มหาสารคาม - ชาวบ้านบ้านทิพโสต อ.โกสุมพิสัย โวยตัดสิทธิเงินออมสัจจะวันละ 1 บาท อบต.ดอนกลาง ไม่แจ้งล่วงหน้า ทำชาวบ้านส่งเงินไม่ทันกำหนดกว่า 50 ครัวเรือน ต้องเริ่มออมใหม่ เงินเก่าสูญหาย วอนช่วยเหลือและส่งเงินออมเดิมคืนชาวบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านบ้านทิพโสต หมู่ 10 ตำบลดอนกลาง อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ร้องเรียนผู้สื่อข่าวว่าได้ออมเงินกับกองทุนวันละบาทกับองค์การบริหารส่วนตำบลดอนกลาง ต่อมาทาง อบต.ได้ปรับเปลี่ยนวิธีเก็บเงินใหม่จนชาวบ้านสับสน ทำให้ไปจ่ายเงินเข้ากองทุนไม่ทันตามเวลากำหนด จึงได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ อบต.ได้รับคำตอบว่าถูกตัดสิทธิ์แล้ว และให้เริ่มออมเงินใหม่ ปัญหาดังกล่าวชาวบ้านทิพโสตมองว่าไม่เป็นธรรมต่อผู้ออมเงิน อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ และต้องการให้อบต.ดอนกลางส่งคืนเงินให้ชาวบ้านด้วย เพราะเงินออมไว้ไม่น้อยกว่า 5 ปีแล้ว
นางลำดวน ศรีพรมใต้ ชาวบ้านทิพโสต หมู่ 10 ต.ดอนกลาง อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม เปิดเผยว่า ตนได้เข้าร่วมออมเงินในกองทุนออมวันละบาท หรือโครงการสัจจะวันละบาทเพื่อกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลดอนกลาง กับ อบต.ดอนกลาง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 ต้องจ่ายปีละ 365 บาทต่อคน หากเสียชีวิตจะได้เงินประมาณ 30,000 บาท ปกติทุกๆ เดือนจะมีผู้ใหญ่บ้านมาคอยประกาศเสียงตามสายให้ลูกบ้านนำเงินมาชำระเข้ากองทุน
ผู้ใหญ่บ้านจะเป็นคนเก็บเงินและนำส่งให้ อบต.ดอนกลาง ซึ่งครอบครัวของตนมี 5 คนส่งเงินทุกเดือนไม่เคยขาด ตกปีละ 365 บาทต่อ 1 คน ถ้ารวม 5 คนต้องจ่ายเงินปีละ 1,825 บาท หากรวม 4 ปีอยู่ที่ 7,300 บาท ถือว่าเป็นจำนวนเงินที่สูงมาก
ต่อมาปี 2563 ทาง อบต.ดอนกลางได้เปลี่ยนเกณฑ์ใหม่ ชาวบ้านหลายคนไม่เข้าใจว่าจะต้องทำอย่างไรรวมถึงตนเองด้วย มาทราบภายหลังว่าจะต้องนำเงินไปเข้ากองทุนด้วยตนเองที่ อบต.ดอนกลาง ซึ่งตนไม่ทราบเรื่อง จึงปล่อยเวลาผ่านไปเนิ่นนาน เมื่อไปติดต่อที่ อบต.ดอนกลางจึงทราบว่าตนและครอบครัวถูกตัดสิทธิ์ไปแล้ว
“ปัญหาที่ติดใจคือ อบต.ดอนกลางไม่เคยออกหนังสือแจ้งเตือน หรือติดต่อให้นำเงินไปเข้ากองทุนเลย ซึ่งชาวบ้านตาสีตาสาไม่รู้ว่าจะต้องไปชำระอย่างไร บางรายเป็นคนแก่อายุมาก เดินทางไป อบต.ไม่สะดวก กลับถูกตัดสิทธิ์ เจ้าหน้าที่แจ้งกลับมาว่าให้เริ่มออมเงินใหม่ แล้วเงินที่จ่ายไปก่อนหน้านี้ตั้งหลายปีกลายเป็นสูญทั้งหมด แล้วแบบนี้ใครจะไปออมเงิน” นางลำดวนกล่าว และว่า
จึงอยากให้ อบต.ดอนกลางมีแนวทางเยียวยา หรือช่วยเหลือชาวบ้านบ้าง ไม่ใช่มาตัดสิทธิ์แบบนี้ ซึ่งไม่ใช่แต่ครอบครัวตนครอบครัวเดียว ทั้งหมู่บ้านมีผู้ถูกตัดสิทธิ์ประมาณ 50 คน อยากวอนถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ และขอเงินที่ส่งไปคืนชาวบ้านด้วย