xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าฯ ททท.เผยเงินสะพัดกว่า 5,700 ล้านบาท ในช่วงวันหยุดยาว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประจวบคีรีขันธ์ - ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ลงพื้นที่ประเมินสถานการณ์การเข้าพักในพื้นที่หัวหินและชะอำ ในช่วงวันหยุดยาว 3 วัน พบว่า โรงแรม รีสอร์ตมีอัตราการเข้าพักค่อนข้างสูง เป็นกลุ่มตลาดคนไทย เผยมีเงินสะพัดในภาพรวมของประเทศในช่วง 3 วันไม่น้อยกว่า 5,700 ล้านบาท

 ในช่วงวันหยุดยาว 3 วันในสุดสัปดาห์นี้ พบว่า บรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวทั้งพื้นที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นไปอย่างคึกคัก สถานที่พักโรงแรม รีสอร์ต และสถานที่ท่องเที่ยวทั้งชายหาดชะอำ หาดหัวหิน ร้านค้า ร้ายขายของที่ระลึกเป็นไปอย่างคึกคัก สร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการ

นายจำนงค์ บุตรสงค์  ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมวีรันดา รีสอร์ต และเวอโซหัวหิน กล่าวว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวในพื้นที่ขณะนี้ดีพอสมควร โดยยอมรับว่า "โครงการเราเที่ยวด้วยกัน" เป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวเข้ามาพักผ่อนตามโรงแรม และรีสอร์ตต่างๆ ในเมืองหัวหินและชะอำ ซึ่งมีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวอยู่แล้ว และต้องยอมรับว่าในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ อัตราการเข้าพักอยู่ที่ร้อยละ 90 บางโรงแรม รีสอร์ตบางแห่งถึง 100 เปอร์เซ็นต์ โดยต้องยอมรับว่าโรงแรมของเราทั้งวีรันดา และเวอโซ เรามีลูกค้าเข้าพักเต็มทั้ง 3 วันตั้งแต่ 9-12 ธันวาคม จำนวน 176 ห้อง ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ ห้องพักของเราราคาเริ่มตั้งแต่ 4,500 บาท ไปจนถึง 9,000 บาท

ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสต่อเนื่องไปจนถึงปีใหม่ จนถึงวันที่ 5 ม.ค. ลูกค้าจองเต็มแล้วในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม ลูกค้าส่วนใหญ่ที่เข้าพักจะผ่านการฉีดวัคซีนมาแล้วครบ 2 เข็มและบางส่วนมีการฉีดเข็มที่ 3 แล้วด้วย ส่วนทางโรงแรมเราได้รับมาตรฐานทางสาธารณสุข ทั้ง SHA และ SHA +รวมทั้งพนักงานของเราผ่านการฉีดวัคซีนครบโดสแล้วทั้งหมดเช่นกัน เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวที่เข้าพักกับทางโรงแรม


สำหรับโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ยอมรับเป็นโครงการที่ดีมาก ซึ่งทราบว่าขณะนี้เหลืออีก 8 หมื่นกว่าสิทธิ คาดว่าน่าจะหมดในเดือนมกราคม 2565 อยากให้ทางรัฐบาลช่วยพิจารณาต่อโครงการเราเที่ยวด้วยกันออกไปอีกจนถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์ จะส่งผลให้เศรษฐกิจและภาคการท่องเที่ยวของประเทศฟื้นตัวต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน นางวาสนา ศรีกาญจนา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ กล่าวว่า อัตราการจองและการเข้าพักของโรงแรม 3-5 ดาว ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ มีทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาจากทั้งในกรุงเทพฯ ใกล้เคียง และภาคอื่นๆ รวมทั้งกลุ่มลูกค้าที่ซื้อคอนโดไว้เป็นบ้านหลังที่ 2 เอาไว้จะเดินทางมาพักผ่อน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่สถานการณ์การท่องเที่ยว น่าจะดีขึ้นส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนไทย

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือกลุ่มโรงแรมขนาดเล็กที่เป็น SME ของทั้ง 2 จังหวัด อัตราเข้าพักยังน้อยอยู่ แต่ในช่วงปีใหม่เชื่อว่า ทั้งชะอำ จ.เพชรบุรี หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ อยู่ใกล้กรุงเทพฯ นักท่องเที่ยวต้องมาแน่นอน และคงต้องฝากหน่วยงานภาครัฐช่วยพิจารณา รวมทั้งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ควรต้องจัดแคมเปญให้โรงแรม SME บ้างเพื่อกระตุ้น ซึ่งในช่วงที่เกิดสถานการณ์โควิด-19 ระบาดใหม่ๆ ทาง ททท.เพชรบุรี และ ททท.ประจวบคีรีขันธ์ มีการจัดการกระตุ้นท่องเที่ยว “เว้าหัวหิน/ชะอำ” ซึ่งก็ทำให้ผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็กเดินต่อไปได้


หยุดยาว 3 วันเงินสะพัดกว่่า 5,700 ล้าน

ขณะเดียวกัน นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ลงพื้นที่หัวหินติดตามสถานการณ์การท่องเที่ยวและพบปะพูดคุยกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวในพื้นที่หัวหิน/ชะอำ ขณะนี้ต้องยอมรับว่าการเปิดประเทศตามนโยบายของรัฐบาล ทุกภาคส่วนได้รับผลดีจากโครงการนี้ ไม่ใช่เพียงการดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเท่านั้น มุมมองคนไทยเองก็เดินทางท่องเที่ยวด้วยทั้งหัวหินและชะอำ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม

พฤติกรรมนักท่องเที่ยวในระยะหลังจะมีการเดินทางไปไม่ไกลนักทั้งกับครอบครัว และกลุ่มเพื่อน ยอมรับว่าอัตราการเข้าพักทั้งหัวหินและชะอำ ค่อนข้างสูงโดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาว และการเข้าพักทั่วประเทศไม่น้อยกว่า 40% มีเงินสะพัดในภาพรวมของประเทศในช่วง 3 วันไม่น้อยกว่า 5,700 ล้านบาท หัวหิน/ชะอำจะได้รับผลดีในวันหยุดยาวครั้งนี้ด้วยเช่นกัน

ในส่วนของโครงการเราเที่ยวด้วยกัน รวมทั้งทัวร์เที่ยวไทย ถือว่าเป็นโครงการสำคัญกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ ทำให้ในช่วงปลายปีการท่องเที่ยวคึกคัก ทำให้ภาพรวมของการท่องเที่ยวไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมา หากในปีหน้ามีการดำเนินโครงการต่อจะเป็นโครงการต่อที่จะช่วยผลักดันให้เป็นไปตามเป้าหมาย เราคิดว่าไม่น้อยว่า 120 ล้านคนครั้ง

เรื่องโครงการดังกล่าวในวันจันทร์จะได้นำเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ต่อไปคิดว่าการขยายโครงการที่เป็นประโยชน์และภาคเอกชนเห็นด้วยคงไม่น่ามีปัญหาหาอะไร ขณะนี้สิทธิกำลังจะหมดจาก 2 ล้านสิทธิ ตอนนี้เหลือแค่ 85,000 สิทธิ คาดว่าจะหมดภายในสิ้นเดือนธันวาคมนี้ เป็นนโยบายของรัฐบาลที่อยากจะให้เป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชนพี่น้องคนไทย







กำลังโหลดความคิดเห็น