล่าว

นายศุภกฤต บอกต่อว่า ขณะนี้ตนเองได้สอบถามไปยังตำรวจนครบาล 1 ซึ่งคนที่มีชื่อปรากฏก็ไม่ทราบว่าถูกอ้างเอาชื่อมาใช้ และบอกว่ารู้จักห่างๆ กับชายที่อ้างตัว ส่วนทางผู้หญิงได้สอบถามไปที่ สภ.องครักษ์ จ.นครนายก แล้วพบว่า ถูกอ้างชื่อเช่นกัน โดยมีการแจ้งความและออกหมายจับแล้ว ผมอยากเตือนว่าใครรู้จัก 2 คน หรือแก๊งนี้เขาเป็นมิจฉาชีพ ซึ่งมาสืบอีกทราบว่ารถยนต์ที่ขับมาหาตนเองได้ไปหลอกเพื่อนตัวเองมาด้วย โดยขอผ่อนต่อแต่เอาไปขายซื้อรถเก๋งอีกคันและขับมาหาตนเองเพื่อหลอกเอามือถือไป โดยกลุ่มคนพวกนี้ทำเป็นขบวนการแน่นอน