อุดรธานี - สาวแม่ค้าก๋วยเตี๋ยวชาวอุดรฯ เผย โดน ตร.เรียกตัวไปสอบประวัติหลังเข้าประชิดนายกฯ บอกให้เกษียนได้แล้วขณะลงพื้นที่คำชะโนดเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ขณะ “อานนท์ แสนน่าน” แฉเป็นกลุ่มสามนิ้วตัวแม่ คลั่งไคล้ “ธนาธร-ปิยบุตร” ด้านเจ้าตัวยันไม่เกี่ยวขั้วการเมืองใดๆ
จากกรณีช่วงบ่ายวันที่ 1 ธ.ค. 64 ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะได้เดินทางไปยังเกาะคำชะโนด บ้านโนนเมือง ต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เพื่อกราบไหว้สักการะพญานาค ปู่ศรีสุทโธ และย่าศรีประทุมมา ซึ่งหลังจากกราบสักการะเสร็จ พล.อ.ประยุทธ์ได้เดินทักทายชาวบ้านที่มารอต้อนรับ ส่วนใหญ่ตะโกนให้กำลังใจ บอกให้นายกฯ สู้ๆ
อย่างไรก็ตาม ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์เดินมาถึงจุดที่หญิงสูงอายุท่านหนึ่งยืนทักทายอยู่ ปรากฏว่าจู่ๆ ได้มีหญิงอายุประมาณเกือบ 30 ปีพูดขึ้นด้วยเสียงอันดังว่า “อยากให้มาเป็นนายกฯ แล้วพัฒนาเยอะๆ หากพัฒนาไม่ได้ก็ขอให้นายกฯ เกษียณไปเสียเร็วๆ นะคะ”
ทันทีที่ พล.อ.ประยุทธ์ได้ยินก็หันและถามกลับไปยังหญิงคนดังกล่าวว่า พูดอะไรนะ หญิงคนเดิมก็บอกซ้ำว่า หากพัฒนาอะไรไม่ได้ก็ให้เกษียณไปให้คนอื่นมาทำหน้าที่นายกฯ แทน เมื่อได้ยินดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์จึงตอบไปว่า ไปดูที่ผ่านมานายกฯ ทำอะไรสำเร็จแค่ไหนแล้ว ไปดูๆ
ทั้งนี้ คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถูกนำไปโพสต์ในสื่อโซเชียล มีคนแชร์ออกไปจำนวนมาก ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลหรือกลุ่มสามนิ้วต่างชื่นชมว่าหญิงรายนี้กล้าหาญมาก ขณะที่มีคนจำนวนไม่น้อยบอกว่าหญิงคนนี้ตั้งใจมาด่านายกฯ และเป็นฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลที่ต้องการดิสเครดิต พล.อ.ประยุทธ์
ในประเด็นเดียวกันนี้ นายอานนท์ แสนน่าน อดีตผู้ก่อตั้งหมู่บ้านคนเสื้อแดงได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่าหญิงสาวชาวอุดรธานีรายนี้เป็นสาวกกลุ่มสามนิ้วที่ต่อต้านรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้ที่ชื่นชอบคลั่งไคล้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จึงไม่แปลกที่จะแฝงตัวเข้ามาในกลุ่มประชาชนที่มารอต้อนรับนายกฯ เพื่อถือโอกาสด่าหรือด้อยค่านายกฯ
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์นางสา (นามสมมติ) อายุ 28 ปี แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวชาว อ.บ้านดุง อ.บ้านดุง จ.อุดธานี ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว โดยนางสายืนยันว่าทุกคำพูดที่ตนพูดไปกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในวันนั้นเป็นการพูดจากใจ จากความรู้สึกจริงๆ ไม่เกี่ยวกับการเมือง ไม่เกี่ยวว่าตนจะอยู่ขั้วไหน แค่อยากให้นายกฯ รับฟังความเห็นจากคนรุ่นใหม่ หากพัฒนาได้ก็อยู่ต่อ แต่หากพัฒนาไม่ได้ก็น่าจะเกษียณได้แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมจากข้อมูลที่ได้จากนางสา นางสาบอกว่าภายหลังเรื่องนี้กลายเป็นข่าวโด่งดัง ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านดุงได้ติดต่อแจ้งมาว่าจะมาพบที่บ้าน แต่ตนไม่อนุญาตเพราะไม่มีอะไรจะคุยด้วย ทางตำรวจจึงเปลี่ยนเป็นเชิญตัวไปซักประวัติ ตนก็ยืนยันว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ไม่จำเป็นต้องไปถ่ายรูปทำประวัติอะไรทั้งนั้น