พะเยา/ลำปาง - ชุดสืบภาค 5 พร้อม ศรภ.-ตำรวจท้องที่ 3 จังหวัดทั้งเชียงราย พะเยา ลำปาง สกัดจับขบวนการขนยานรกล็อตใหญ่ รวบคู่หูชาวพบพระรับงานนายทุนเมืองกาญจน์ขนยาบ้าเต็มกระบะ 5,400,000 เม็ด แหกด่านหน้าโรงพักวังเหนือ-ชน ตร.หวิดดับ
วันนี้ (4 ธ.ค. 64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน ทั้งจากกองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5, สภ.วังเหนือ จ.ลำปาง, สภ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย, สภ.เชียงคำ จ.พะเยา, ศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.ฯ) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมสกัดจับขบวนการลำเลียงยาเสพติดล็อตใหญ่จาก จ.พะเยา แหกจุดตรวจจุดสกัดหน้าโรงพักวังเหนือ ชน จนท.ตำรวจเจ็บหนึ่งนายเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา
การจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาบ้าล็อตใหญ่รายนี้ มีขึ้นหลังตำรวจ บก.สส.ภ.5 ได้รับแจ้งจากสายลับว่ากลุ่มคนเครือข่ายนายบุญชัย หรือป๋อลี ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.สบบง อ.ภูซาง จ.พะเยา และเป็นผู้ต้องหามีหมายจับคดียาเสพติดที่หลบหนีไป จะลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ อ.เชียงคำ, อ.ภูซาง จ.พะเยา เข้าพื้นที่ตอนใน หรือ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยได้ติดต่อว่าจ้างเครือข่ายชาติพันธุ์ชนเผ่าในพื้นที่ ต.คีรีราษฎร์ อ.พบพระ จ.ตาก ลำเลียงยาเสพติด
ประกอบกับได้รับประสานการข่าวกับศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) กองบัญชาการกองทัพไทย มีข้อมูลว่าช่วงวันหยุดยาวห้วงวันที่ 4-6 ธันวาคม 2564 ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดในพื้นที่ อ.ภูซาง จ.พะเยา มีความเคลื่อนไหวจะลักลอบลำเลียงยาเสพติดปริมาณมากไปยังพื้นที่ภาคกลาง
เจ้าหน้าที่จึงรายงานให้ พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สสภ.5, พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 และผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นทราบ และได้รับการสั่งการให้สืบสวนติดตามพฤติการณ์หากพบการกระทำความผิดให้จับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมาวันที่ 2 ธ.ค. 64 ชุดสืบสวนทราบว่า นายบุญชัย อายุ 29 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ ต.คีรีราษฎร์ อ.พบพระ จ.ตาก มีประวัติเคยต้องโทษคดียาเสพติดเมื่อปี 2557 พ้นโทษจำคุกเมื่อเดือนมิถุนายน 2564 ติดต่อกับกลุ่มผู้ว่าจ้าง เชื่อว่าจะเป็นผู้มาลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ จ.พะเยา เข้าสู่ตอนในของประเทศ จึงสืบสวนติดตาม
กระทั่ง 3 ธ.ค. 64 ชุดสืบสวนพบว่านายบุญชัย กับพวก เดินทางจาก อ.พบพระ จ.ตาก มายัง อ.เชียงคำ จ.พะเยา โดยใช้รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีดำ ทะเบียน 1ฒฎ 7487 กรุงเทพมหานคร ด้านท้ายกระบะติดตั้งหลังคาแครี่บอยสำหรับบรรทุกสินค้าเป็นพาหนะ และเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน ต.ห้วยข้าวก่ำ อ.จุน จ.พะเยา เพื่อรอลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ อ.เชียงคำ อ.ภูซาง จ.พะเยา ไปส่งให้กับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ตอนใน
เจ้าหน้าที่ได้เฝ้าสะกดรอยติดตาม กระทั่งเวลาประมาณ 20.00 น.เศษวันเดียวกัน (3 ธ.ค.) พบรถยนต์กระบะอีซูซุที่เป็นเป้าหมายต้องสงสัยออกมาจากหมู่บ้านร่องส้าน ต.ร่มเย็น อ.เชียงคำ จ.พะเยา มุ่งหน้าไป อ.จุน จ.พะเยา โดยมีรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีดำ ขับนำมาระยะห่างประมาณ 3-5 กม. เชื่อว่าจะลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่ตอนในของประเทศ
ชุดสืบสวนได้สะกดรอยติดตามเป้าหมายผ่าน อ.จุน อ.ดอกคำใต้ อ.เมืองพะเยา มุ่งหน้าไป อ.วังเหนือ จ.ลำปาง จึงได้ ประสานงาน สภ.วังเหนือ จ.ลำปาง ตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อตรวจค้นจับกุมบริเวณถนนสายวังเหนือ-พะเยา ทล.120 หน้า สภ.วังเหนือ ต.วังซ้าย อ.วังเหนือ จ.ลำปาง
จนเวลาประมาณ 22.00 น. เจ้าหน้าที่พบรถยนต์ทั้งสองคันมาถึงบริเวณจุดตรวจจุดสกัดหน้า สภ.วังเหนือ รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีดำ คันนำทางได้ไหวตัว หลบหนีไปทาง อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง ส่วนรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีดำ เลขทะเบียน 1ฒฎ 7487 กรุงเทพมหานคร ได้ขับเฉี่ยวชนรถยนต์สายตรวจของ สภ.วังเหนือ และรถยนต์ส่วนตัวของ ร.ต.อ.คมสันต์ ติดสนิท ได้รับความเสียหายทั้งสองคัน ก่อนพุ่งเข้าไปชนหน้าร้านทรัพย์อนันต์การค้า ต.วังซ้าย อ.วังเหนือ จ.ลำปาง ได้รับความเสียหาย
นอกจากนี้ยังได้ขับเฉี่ยวชน ร.ต.อ.คมสันต์ ติดสนิท ซึ่งยืนอยู่บริเวณจุดตรวจจุดสกัด ได้รับบาดเจ็บสาหัสมีบาดแผล บริเวณขาซ้ายฉีก, กระดูกหน้าแข้งขวาหัก จนต้องนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลฯอย่างเร่งด่วน
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมนายบุญชัย คนขับรถ และนายกล้า อายุ 25 ปี ชาว ต.คีรีราษฎร์ อ.พบพระ จ.ตาก ที่นั่งโดยสารมาด้วย ตรวจค้นรถยนต์พบยาบ้า 27 กระสอบบรรทุกมาในท้ายกระบะ ตรวจนับเบื้องต้นพบกระสอบละ 200,000 เม็ด รวมประมาณ 5,400,000 เม็ด
เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งคู่พร้อมของกลางดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งจากการสืบสวนขยายผลผู้ต้องหาทั้งสองให้การว่า รับจ้างนายท้ง ร่มทองกุล ภูมิลำเนา ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่บ้านร่มเย็น อ.เชียงคำ จ.พะเยา ไปยัง จ.พระนครศรีอยุธยา แลกค่าจ้าง 1 ล้านบาท แต่จะได้รับเมื่อส่งยาเสพติดเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะได้ดำเนินการสืบสวนขยายผลหาเครือข่ายผู้ร่วมกระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป